พยายามนำเวียดนามพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยโดยพื้นฐาน

(VOVworld)- ในการกล่าวปราศรัยในนัดเปิดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่12 ท่านเหงวียนฟู้จ่องเลขาธิการใหญ่พรรคฯได้ยืนยันถึงเป้าหมายการนำประเทศพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้แทนจำนวนมากเพราะเห็นว่าพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ประเมินสถานการณ์ของประเทศอย่างถูกต้องเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาในเวลาข้างหน้า


(VOVworld)- ในการกล่าวปราศรัยในนัดเปิดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่12 ท่านเหงวียนฟู้จ่องเลขาธิการใหญ่พรรคฯได้ยืนยันถึงเป้าหมายการนำประเทศพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้แทนจำนวนมากเพราะเห็นว่าพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ประเมินสถานการณ์ของประเทศอย่างถูกต้องเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาในเวลาข้างหน้า

พยายามนำเวียดนามพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยโดยพื้นฐาน - ảnh 1
ถึงปี2020เวียดนามจะเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยโดยพื้นฐาน

เป้าหมายที่ว่า ถึงปี2020เวียดนามจะพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในขั้นพื้นฐานได้ถูกระบุตั้งแต่สมัชชาพรรคฯสมัยที่8 ซึ่งในกระบวนการพัฒนาตลอด20ปีที่ผ่านมา พรรค กองทัพและประชาชนทุกหมู่เหล่าได้พยายามปฏิบัติเป้าหมายนี้อย่างเข้มแข็ง แต่เนื่องจากเหตุผลทั้งจากภายนอกและภายในจึงทำให้เงื่อนไขต่างๆในเป้าหมายดังกล่าวไม่สามารถบรรลุตามกำหนดได้

พรรคฯได้ประเมินตรงตามความจริง

ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยช่วงที่ผ่านมา เวียดนามสามารถบรรลุผลงาน9ข้อแต่ในขณะเดียวกันก็เกิดปัญหาข้อจำกัดรวม10ข้อ  โดยผลงานที่สำคัญที่สุดคือภาคการเกษตร เกษตรกรและชนบทได้รับความสนใจลงทุนพัฒนาตามแนวทางที่ยั่งยืนและพร้อมเพรียงกัน สัดส่วนของหน่วยงานอุตสาหกรรม การก่อสร้างและการบริการได้เพิ่มขึ้นอย่าวรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ไม่พอเพื่อที่จะลดข้อจำกัดที่เกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติกระบวนการดังกล่าว  ที่น่าจับตาคือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจเป็นไปอย่างล่าช้าและล้าหลัง การพัฒนาอุตสาหกรรมที่ทันสมัยยังเน้นขยายตามด้านกว้าง การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยียังไม่สูงและไม่เท่ากันระหว่างเศรษฐกิจภาคต่างๆ ซึ่งผู้แทนหลายคนที่เข้าร่วมสมัชชาพรรคครั้งนี้ได้แสดงความเห็นว่า การที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ยอมรับว่า ยังไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขหลายประการในกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยนั้นเป็นการประเมินและยอมรับความจริงอย่างตรงไปตรงมา นายดั๋งก๊วกวิงห์ ผู้แทนจากจ.ห่าติ๋งห์เผยว่า“นี่เป็นการประเมินที่จริงจังและตรงความจริงของพรรค ส่วนเหตุผลของการที่เราไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขหลายข้อนั้นเราก็ได้เสนอในที่ประชุมว่าต้องพิจารณาอย่างละเอียด ซึ่งผมดีใจที่พรรคได้ยอมรับความจริงไม่ปกปิดหรือเลี่ยงข้อจำกัด สิ่งนี้จะช่วยให้เรายิ่งมีความไว้วางใจต่อพรรคและจะร่วมกันพัฒนาประเทศต่อไป”

ต้องมีวิสัยทัศน์ในระยะยาว

ส่วนนายเจืองยางลอง ผู้แทนจากกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปได้แสดงความเห็นว่า เป้าหมายนำเวียดนามพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยนั้นเป็นเส้นชัยแห่งกระบวนการใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสานต่อและพัฒนาดอกผลแห่งภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่เป็นเวลา30ปี ดังนั้นการกำหนดแนวทางนโยบายและมาตรการปฏิบัติเป้าหมายก็ต้องอาศัยวิสัยทัศน์ระยะยาว ซึ่งก่อนอื่นนั้น มาตรการที่เป็นก้าวกระโดดสำคัญและมีความหมายชี้ขาดยังคงเป็นการให้ความสนใจภาคการลงทุนและใช้ประโยชน์แหล่งบุคลากรอย่างเต็มที่ เพราะนี่คือแหล่งทรัพยากรสำคัญที่จะสร้างก้าวกระโดดต่างๆ ควบคู่กันนั้นต้องให้ความสนใจพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและประยุกต์ใช้ผลงานด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีต่างๆในกระบวนการพัฒนาประเทศ“ตามความเห็นของผมต้องปฏิบัติมาตรการต่างๆตามที่ได้ระบุในเอกสารการประชุม แถมยังต้องปฏิบัติให้รวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อสามารถประยุกต์ใช้ผลงานด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการพัฒนาศักยภาพของประเทศได้เต็มที่  ซึ่งเพื่อให้หน่วยงานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีพัฒนาตามทันประเทศอื่นๆตามที่ได้ระบุในมติการประชุม พวกเราต้องรู้จักใช้แหล่งพลังและโอกาสต่างๆให้เป็นประโยชน์เพราะนี่คือกระบวนการระดมพลังที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อนำประเทศผสมผสานและพัฒนา”

นายเวืองก๊วกต๊วน ผู้แทนจากจังหวัดบั๊กนิงห์ได้แสดงความเห็นเช่นเดียวกันว่า ทั้งพรรคและประชาชนต้องพยายามมากยิ่งขึ้นเพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าวและหนึ่งในมาตรการที่ต้องให้ความสนใจคือต้องผลักดันพลังภายในเพื่อการพึ่งพาตนเองของเศรษฐกิจ“เราต้องให้ความสนใจโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สนับสนุนการผลิตของสถานประกอบการเอกชนเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนในการสร้างเครื่องหมายการค้าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อันดับสองคือต้องให้ความสนใจต่อภาคการเกษตร เกษตรกรและชนบท ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและการลดความยากจนอย่างยั่งยืน”

อีกมาตรการที่สำคัญที่บรรดาผู้แทนได้พูดถึงคือผลักดันการปรับปรุงรัฐวิสาหกิจโดยเน้นเครือบริษัทใหญ่ ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของรัฐวิสาหกิจ แก้ปัญหาการลงทุนไม่ตรงเป้าหมายและลงทุนในด้านที่ไม่ใช่สาขาหลัก ซึ่งจะช่วยในการปรับปรุงหนี้เสียและค้ำประกันความปลอดภัยของหนี้สาธารณะ

พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้กำหนดว่าใน5ปีข้างหน้า เวียดนามต้องพยายามยิ่งๆขึ้นต้องพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและยั่งยืน เพื่อนำประเทศพัฒนาตามแนวทางอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในขั้นพื้นฐาน ซึ่งจากความตั้งใจอันแน่วแน่ของพรรค ความเห็นพ้องเป็นอย่างสูงจากประชาชน เป้าหมายนี้จะสำเร็จอย่างแน่นอน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด