(VOVworld)-การประชุมรัฐมนตรีด้านบุคลากรของฟอรั่มความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปกครั้งที่6เพิ่งเสร็จสิ้นลงที่กรุงฮานอย ซึ่งนับเป็นกิจกรรมยืนยันกระบวนการ25ปีแห่งการก่อตั้งและพัฒนาของเอเปกและเตรียมให้แก่การที่เวียดนามรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดเอเปกครั้งที่25ปี2017 ดังนั้นความสำเร็จของการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันอีกครั้งว่าเวียดนามได้ให้ความร่วมมือกับเอเปกเพื่อผลักดันความร่วมมือ สร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับบรรยากาศการแข่งขันใหม่ของโลก

นายกฯเวียดนามกล่าวปราศรัยเปิดการประชุมรัฐมนตรีเอเปกครั้งที่6เกี่ยวกับบุคลากร

การประชุมรัฐมนตรีเอเปกครั้งที่6เกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรได้เน้นหารือใน3หัวข้อใหญ่เกี่ยวกับการสนับสนุนการขยายตัวอย่างยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากโลกาภิวัตน์ การยกระดับคุณภาพแหล่งบุคลากรเพื่อตอบสนองความต้องการของระบบการผลิตและผลักดันการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบด้านบุคลากรและการพัฒนาทักษะวิชาชีพ การประชุมนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญเพื่อแปรเนื้อหาของแถลงการณ์ร่วมผู้นำเอเปกในที่ประชุมเอเปกครั้งที่21ให้เป็นรูปธรรมที่มุ่งกระชับความร่วมมือพัฒนาแหล่งบุคลากรไม่เพียงแต่ในกลุ่มเอเปกเท่านั้นหากรวมถึงหุ้นส่วนนอกกลุ่มอีกด้วย

แหล่งบุคลากรเป็นปัจจัยที่มีส่วนร่วมสำคัญในการขยายตัวของเอเปก

สามารถยืนยันได้ว่า ในกระบวนการ25ปีแห่งการพัฒนาเอเปกได้ให้ความสนใจต่อการส่งเสริมประสิทธิภาพแหล่งบุคลากรที่มีทักษะความสามารถนับวันเพิ่มสูงขึ้นควบคู่กับการพัฒนากลไกที่มีความสอดคล้อง เชิดชูคุณค่าของมนุษยศาสตร์ การปกป้องและเชื่อมโยงมนุษย์ แต่อย่างไรก็ดีในแนวโน้มของโลกาภิวัตน์และการพัฒนาอย่างเสรีที่นับวันได้รับการแพร่ขยายอย่างกว้างลึกนั้น รูปแบบความร่วมมือและเชื่อมโยงเศรษฐกิจแบบพหุภาคีกำลังสร้างทั้งโอกาสใหม่และความท้าทายใหม่ให้แก่ทั่วโลกรวมถึงสมาชิกของเอเปก ซึ่งนับเป็นสิ่งที่นายกฯได้ย้ำถึงในการกล่าวปราศรัยเปิดประชุมรัฐมนตรีเอเปกครั้งที่6เกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรนี้“ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกยังประสบอุปสรรคและความท้าทายมากมายที่เราต้อนรับมือเช่นการฟื้นตัวล่าช้าและไม่มั่นคง อัตราคนว่างงานยังสูง อุปสงค์กับอุปทานแรงงานที่มีฝีมือไม่สมดุล สังคมไร้เสถียรภาพและความเสี่ยงอื่นๆและนี่ก็เป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขทั้งระดับในประเทศ ภูมิภาคและทั่วโลกเพราะความตั้งใจและความพยายามของแต่ละสมาชิกนั้นแม้จะเป็นปัจจัยสำคัญแต่ก็ยังถือว่าไม่พอที่จะแก้ไข”

โอกาสและความท้าทายเนื่องจากแนวโน้มการเคลื่อนไหวในเอเปก

โดยที่ได้ตระหนักดีว่าบุคลากรที่มีคุณภาพสูงคือกุญแจช่วยเปิดทางและค้ำประกันการพัฒนาแบบบูรณาการอย่างยั่งยืนในสภาวการณ์ของโลกาภิวัตน์และแนวโน้มการขยายตัวอย่างเสรีที่นับวันกว้างลึกยิ่งขึ้นนั้น เวียดนามได้วางแผนการพัฒนาจุดแข็งในด้านบุคลากรเพื่อเข้าร่วมกระบวนการผลิตแรงงานในระดับสากล แต่ในขณะเดียวกันเวียดนามก็ต้องเผชิญกับความท้าทายไม่น้อยเช่นการปฏิบัติคำมั่นต่างๆในกลไกความร่วมมือระดับภูมิภาคและโลกอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ“เมื่อก่อนนี้เอเปกเป็นเพียงกลไกความร่วมมือเดียวแต่ปัจจุบันก็มีการจัดตั้งกลไกใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะกลไกความร่วมมือข้อตกลงหุ้นส่วนร่วมมือทางเศรษฐกิจข้ามแปซิฟิกหรือทีพีพี ความร่วมมือภูมิภาคเอเชียตะวันออกหรือกลไกความร่วมมือทวิภาคีอื่นๆ ดังนั้นเอเปกต้องยืนยันสถานะอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนในการแข่งขัน ซึ่งถ้าหากคำมั่นเดิมดำเนินไปอย่างล่าช้าก็จะมีคำมั่นร่วมมือในกลไกใหม่ที่เข้มแข็งกว่า สำหรับเวียดนาม เราไม่เพียงแต่เป็นสมาชิกเอเปกเท่านั้นหากยังเป็นสมาชิกของกลไกความร่วมมืออื่นๆอีกด้วยดังนั้นจึงต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายและความขัดแย้งระหว่างการปฏิบัติตามคำมั่นต่างๆ  ทั้งนี้เวียดนามจำเป็นต้องร่างมาตรฐานเพื่อให้คำมั่นต่างๆที่สามารถเกื้อหนุนกันได้ดี”

ผลักดันกลไกความร่วมมือต่างๆในเอเปก

ในตลอด16ปีที่เป็นสมาชิกของเอเปกเวียดนามได้ให้ความร่วมมืออย่างเข้มแข็งและจะร่วมกับสมาชิกเอเปกผลักดันกลไกความร่วมมือและเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับบรรยากาศการแข่งขันใหม่ในระดับสากล  การประชุมครั้งนี้จึงมีส่วนกระชับความเชื่อมโยงต่างๆให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นผ่านการเสนอข้อคิดริเริ่มและข้อเสนอใหม่พร้อมมาตรการที่มีประสิทธิภาพที่ถือมนุษย์เป็นศูนย์กลางและจำกัดผลกระทบในทางลบจากกระแสโลกาภิวัตน์  ซึ่งเวียดนามกำลังเร่งเตรียมพร้อมให้แก่การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดเอเปกครั้งที่25ในปี2017ดังนั้นข้อคิดริเริ่มในการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีเช่นนี้ในเวียดนามจึงได้รับการชื่นชมจากสมาชิกเอเปก นายเดวิด ดอดเวล ตัวแทนสภาธุรกิจเอเปกกล่าวว่า“เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก2017ดังนั้นผมเห็นว่านี่คือการเตรียมการที่ดีของเวียดนามเพื่อความสำเร็จของเอเปก2017 ซึ่งกิจกรรมที่เข้มแข็งที่เวียดนามปฏิบัติในเอเปกถือเป็นการกระตุ้นกระบวนการเจรจาและผสมผสานของเวียดนามในอนาคตข้างหน้า”

ภายหลังได้ดำเนินภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศมาเกือบ30ปี เวียดนามกำลังอยู่ในยุคที่แรงงานมีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดและจะยาวไปอีก30-35ปีตามการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นการปฏิบัติมาตรการที่สอดคล้องในการฝึกสอนอาชีพและการใช้แรงงานอย่างเหมาะสมโดยเฉพาะความร่วมมือที่เข้มแข็งในกลไกความร่วมมือที่สำคัญระดับสากลดังเช่นเอเปกคือเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อให้เวียดนามผลักดันการขยายตัวการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม./.