(VOVworld)- วันที่23เดือนนี้ ณ กรุงปักกิ่งประเทศจีนได้มีการจัดการเจรจาทวิภาคีระดับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศครั้งแรกระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีนับตั้งแต่ผู้นำคิมจองอิลถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว  ซึ่งถึงแม้ก่อนหน้านั้นจะมีการคาดการณ์แล้วว่า ยากที่จะมีก้าวกระโดดใหม่ในปัญหาดังกล่าวแต่ตามความเห็นของผู้สังเกตุการ การเจรจานี้จะสะท้อนให้เห็นถึงทัศนะและความจริงจังของทั้งวอชิงตันและเปียงยางในการปรับความสัมพันธ์ทวิภาคีและสร้างพื้นฐานเพื่อฟื้นฟูการเจรจา6ฝ่ายว่าด้วยปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีในอนาคต

หัวหน้าคณะเจรจาของสหรัฐได้เดินทางถึงกรุงปักกิ่ง  (photo Reuters)

            การสนทนาครั้งนี้จะเป็นการยืนยันอีกครั้งถึงข้อตกลงที่ฝ่ายสหรัฐได้เรียกร้องให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลียุติโครงการเสริมสมรรถภาพยูเรเนี่ยมภายใต้การตรวจสอบของสำนักงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอเพื่อแลกกับการช่วยเหลือด้านอาหารจากสหรัฐ นอกจากนั้นนี่ก็เป็นโอกาสเพื่อโน้มน้าวให้เปียงยางกลับเข้าร่วมการเจรจา6ฝ่ายเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ที่ถูกชงักงันมาตั้งแต่เดือนเมษายนปี2009 ซึ่งบรรดาผู้สังเกตุการณ์เห็นว่า นี่มิใช่หัวข้อใหม่และผลการสนทนานั้นก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของทุกฝ่าย ในขณะเดียวกันนักวิเคราะห์หลายคนได้แสดงความเห็นว่า ผลการสนทนานั้นมิใช่เรื่องสำคัญ หากสิ่งที่น่าสนใจกว่าคือการที่สองฝ่ายได้จัดการสนทนาครั้งนี้ซึ่งหมายความว่าการสนทนาโดยตรงยังคงได้รับการธำรงต่อไปและในส่วนลึกๆนั้นจะเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนและนโยบายของสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีในระยะแห่งการถ่ายโอนอำนาจของเปียงยาง โดยสิ่งนี้ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นจากการที่เมื่อวันที่22ที่ผ่านมาภายหลังได้เดินทางถึงกรุงปักกิ่ง หัวหน้าคณะเจรจาของสหรัฐได้เผยว่า สหรัฐอยากเห็นแนวทางนโยบายของผู้นำคิมจองอุลและความจริงจังของเปียงยางในการปฏิบัติก้าวเดินต่อไปเพื่อสร้างความพอใจให้แก่ประชาคมระหว่างประเทศ ในขณะเดียวกันสำหรับฝ่ายเปียงยางนั้นการเจรจานี้ก็ถือเป็นโอกาสเพื่อพิสูจน์คำยืนยันของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐมีความปรารถนาในการปรับความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีในยุคของนายคิมจองอุน

            ซึ่งไม่เพียงแต่วอชิงตันและเปียงยางเท่านั้นที่อยากดูท่าทีของกันและกัน หากประเทศอื่นๆในเอเซียตะวันออกเฉียงเหนือก็ให้ความสนใจต่อการสนทนาดังกล่าวโดยถือเป็นโอกาสเพื่อฟื้นฟูการเจรจา6ฝ่ายเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี  เพราะฉะนั้นก่อนเปิดการสนทนา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แสดงความหวังว่าการเจรจาทวิภาคีระหว่างเปียงยางกับวอชิงตันจะประสบผลงานในแนวบวกเพื่อเอื้อให้แก่การฟื้นฟูการเจรจา6ฝ่าย ส่วนสาธารณรัฐเกาหลีได้ยืนยันว่า นี่เป็นการพบปะที่ประชามติรอคอยเพราะจะช่วยเปิดโอกาสฟื้นฟูกระบวนการเจรจาด้านนิวเคลียร์ ในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น โคอิจิโร เกมบะ ได้เผยว่า ญี่ปุ่นมีความยินดีการที่สหรัฐและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีจัดการสนทนากันและญี่ปุ่นจะพยายามกระชับความร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างๆต่อไปเพื่อรแก้ไขปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี

            ถึงแม้ว่าการสนทนาทวิภาคีครั้งนี้จะเป็นการสนทนาระดับสูงแต่ก็ยังเป็นเพียงการดูท่าทีของกันและกันเท่านั้นแต่ในมุมกลับกันก็แสดงให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายได้กระเถิบเข้าใกล้กันมากขึ้นเพื่อร่วมกันแก้ไขความขัดแย้งที่มีมาช้านานหรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือแนวโน้มแห่งการสนทนาจะแทนที่แนวโน้มแห่งการเผชิญหน้า./.