พิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่ง- การรวมพลังที่เข้มแข็งของความสามัคคีชนในชาติ

(VOVWORLD) - ในจิตสำนึกของชาวเวียดนามทุกคน พิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งคือสัญลักษณ์วัฒนธรรมทางจิตวิญญาณและความเลื่อมใส อีกทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจแห่งความสามัคคีของประชาชาติเวียดนาม ในโอกาสพิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งประชาชนเวียดนามทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ภายใน หรือ นอกประเทศ ต่างมุ่งใจสู่ปิตุภูมิด้วยความเคารพรัก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำนึกในบุญคุณต่อบรรพบุรุษและสะท้อนเกียรติประวัติอันดีงามของชาติคือ “ดื่มน้ำต้องคิดถึงแหล่งที่มาของน้ำ”
พิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่ง- การรวมพลังที่เข้มแข็งของความสามัคคีชนในชาติ - ảnh 1ภาพในพิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่ง 

จากการส่งเสริมเกียรติประวัติและคุณค่าวัฒนธรรมมาหลายพันปี พิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งไม่เพียงแต่กลายเป็นสัญลักษณ์และเป็นการรวมพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติเท่านั้น หากยังเป็นการเชื่อมโยงระหว่างความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจเกี่ยวกับเกียรติประวัติอันรุ่งโรจน์ของประชาชาติ

เมื่อกว่า 1 ศตวรรษก่อน ราชวงศ์เหงวียนได้กำหนดให้จัดพิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งในวันที่ 10 เดือน 3 ตามจันทรคติทุกปี  เมื่อปี 2007 กฎหมายแรงงานฉบับแก้ไขได้กำหนดให้วันที่ 10 เดือน 3 ตามจันทรคติเป็นวันหยุดราชการ โดยเฉพาะเมื่อปี 2012 ในการประชุมครั้งที่ 7 คณะกรรมการร่วมรัฐบาลอนุสัญญา 2003 เกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมนามธรรมได้รับรองวัฒนธรรมความเลื่อมใสในการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งที่จังหวัดฟู้เถาะเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาติ นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน พิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งนับวันมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ นาย เหงวียนดั๊กถวี๊ ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดฟู้เถาะได้ยืนยันว่า“วัฒนธรรมความเลื่อมใสบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งคือคุณค่าวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การศึกษาเกี่ยวกับรากเหง้า รวมทั้งจิตใจและคุณค่าแห่งความสามัคคีชนในชาติ การเชื่อมโยงประชาชนในเขตชุมชนและคุณค่าวัฒนธรรมอื่นๆในจังหวัดฟู้เถาะ ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ประชาชนอนุรักษ์คุณค่าวัฒนธรรม ผลักดันความเชื่อมโยง กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติและคุณค่าวัฒนธรรมของคนเวียดนาม”

พิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่ง- การรวมพลังที่เข้มแข็งของความสามัคคีชนในชาติ - ảnh 2ภาพในพิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่ง 

พิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่คืองานเทศกาลที่สำคัญของประชาชาติเวียดนาม โดยประชาชนเวียดนามทุกคนต่างมุ่งใจสู่รากเหง้าด้วยความเคารพรัก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำนึกในบุญคุณต่อบรรพบุรุษ สะท้อนเกียรติประวัติ “ดื่มน้ำต้องคิดถึงแหล่งที่มาของน้ำ”และการถอดบทเรียนอันล้ำค่าในสมัยของบรรพกษัตริย์หุ่ง นาย เหงวียนวันตว่าน นักท่องเที่ยวชาวจังหวัดบั๊กยางที่มาเข้าร่วมพิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งเป็นครั้งแรกได้เผยว่า“ผมเคยอ่านผ่านหนังสือหลายครั้ง และครั้งนี้ได้มีโอกาสมาเยือนวิหารหุ่งและศึกษาเกี่ยวกับบรรพกษัตริย์หุ่งและโอวาทของประธานโฮจิมินห์ที่ว่า “บรรพกษัตริย์หุ่งมีคุณูปการในการสร้างชาติ เราทุกคนต้องร่วมกันปกป้องชาติเอาไว้” เราเป็นคนเวียดนามจึงต้องไปเยือนวิหารหุ่ง-แหล่งที่มาของรากเหง้าประชาชาติเวียดนาม”

ในโลก อาจไม่มีประเทศใดที่มีพิธีบวงสรวงบูชาบรรพบุรุษในวันเดียวเหมือนที่เวียดนาม คนเวียดนามมีความกตัญญูรู้คุณบูชาบรรพบุรุษ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเกียรติประวัติของประชาชาติคือ “ดื่มน้ำต้องคิดถึงแหล่งที่มาของน้ำ” ความสามัคคีและความภาคภูมิใจแห่งประชาชาติ ดังนั้น ประชาชนทั้งภายในและต่างประเทศจึงมีกิจกรรมต่างๆในโอกาสงานสักระบูชาบรรพกษัตริย์หุ่ง โดยชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศยุโรปได้เปิดการรณรงค์ปฏิบัติโครงการ “งานสักระบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งโลก” ซึ่งเป็นกิจกรรมวัฒนธรรมที่มีความหมายพิเศษต่อชมรมชาวเวียดนามที่กำลังอาศัย ศึกษาและทำงานในต่างประเทศเพื่อมุ่งใจสู่ปิตุภูมิ นาย เหงวียนดั๊กถวี๊ ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดฟู้เถาะได้ประเมินเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวว่า“นี่คือโครงการที่น่าชื่นชม บนเจตนารมณ์ของกลุ่มมหาสมัคคีชนในชาติ ชมรมชาวเวียดนามในต่างประเทศคือส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากประชาชาติเวียดนามได้ ดังนั้น สภาแห่งชาติได้อนุมัติและกำหนดให้วันที่ 10 เดือน 3 ตามจันทรคติเป็นวันหยุดราชการเพื่อให้ประชาชนได้เข้าร่วมพิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่ง ส่วนชมรมชาวเวียดนามในต่างประเทศก็ได้จัดพิธีเซ่นไหว้สักระบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งเช่นกัน”

พิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งไม่เพียงแต่เป็นโอกาสให้ประชาชนได้ชุมนุมอย่างสนุกสนาน หากยังสะท้อนความเชื่อมโยง ความภาคภูมิใจแห่งประชาชาติและแสดงความสำนึกในบุญคุณต่อบรรพกษัตริย์หุ่ง ตลอดจนการอนุรักษ์คุณค่าวัฒนธรรมและการเชื่อมโยงประชาชนในชุมชน นอกจากนี้  งานสักระบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งยังมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ในยุคใหม่ นั่นคือบทเรียนเกี่ยวกับการผลักดันความสามัคคีชนในชาติเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่เสมอภาค มีความเมตตาและมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติตามคำสั่งสอนของบรรพบุรุษในการส่งเสริมแหล่งพลังต่างๆเพื่อสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศให้มั่นคงถาวรตลอดกาล.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด