ผลักดันสัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับเฮติ
(VOVworld) – ตามคำชิญของท่านNguyễn Tấn Dũngนายกรัฐมนตรีเวียดนาม วันที่๑๗เดือนนี้ ท่านโลร็อง ซัลวาดอร์ ลาโมธ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเฮติได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่๑๖ถึงวันที่๑๘เดือนนี้ การเยือนนี้ของนายกรัฐมนตรีเฮติเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันสัมพันธไมตรี ความร่วมมือ ขยายโอกาสใช้ประโยชน์จากศักยภาพเพื่อมีส่วนร่วมให้แก่การพัฒนาของทั้งสองประเทศ
(VOVworld) – ตามคำชิญของท่านNguyễn Tấn Dũngนายกรัฐมนตรีเวียดนาม วันที่๑๗เดือนนี้ ท่านโลร็อง ซัลวาดอร์ ลาโมธ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเฮติได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่๑๖ถึงวันที่๑๘เดือนนี้ การเยือนนี้ของนายกรัฐมนตรีเฮติเป็นโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันสัมพันธไมตรี ความร่วมมือ ขยายโอกาสใช้ประโยชน์จากศักยภาพเพื่อมีส่วนร่วมให้แก่การพัฒนาของทั้งสองประเทศ
|
ท่านโลร็อง ซัลวาดอร์ ลาโมธ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเฮติ(Photo:Internet) |
สาธารณรัฐเฮติเป็นประเทศเกาะในเขตแคริเบียน อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะเอสปาโนลา และติดกับสาธารณรัฐโดมินิกันทางทิศตะวันออก เฮติจัดอยู่ในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา มีระดับการพัฒนาเศรษฐกิจและรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรอยู่ในระดับต่ำของลาตินอเมริกา โครงสร้างเศรษฐกิจประกอบด้วย ภาคการเกษตรร้อยละ๒๕ อุตสาหกรรมร้อยละ๑๖และการบริการร้อยละ๕๙. มีผลิตภัณฑ์เกษตรสำคัญคือกาแฟ อ้อย กล้วย ข้าวโพด มันเทศและข้าว มีอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ถลุงโลหะ สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป และผลิตเครื่องจักร ปี๒๐๑๑ มูลค่าการส่งออกของเฮติอยู่ที่กว่า๗๒๐ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งกว่าร้อยละ๘๓เป็นการส่งออกไปยังสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญคือ สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป โกโก้ มะม่วง และกาแฟ ส่วนมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่๓.๓พันล้านเหรียญสหรัฐโดยนำเข้าเครื่องเฟอร์นิเจอร์ อาหาร เครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อการผลิต การขนส่ง และวัตถุดิบ เวียดนามและเฮติสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่๒๖กันยายนปี๑๙๙๗ซึ่ง ความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างดีงามแม้จะตั้งอยู่ห่างไกลกัน โดยเฉพาะ ภายหลังเหตุแผ่นดินไหว๗ริกเตอร์ เมื่อวันที่๑๒มกราคมปี๒๐๑๐ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า๓แสนคน และประชาชน๓ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย ผู้นำพรรค รัฐและรัฐบาลเวียดนามได้ส่งโทรเลขแสดงความเสียใจถึงผู้นำเฮติ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือผ่านสภากาชาดเวียดนามเป็นจำนวนเงิน๑แสน๕หมื่นเหรียญสหรัฐ
|
พิธีต้อนรับท่านโลร็อง ซัลวาดอร์ ลาโมธ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเฮติ(Photo:Internet) |
ในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ เนื่องจากอยู่ห่างไกลด้านภูมิศาสตร์ ดังนั้น ปัจจุบันความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนยังอยู่ในระดับต่ำโดยเมื่อปี๒๐๑๑ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่๔๐ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับปี๒๐๑๐คือ๑๑ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งมูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังเฮติอยู่ที่๑๕ล้านเหรียญสหรัฐและนำเข้าอยู่ที่๒๕ล้านเหรียญสหรัฐ และใน๖เดือนแรกของปี๒๐๑๒อยู่ที่๑๙ล้านเหรียญสหรัฐ เวียดนามนำเข้าวัตถุดิบสิ่งทอและเครื่องหนัง เยื่อกระดาษ เศษเหล็ก อาหารสัตว์และส่งออกสินค้าสิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรสาน ไม้ เครื่องเฟอร์นิเจอร์ บะหมี่สำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์พลาสติกไปยังเฮติ เมื่อปี๒๐๑๐ เครือบริษัทVietel และเครือบริษัทสื่อสารและโทรคมนาคมเฮติหรือTeleco S.Aได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนโทรคมนาคมNATCOM S.A มีเงินทุน๑๐๐ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งVietel สมทบร้อยละ๖๐และเปิดให้บริการเมื่อวันที่๗กันยายนปี๒๐๑๑ จนถึงเดือนกันยายนปี๒๐๑๒ NATCOMครองส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์มือถือของเฮติร้อยละ๒๐ ปัจจุบันมีชาวเวียดนามกว่า๒๒๐คนกำลังทำงานในเฮติ แม้ว่า เฮติมีจำนวนประชากรไม่มาก มีรายได้คิดถัวเฉลี่ยต่อหัวประชากรอยู่ในระดับต่ำแต่เป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีความต้องการสินค้าของเวียดนามจำนวนหนึ่ง มีศักยภาพร่วมมือลงทุนในด้านโทรคมนาคม การก่อสร้าง สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์พลาสติกและการรีไซเคิล เวียดนามสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์และร่วมมือกับเฮติในด้านเกษตร การศึกษาและสาธารณสุขในกรอบความร่วมมือใต้ใต้ และความร่วมมือ๓ฝ่าย เวียดนามและเฮติยังคงธำรงความสัมพันธ์ร่วมมืออันดีในองค์การระหว่างประเทศและฟอรั่มพหุภาคี ปัจจุบัน เฮติเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ องค์การประเทศอเมริกา ประชาคมแคริเบียน กลุ่มประเทศแคริเบียนและองค์การอื่นๆ เช่นองค์การแรงงานระหว่างประเทศ และองค์การการค้าโลก
|
ท่านNguyễn Tấn Dũngนายกรัฐมนตรีเวียดนาม และท่านโลร็อง ซัลวาดอร์ ลาโมธ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเฮติ(Photo:Internet) |
ในสภาวการณ์เหล่านี้ การเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรเฮติจะเป็นโอกาสดีเพื่อให้ทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนมาตรการต่างๆเพื่อผลักดันสัมพันธไมตรีและความร่วมมือ โดยเฉพาะ ในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การเกษตร โทรคมนาคม การก่อสร้างและสาธารณสุขพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน ./.