สหประชาชาติถือเป็นฟอรั่มระดับโลกและเป็นฟอรั่มที่ใหญ่ที่สุดโดยมีตัวแทนจากแทบทุกประเทศเข้าร่วมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งมีผลต่อการพัฒนาทั้งในระดับโลกและในระดับประเทศ แง่ใหม่ในความร่วมมือของสหประชาชาติในปี๒๐๑๑คือการเปลี่ยนแปลงนโยบายของประเทศต่างๆเพื่อรับมือกับการท้าทายใหม่ๆเช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านพลังงานและอาหาร ความไร้เสถียรภาพของแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง เป็นต้น บทบาทของสหประชาชาตินับวันยิ่งสูงเด่นเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ สำหรับเวียดนาม สหประชาชาติมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการปฏิบัติแนวทางต่างประเทศที่ผสมผสานเข้ากับกระแสโลก

นายLê Hoài Trung เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหประชาชาติกล่าวว่า“สหประชาชาติเป็นองค์การระดับนานาชาติที่มีประเทศสมาชิกเกือบทั่วโลกเข้าร่วม รวมทั้งประเทศใหญ่ๆและองค์การเอกชนนับพันแห่งและก็เป็นฟอรั่มที่เวียดนามสามารถผลักดันความสัมพันธ์กับบรรดาหุ้นส่วนและปฏิบัติแนวทางต่างประเทศในทุกด้านของตน”

สหประชาชาติไม่เพียงแต่ปฏิบัติบทบาทสำคัญคือ ผดุงรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศเท่านั้นหากยังเป็นศูนย์ กลางเพื่อปฏิบัติโครงการเกี่ยวกับนโยบายพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมี๒ระบบใหญ่ที่เกี่ยวข้องถึงโครงการพัฒนานั่นคือกองทุนและโครงการพัฒนา เช่น โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติหรือUNDPและกองทุนสำหรับเด็กแห่งสหประชาชาติหรือUNICEF พร้อมกับองค์การวิชาชีพด้านไปรษณีย์โทรคมนาคม การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่รวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายและประสบการณ์ของประเทศต่างๆดังนั้นโดยผ่านองค์การเหล่านี้ เวียดนามจึงสามารถเรียนรู้ประสบการณ์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และแสวงหาแหล่งเงินทุนให้แก่กระบวนการพัฒนา แม้ว่าจำนวนเงินทุนจะไม่มากแต่ความช่วยเหลือของสหประชาชาติโดยเฉพาะในด้านสังคมและเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายให้แก่รัฐบาลเวียดนามในปัญหาต่างๆก็มีค่าเป็นอย่างมาก เช่น นโยบายเศรษฐกิจ ความมั่นคงด้านอาหาร การส่งเสริมสุขภาพ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การแก้ปัญหาความยากจน แรงงานและสวัสดิการสังคม นายLê Hoài Trung กล่าวต่อไปว่า

“ปีนี้ องค์การชำนัญแห่งสหประชาชาติได้อนุมัติโครงการช่วย เหลือมูลค่า๓ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่เวียดนามใน๕ปีที่จะถึงพร้อมกับถ่ายทอดประสบการณ์ในหลายด้าน เวียดนามมีความประสงค์ที่จะพัฒนาไฟฟ้านิวเคลียร์ เวียดนามสามารถร่วมมือกับสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศสังกัดสหประชาชาติในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีพลังานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ”

สำหรับปัญหาประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ฟอรั่มสหประชาชาติเป็นสถานที่ที่เวียดนามได้นำเสนอทัศนะและนโยบายของตน ในปี๒๐๑๑ เวียดนามได้ร่วมมือกับองค์การสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติและกำลังเตรียมลงสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในช่วงปี๒๐๑๓ถึงปี๒๐๑๖ นายHoàng Chí Trung รองอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้กล่าวว่า

“ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้เข้าร่วมการประชุมของสภาสิทธิมนุษยชน๓ครั้ง ต้อนรับผู้เชี่ยวชาญอิสระของสหประชาชาติเกี่ยวกับผลกระทบของหนี้ต่างประเทศต่อสิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่พิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับสิทธิด้านสุขภาพ ทำการสนทนาเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนกับประเทศออสเตรเลียและสวิสเซอร์แลนด์ เป็นต้นและมีการสนทนากับ๕หุ้นส่วนนี้เป็นประจำทุกปีเพื่อให้พวกเขาเข้าใจนโยบาย และการเปลี่ยนแปลงของเวียดนามในด้านสิทธิมนุษยชน”

โดยผ่านระเบียบการแก้ไขการพิพาทในสหประชาชาติ เช่นสมัชชาใหญ่ คณะมนตรีความมั่นคง อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฏหมายทางทะเลและคณะเลขาธิการของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เวียดนามได้เสนอทัศนะ และนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของตนในการแก้ไขการพิพาทและความแตกต่างระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆซึ่งช่วยให้ประชาคมระหว่างประเทศเข้าใจและให้การสนับสนุนจุดยืนที่ชอบธรรมของเวียดนาม เอกอัครราชทูตLê Hoài Trung กล่าวต่อไปว่า

“สำหรับปัญหาทะเลตะวันออกและปัญหาพิพาทอื่นๆ พวกเราเชิดชูแนวทางแก้ไขการพิพาทอย่างสันติ นี่เป็นสถานที่เพื่อให้พวกเราร่วมกับจีนและประเทศต่างๆในภูมิภาคผลักดันแนวโน้มให้ความ สำคัญต่ออนุสัญญาของประชาชาติเกี่ยวกับกฏหมายทางทะเลและ กฏหมายสากลในการแก้ไขความแตกต่าง ผลักดันความร่วมมือในทะเลตะวันออก ความมั่นคงการเดินเรือทะเล ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม เป็นต้น”

ปัจจุบัน เวียดนามและสหประชาชาติกำลังปรับปรุงแผนความร่วมมือในช่วงปี๒๐๑๒ถึง๒๐๑๖เพื่อเป็นกรอบของความร่วมมือให้แก่องค์การชำนัญแห่งสหประชาชาติประจำเวียดนามโดยเน้นในด้านที่สำคัญและสอดคล้องกับแนวทางหลักของแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามในช่วงปี๒๐๑๑ถึงปี๒๐๑๕ นอกจากนี้ เวียดนามยังประสานกับสหประชาชาติเพื่อสร้างสรรค์“ชายคาสหปรชาชาติ”ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นที่ทำงานร่วมขององค์การชำนัญแห่งสหประชาชาติประจำเวียดนาม ในปี๒๐๑๒ เวียดนามจะปฏิบัตินโยบายต่างประเทศที่เปิดกว้าง มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่ายต่อไปและก็จะร่วมมือกับสหประชาชาติเพื่อปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศให้เป็นผลสำเร็จ ./.