ผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม-อินเดีย

(VOVWORLD) - วันที่ 2 มีนาคม ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวางพร้อมภริยาได้เดินทางไปเยือนประเทศอินเดียเป็นเวลา 3 วันตามคำเชิญของประธานาธิบดีอินเดีย รามนาถโกวินท์  การเยือนนี้มีขึ้นหลังจากจัด “ปีมิตรภาพเวียดนาม-อินเดีย 2017” อันเป็นการเปิดโอกาสสำคัญเพื่อให้ผู้นำของอินเดียและเวียดนามพบปะ ผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ และเสนอกระบวนการร่วมมือทวิภาคีในอนาคต
ผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม-อินเดีย - ảnh 1(Photo: Vietnamplus) 

ประเทศอินเดียมีประชากร 1.2 พันล้านคน เป็นเศรษฐกิจรายใหญ่และมีการเติบโตเร็วเป็นอันดับสองของโลก  ในหลายปีมานี้ อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาอย่างเข้มแข็งในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ อวกาศและเทคโนโลยีการสำรวจทางไกล ส่วนเวียดนามก็กำลังเป็นเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างคล่องตัว ปฏิรูปและเปิดประเทศอย่างเข้มแข็ง

ทั้งสองประเทศมีความไว้วางใจทางการเมืองในระดับสูง มีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน รวมทั้งผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในสภาวการณ์ใหม่ของโลก ซึ่งเป็นพื้นฐานเพื่อให้ทั้งสองประเทศขยายความร่วมมือในทุกด้าน

สัมพันธไมตรีที่ใกล้ชิดพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

เวียดนามและอินเดียได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเมื่อปี 2016 ในโอกาสการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ผ่านการสร้างสรรค์สัมพันธไมตรีที่ใกล้ชิดมาเป็นเวลาหลายปี มูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับอินเดียได้บรรลุกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าไว้ว่า จะยกระดับมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020  ปัจจุบัน เวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 4 ของอินเดียในอาเซียน และอินเดียเป็นหนึ่งใน 10 หุ้นส่วนการค้าชั้นนำของเวียดนาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ดั่งดิ่งกวี๊ ได้แสดงความเห็นว่า “จุดที่โดดเด่นที่สุดคือความสัมพันธ์ด้านความมั่นคง-กลาโหม ทั้งสองฝ่ายมีโครงการร่วมมือด้านการซื้อขายอาวุธ วิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและกลยุทธ์ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการฝึกอบรม อินเดียร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในการมอบทุนการศึกษาด้านความมั่นคง กลาโหม การฝึกอบรมกองกำลังต่างๆเพื่อพัฒนากองทัพให้ทันสมัย เช่นเรือดำน้ำ เครื่องบินรุ่นใหม่ แม้ความสัมพันธ์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับอินเดียจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สมกับศักยภาพและความไว้วางใจทางการเมืองในระดับสูงระหว่างสองฝ่าย”

เวียดนามให้ความสำคัญต่อ “นโยบายมุ่งสู่ตะวันออก” ของอินเดียและยืนยันว่า ในฐานะประเทศประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย เวียดนามได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนอาเซียน-อินเดีย ส่วนอินเดียได้ยืนยันว่า อาเซียนคือศูนย์กลางของนโยบาย “ปฏิบัติการมุ่งสู่ตะวันออก” และความฝัน “ศตวรรษแห่งเอเชีย” ของอินเดีย ส่วนเวียดนามก็คือหนึ่งในเสาหลักสำคัญของนโยบาย “ปฏิบัติการมุ่งสู่ตะวันออก” เอกอัครราชทูตอินเดียประจำเวียดนาม Parvathaneni Harish ได้ยืนยันว่า “ในระยะต่อไป ศักยภาพและโอกาสความร่วมมือระหว่างสองประเทศยังมีอีกมาก อินเดียและเวียดนามได้ปฏิรูปด้านเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง ทั้งสองฝ่ายมีประชากรที่อยู่ในวัยทำงานในระดับสูง พวกเรามีความได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่เมื่อมองเห็นการขยายตัวด้านเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งเวียดนามและอินเดียมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับองค์การสำคัญๆชั้นนำของโลก ดังนั้นผมเชื่อมั่นว่า การแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างสองประเทศยังมีอีกมาก ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง กลาโหมและเศรษฐกิจ”

การเยือนที่กำหนดกระบวนการผลักดันความร่วมมือทวิภาคี

เพื่อสานต่อการเยือนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก การเยือนอินเดียของประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวางครั้งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศมีความลึกซึ้งมากขึ้น และกำหนดกระบวนการผลักดันความร่วมมือทวิภาคีในเวลาที่จะถึง

ในกรอบการเยือน นอกจากการเจรจากับประธานาธิบดีอินเดีย การพบปะกับนายกรัฐมนตรีอินเดียและรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย ประธานสภาล่างอินเดียและกลุ่มส.ส มิตรภาพเวียดนาม-อินเดีย ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ยังเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญๆ ที่น่าสนใจคือท่าน เจิ่นด่ายกวาง จะกล่าวปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายและพบปะกับนักวิชาการอินเดีย ณ พิพิธภัณฑ์และห้องสมุดรำลึกเนรูห์ ในกรุงนิวเดลี เข้าร่วมพิธีเปิด “วันงานวัฒนธรรมเวียดนามในอินเดีย” ณ กรุงนิวเดลี ในกรอบการเยือน ทั้งสองประเทศจะลงนามข้อตกลงสำคัญๆ เพื่อผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในการใช้พลังงานปรมาณูเพื่อเป้าหมายสันติภาพ ความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและการค้า ความร่วมมือด้านการเกษตร ความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด