ปี๒๐๑๔ – ปีแห่งหายนะของหน่วยงานการเดินอากาศโลก

(VOVworld) –  ปี๒๐๑๔เป็นปีที่เกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบินมากที่สุดโดยตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบันได้เกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบินรวม๓๐ครั้งในทั่วโลกทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า๑พันคนซึ่งเกิดขึ้นจากทั้งการผิดพลาดทางเทคนิคของเครื่องบิน จากตัวนักบินและภัยธรรมชาติและจากการจงใจของผู้ที่ไม่หวังดีที่ประชาคมระหว่างประเทศได้ประณามและถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

(VOVworld) –  ปี๒๐๑๔เป็นปีที่เกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบินมากที่สุดโดยตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบันได้เกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบินรวม๓๐ครั้งในทั่วโลกทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า๑พันคนซึ่งเกิดขึ้นจากทั้งการผิดพลาดทางเทคนิคของเครื่องบิน จากตัวนักบินและภัยธรรมชาติและจากการจงใจของผู้ที่ไม่หวังดีที่ประชาคมระหว่างประเทศได้ประณามและถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

ปี๒๐๑๔ – ปีแห่งหายนะของหน่วยงานการเดินอากาศโลก - ảnh 1
เศษซากเครื่องบินเอ็มเอช๑๗ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ถูกยิงตกใกล้กราโบวา ภาคตะวันออกยูเครน(Photo:Reuters )

อุบัติเหตุทางเครื่องบินที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อปี๑๙๗๒โดย มีผู้เสียชีวิตมากถึง๓พัน๓ร้อยคน ส่วนจนถึงปัจจุบัน อุบัติเหตุทางเครื่องบินที่ถือว่าร้ายแรงที่สุดคือของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์เมื่อวันที่๑๒สิงหาคมปี๑๙๘๕ที่มีผู้โดยสารและลูกเรือ๕๒๐คนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุทางเครื่องบินที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี๒๐๑๔ทั้งเส้นทางบินภายในประเทศและต่างประเทศได้ทำให้ทั่วโลกต้องตกใจเกี่ยวกับความหายนะและความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ยากจะคำนวณได้ อีกทั้งเป็นสัญญาณเตือนให้หน่วยงานการบินต้องทบทวนเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย

วันที่น่าตกใจที่สุดของหน่วยงานการบินโลกปี๒๐๑๔

เมื่อวันที่๘มีนาคมปี๒๐๑๔ เครื่องบินโบอิ้ง๗๗๗เที่ยวบินเอ็มเอช๓๗๐ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลนส์ได้สูญหายอย่างปริศนาขณะบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่งซึ่งการหายไปอย่างไร้ร่องรอยนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของการบินยุคใหม่ หลายประเทศได้ร่วมกันค้นหาทั้งทางอากาศและทางทะเลคลอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้างและต้องใช้เงินนับร้อยล้านเหรียญสหรัฐซึ่งถือเป็นการค้าหาเครื่องบินที่ใช้งบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ การตั้งข้อสันนิษฐาน ข้อสงสัยและการสอบสวนต่างๆได้ดำเนินไปอย่างเข้มข้นแต่จนถึงปัจจุบันก็ไม่มีใครทราบถึงชะตากรรมและร่องรอยของเครื่องบินดังกล่าวพร้อมกับผู้โดยสาร๒๒๗คนและลูกเรือ๑๒คน

ส่วนเมื่อวันที่๑๗พฤษภาคมปี๒๐๑๔ จากเหตุเครื่องบินกองทัพอากาศลาวรุ่นเอเอ็น๗๔ ทีเคที๓๐๐ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารลาว๑๙นายโดยสารมาด้วยได้ประสบอุบัติเหตุตกขณะเดินทางไปร่วมงานฉลองครบรอบ๕๕ปีการรบชนะสหรัฐอเมริกา ที่ทุ่งไหหินแขวงเชียงขวาง ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเสียชีวิต๔ราย  เดือนกรกฎาคมปี๒๐๑๔เป็นเดือนที่หน่วยงานการบินโลกต้องเผชิญกับข่าวร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่๗กรกฎาคม เครื่องบินฝึกบินของเหล่าทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานเวียดนามประสบอุบัติเหตุตกทำให้ทหาร๑๘นายเสียชีวิต ต่อจากนั้นอีก๑สัปดาห์ เครื่องบินทหารของกัมพูชาได้ประสบอุบัติเหตุตกในขณะกำลังฝึกบินทางทิศใต้ของกรุงพนมเปญทำให้มีผู้เสียชีวิต๕คนและได้รับบาดเจ็บ๑คน เมื่อวันที่๑๗กรกฎาคม เฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงของสาธารณรัฐเกาหลีประสบอุบัติเหตุตกทางทิศใต้ของประเทศทำให้ผู้ที่อยู่บนเครื่องบินทั้ง๕คนเสียชีวิตและวันที่๒๓กรกฎาคม เครื่องบินโดยสารของไต้หวันที่บินจากเมืองเกาสงไปเผิงฮูต้องเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายในการพยายามาลงจอดครั้งแรก ส่วนในการพยายามร่อนลงจอดครั้งที่๒นั้นไม่ประสบความสำเร็จและเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต๕๑รายและได้รับบาดเจ็บอีก๗ราย

โศกนาฏกรรมบนน่านฟ้า

แต่อุบัติเหตุที่ถือว่าร้ายแรงที่สุดและสร้างความตกตะลึง เศร้าสลด และโกรธแค้นมากที่สุดในหมู่ประชามติคือ เครื่องบินเอ็มเอช๑๗ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ได้ถูกยิงตกในขณะที่กำลังบินผ่านน่านฟ้าของยูเครนทำให้มีผู้เสียชีวิต๒๙๘คน เกือบครึ่งปีผ่านพ้นไป ความพยายามค้นหาความจริงยังไม่ประสบความสำเร็จและประชามติยิ่งโกรธแค้นเมื่อเห็นว่าตัวการก่อเหตุยังไม่ถูกนำตัวขึ้นศาลโลกดำเนินคดี

ทำไมเครื่องบินโดยสารถูกยิงตกและใครคือผู้ยิงเครื่องบิน ทำไมเครื่องบินเอ็มเอช๑๗ยังคงบินผ่านเขตสู้รบและกล่องดำของเครื่องบินเอ็มเอช๑๗บันทึกอะไรไว้คือคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ การสอบสวนในทุกด้านอย่างเข้มข้นจากหลายฝ่ายหลังเกิดอุบัติเหตุค่อยๆลงความสำคัญและประชามติเห็นแต่การถกเถียงระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้องแทนการร่วมมือกันเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง รัฐบาลยูเครนกล่าวหาบรรดานักรบต่อต้านในภาคตะวันออกยูเครนว่าเป็นผู้ยิงเครื่องบินเอ็มเอช๑๗ตกด้วยจรวดต่อสู้อากาศยาน ส่วนกองกำลังต่อต้านทางการกรุงเคียฟปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ในขณะที่ฝ่ายรัสเซียเห็นว่า รัฐบาลยูเครนต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุทางเครื่องบินเอ็มเอช๑๗ ส่วนสหรัฐและตะวันตกกลับโยนความผิดให้แก่รัสเซียว่า อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมดังกล่าว

ความหายนะจะไม่เกิดขึ้น ถ้าหากเขตนี้มีสันติภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ประชามติมีความสังสัยว่า ในยุคที่เทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนาไปไกลมากแล้วแต่ทำไมการสืบสวนสาเหตุอุบัติเหตุทางเครื่องบินกลับไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร แล้วใครจะเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ผู้เคราะห์ร้าย๒๙๘คนซึ่งอุบัติเหตุของเที่ยวบินเอ็มเอช๑๗ถือเป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับผลเสียจากสงครามระหว่างกลุ่มผลประโยชน์และชาติพันธุ์ต่างๆที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อเพื่อให้มวลมนุษย์เรียกร้องสันติภาพอีกครั้ง./.

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด