ประเทศเวียดนามที่เจริญรุ่งเรืองจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ให้แก่เอเปค

(VOVworld)- การประชุมสุดยอดผู้บริหารสถานประกอบการเอเปค2012 – CEO Summit ภายใต้หัวข้อแก้ปัญหาความท้าทายเปิดโอกาสแห่งความร่วมมือ ได้มีขึ้นในวันที่7กันยายน ณ นคร วลาดีวอสต๊อก ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในการประชุมนัดสำคัญในกรอบของสัปดาห์เอเปค2012ที่ เป็นโอกาสให้บรรดาผู้บริหารสถานประกอบการชั้นนำของภูมิภาคร่วมหารือเพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือ โอกาสนี้ ท่านเจืองเตินซางประธานประเทศก็ได้ส่งสาส์นถึงที่ประชุมโดยย้ำถึงการประสานผลประโยชน์และหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกัน


(VOVworld)- การประชุมสุดยอดผู้บริหารสถานประกอบการเอเปค2012 – CEO Summit ภายใต้หัวข้อแก้ปัญหาความท้าทายเปิดโอกาสแห่งความร่วมมือ ได้มีขึ้นในวันที่7กันยายน ณ นคร วลาดีวอสต๊อก ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในการประชุมนัดสำคัญในกรอบของสัปดาห์เอเปค2012ที่ เป็นโอกาสให้บรรดาผู้บริหารสถานประกอบการชั้นนำของภูมิภาคร่วมหารือเพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือ โอกาสนี้ ท่านเจืองเตินซางประธานประเทศก็ได้ส่งสาส์นถึงที่ประชุมโดยย้ำถึงการประสานผลประโยชน์และหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกัน
ประเทศเวียดนามที่เจริญรุ่งเรืองจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ให้แก่เอเปค - ảnh 1
การประชุมสุดยอดผู้บริหารสถานประกอบการเอเปค2012 

สาส์นของประธานประเทศเจืองเตินซางในที่ประชุมซีอีโอซัมมิตเอเปคได้ย้ำว่า บรรดาสมาชิกเอเปคกำลังร่วมประสานผลประโยชน์ต่างๆและมีความรับผิดชอบร่วมกันในการปฏิบัติหน้าที่ นั่นคือการผลักดันการความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ ธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและความเจริญรุ่งเรืองในเอเซียแปซีฟิก ยืนหยัดบทบาทเป็นแกนนำของเอเซียแปซีฟิกในกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก สนับสนุนให้เศรษฐกิจของสมาชิกฟื้นตัวและพัฒนาในสภาวการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในความเสี่ยงสูง ตลอดจนร่วมกันรับมือกับความท้าทายต่างๆที่มีต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรุ่งเรืองของภูมิภาคและโลก เช่น ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านอาหาร การป้องกันภัยธรรมชาติ การลดช่องว่างการพัฒนาเป็นต้น ซึ่งประธานเจืองเตินซางได้ยืนยันว่า ในสภาวการณ์ของภูมิภาคและโลกที่มีความผันผวนอย่างซับซ้อนและรวดเร็วนั้น เวียดนามก็ได้รับประโยชน์และจะมีความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อร่วมกับสมาชิกเอเปคแบกรับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ดังกล่าวของภูมิภาค เวียดนามกำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนายุทธศาสตร์และเปลี่ยนแปลงใหม่ในทุกด้านและกำลังปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างเข้มแข็งในเชิงรุก โดยถือการผสมผสานทางเศรษฐกิจเป็นพื้นฐานเพื่อผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย  ดังนั้น เอเซียแปซีฟิกรวมทั้งฟอรั่มเอเปคยิ่งมีความหมายสำคัญต่อเวียดนาม เป็นภูมิภาคที่มีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับการพัฒนาของเวียดนามทั้งในด้านเศรษฐกิจ การต่างประเทศ ความมั่นคงและการพัฒนา โดยประเทศหุ้นส่วนต่างๆที่เวียดนามได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์หรือมีบทบาทสำคัญแห่งยุทธศาสตร์ต่อเวียดนามส่วนใหญ่อยู่ในเอเซียแปซีฟิก

ในการยกตัวอย่างความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างเอเซียแปซีฟิกกับเวียดนามท่านเจืองเตินซางได้ชี้ชัดว่า ปัจจุบันภูมิภาคนี้ถือเป็นภูมิภาคที่มีการลงทุนโดยตรงมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ65ของยอดเงินทุนจากต่างประเทศ ในด้านมูลค่าการส่งออกนั้น เอเซียแปซิฟิกมีส่วนแบ่งคิดเป็นร้อยละ60และการนำเข้าคิดเป็นร้อยละ80 ส่วนในจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเวียดนามนั้นเป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคนี้ถึงร้อยละ75  ดังนั้นหนึ่งในแนวทางการวางนโยบายใหญ่ของเวียดนามคือต้องมีส่วนร่วมเสริมสร้างระเบียบความร่วมมือและเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในทุกระดับตั้งแต่ระดับอนุภูมิภาค ในกรอบของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เอเปคและเอเซียแปซีฟิกเวียดนามกำลังเน้นปฏิบัติพันธกรณีต่างๆ โครงการอำนวยความสะดวกและเปิดเสรีการค้า การลงทุน การบริการ การเชื่อมโยงในภูมิภาคเพื่อสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน เชื่อมโยงเศรษฐกิจอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆและปฏิบัติเป้าหมายโบกอร์ โดย11จาก13ข้อตกลงการค้าเสรีเอฟทีเอที่เวียดนามได้ลงนามหรือกำลังทำการเจรจานั้นต่างก็อยู่ในขอบเขตของภูมิภาคนี้ทั้งสิ้น พวกเรากำลังร่วมกับสมาชิกที่เข้มแข็งทำการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจข้ามแปซีฟิกเริ่มกระบวนการเจรจาข้อตกลงเอฟทีเอกับสาธารณรัฐเกาหลีและในเร็วๆนี้จะทำการเจรจาข้อตกลงเอฟทีเอกับสหภาพศุลกากรรัสเซีย-เบลารุสและคาซักสถานในเร็วๆนี้

ประธานเจืองเตินซางย้ำว่า นี่เป็นพื้นฐานเพื่อให้เวียดนามขยายความร่วมมือและการเชื่อมโยงในภูมิภาคให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ตลอดจนเข้าร่วมกระบวนการผลิตและจำหน่ายในภูมิภาคและที่สำคัญกว่าก็คือเพื่อมีส่วนร่วมธำรงการพัฒนาที่คล่องตัวของเอเซียแปซีฟิก  ส่วนสถานการณ์ภายในประเทศนั้น เวียดนามกำลังพยายามสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจมหภาค รักษาอัตราการขยายตัวที่เหมาะสมและดำเนินแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจแบบเบ็ดเสร็จ  นอกจากนี้เวียดนามกำลังเร่งแสวงหามาตรการต่างๆเพื่อปรับปรุงการลงทุนภาครัฐ กลุ่มบริษัทและเครือบริษัทของรัฐบาล ระบบธนาคารพาณิชย์และองค์กรการเงินต่างๆ ตลอดจนมีความตั้งใจอันแน่วแน่ในการปราบปรามการคอร์รับชั่น ผลักดันการปฏิรูประเบียบราชการเพื่อเพิ่มความมีเสถียรภาพและความโปร่งใสในด้านนโยบายเศรษฐกิจและการปรับปรุงระเบียบทางนิตินัยให้แก่การลงทุนประกอบธุรกิจ  ประธานประเทศได้ยืนยันว่า ในกว่า25ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ บรรดาสมาชิกเอเปคได้ยืนเคียงข้างเวียดนามมาตลอดและในระยะที่สำคัญทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เวียดนามก็มีความปรารถนาว่าจะได้รับการสนับสนุนมากขึ้นจากประชาคมระหว่างประเทศโดยเฉพาะความคิดเห็นต่อการร่างนโยบายและข้อเสนอแนะต่างๆพร้อมกับมาตรการที่เป็นรูปธรรมต่อไป เวียดนามได้ให้คำมั่นและกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อสร้างบรรยากาศที่สะดวกและโปร่งใสที่สุดให้บรรดาผู้ประกอบการสมาชิกเอเปคเพื่อการประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพในเวียดนาม เพราะประเทศเวียดนามที่เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองจะมีส่วนร่วมสร้างความคล่องตัวและความรุ่งเรืองของทั้งภูมิภาคตลอดจนจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่บรรดาผู้ประกอบการเอเปค./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด