ปากีสถานกับความท้าทายที่ต้องรับมือ

(VOVworld)- 1วันหลังการประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่11พฤษภาคม อดีตนายกฯปากีสถาน นาวาซ ชารีฟ ก็เริ่มทำการหารือเพื่อมุ่งสู่การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่กับสส.อิสระหลายนายและพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีของบางกระทรวงที่สำคัญ แต่ท่าทีที่แสดงออกถึงความเร่งรีบของนาย ชารีฟ นั้นสามารถเข้าใจได้เพราะเขาเข้าใจถึงความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กำลังรอให้รัฐบาลชุดใหม่หาทางแก้ไขโดยเฉพาะคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจและปัญหาความมั่นคง

(VOVworld)- 1วันหลังการประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่11พฤษภาคม อดีตนายกฯปากีสถาน นาวาซ ชารีฟ ก็เริ่มทำการหารือเพื่อมุ่งสู่การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่กับสส.อิสระหลายนายและพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีของบางกระทรวงที่สำคัญ แต่ท่าทีที่แสดงออกถึงความเร่งรีบของนาย ชารีฟ นั้นสามารถเข้าใจได้เพราะเขาเข้าใจถึงความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กำลังรอให้รัฐบาลชุดใหม่หาทางแก้ไขโดยเฉพาะคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจและปัญหาความมั่นคง
ปากีสถานกับความท้าทายที่ต้องรับมือ - ảnh 1
อดีตนายกฯปากีสถาน นาวาซ ชารีฟ(Photo AFP)

อดีตนายกฯปากีสถาน นาวาซ ชารีฟ เคยยอมรับว่าเขาเข้ามารับหน้าที่บริหารประเทศในสภาวการณ์ที่เต็มไปด้วยความผันผวนที่ซับซ้อนและนี่ก็เป็นความจริงเมื่อมองจากภาพรวมของปากิสถาน โดยปัญหาที่สร้างความผิดหวังให้แก่ประชาชนมากที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจซบเซา อัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูง การผลิตอยู่ในภาวะชงักงัน ในขณะที่วิกฤตด้านพลังงานได้ส่งผลให้ท้องถิ่นหลายแห่งของประเทศไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นเวลา20ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้ ในรอบ5ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศปากิสถานที่ประชากรมากถึง190ล้านคนนั้นก็มีอัตราการขยายตัวต่ำคิดเฉลี่ยเป็นเกือบร้อยละ3ต่อปีในรอบ3ปีติดต่อกันเท่านั้นและแต่ละปีมีแรงงานประมาณ2ล้านคนไม่มีงานทำ ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลชุดก่อนถูกตำหนิอย่างรุนแรง นอกจากนั้น ปากีสถานยังต้องเผชิญกับวิกฤตด้านดุลชำระเมื่อการขยายตัวของจีดีพีปีที่แล้วลดลงเกือบร้อยละ3ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ11 ซึ่งบรรดาผู้นำประเทศได้วางเป้าหมายว่าจะควบคุมการขาดดุลงบประมาณให้อยู่ที่ร้อยละ4.7ของจีดีพีในปีนี้แต่ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ตัวเลขดังกล่าวอาจจะสูงกว่านี้และได้เตือนให้รัฐบาลชุดใหม่ต้องขอความช่วยเหลือมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐจากองทุนการเงินระหว่างประเทศ ในขณะเดียวกัน กระแสการใช้ความรุนแรงและลัทธิก่อการร้ายก็กำลังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วภายในประเทศ โดยในระหว่างจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่11พฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้มีผู้เสียชีวิต32คนและบาดเจ็บกว่า200คนจากการโจมตีกว่า40ครั้งในทั่วปากีสถานซึ่งหากนับรวมช่วงวันของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งแล้ว จำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บก็จะสูงกว่านี้หลายเท่ารวมทั้งผู้ลงสมัคร3คน

ทางด้านนายชารีฟ โดยที่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมานานพร้อมทั้งเคยรับตำแหน่งนายกฯ2สมัย เขาจึงเข้าใจดีถึงปัญหาที่เร่งด่วนในสังคมและได้เสนอคำขวัญที่ว่า “เศรษฐกิจเข้มแข็ง-ประเทศปากีสถานก็เข้มแข็ง” แต่เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ งานชิ้นแรกที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องทำคือผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ ต่อต้านการคอร์รับชั่นและแสวงหาทางออกให้แก่วิกฤตพลังงานในปัจจุบัน ซึ่งนายชารีฟก็ได้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดอย่างเสรี ธำรงนโยบายส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนและการปรับลดราคาไฟฟ้า โดยในการกล่าวปราศรัยต่อกลุ่มผู้สนับสนุนหลังประกาศชัยชนะ นายชารีฟได้เรียกร้องให้เชิดชูการปรองดองชาติและให้ทุกพรรคฝ่ายร่วมเจรจาหารือเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาของประเทศ นอกจากนั้น นายชารีฟยังได้เรียกร้องให้มีการสนทนากับฝ่ายตาลิบันและขบวนการอิสลามหัวรุนแรงที่เป็นฝ่ายก่อเหตุรุนแรงในระหว่างการจัดการเลือกตั้งโดยถือเป็นมาตรการยุติสถานการณ์ความวุ่นวายที่ยืดเยื้อในปากีสถานในเกือบ7ปีที่ผ่านมา

สื่อต่างๆได้รายงานบรรยากาศในประเทศเอเซียใต้นี้ว่าเสมือนมีงานเทศกาลเพราะประชาชนได้แสดงความปลื้มปิติยินดีต่อโอกาสที่จะนำความเปลี่ยนแปลงใหม่มาสู่ประเทศ แต่ความเปลี่ยนแปลงนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถในการนำพาประเทศของนาย นาวาซ ชารีฟ บุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งนายกฯปากีสถาน2สมัยในช่วงปี90ของศตวรรษก่อน./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด