พลังที่เข้มแข็งของประชาชาติสร้างวันงานรวมประเทศเป็นเอกภาพอย่างสมบูรณ์

(VOVWORLD) - ในช่วงนี้ ประชาชนเวียดนามกำลังรำลึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เมื่อ 44 ปีก่อนคือการปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพอย่างสมบูรณ์เมื่อวันที่ 30 เมษายนปี 1975 โดยพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติได้ทำให้เกิดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์นี้
พลังที่เข้มแข็งของประชาชาติสร้างวันงานรวมประเทศเป็นเอกภาพอย่างสมบูรณ์ - ảnh 1รถถังของกองทัพปลดปล่อยเข้าทำเนียบเอกราชวันที่ 30 เมษายนปี 1975 (ภาพของนาย เจิ่นมายเหือง) 

การต่อสู้ครั้งใหญ่และการลุกขึ้นสู้ฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ในสงครามต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกาเพื่อกู้ชาติได้จบลงอย่างสมบูรณ์ด้วยชัยชนะของกองทัพและประชาชนเวียดนาม สร้างหัวเลี้ยวหัวต่อในประวัติศาสตร์ของประชาชาติ เปิดศักราชใหม่ให้แก่เวียดนามซึ่งเป็นศักราชแห่งเอกราช เอกภาพ ทั่วประเทศมุ่งสู่ลัทธิสังคมนิยม นี่ก็คือเหตุการณ์ที่มีความหมายในระดับสากลและมีความหมายแห่งยุคสมัย ชัยชนะในสงครามต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกาเพื่อกู้ชาติสะท้อนให้เห็นถึงพลังที่เข้มแข็งของลัทธิวีรชนการปฏิวัติ ความมุ่งมั่นและสติปัญญาเวียดนามในยุคโฮจิมินห์ ชัยชนะนี้มาจากหลายปัจจัย โดยปัจจัยชี้ขาดคือการนำที่ถูกต้องและมีความคิดสร้างสรรค์ของพรรคและพลังที่เข้มแข็งของประชาชน

การต่อสู้ที่ชอบธรรม

นาย เหงียนจ่องซวต อดีตเลขาธิการกิจการประวัติศาสตร์การสู้รบในภาคใต้ได้ยืนยันว่า สงครามต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกาเพื่อกู้ชาติของประชาชาติเวียดนามคือการต่อสู้ที่ชอบธรรมเพื่อเอกราชและเสรีภาพของประชาชาติ ดังนั้นจึงสามารถระดมพลังที่เข้มแข็งของประชาชนทุกคนให้เข้าร่วมได้ “ความสามารถที่ชาญฉลาดของบรรดาผู้นำที่ได้สืบทอดจากบรรพชนเมื่อนับพันปีก่อน พรรคได้ระบุว่า ถ้ารู้จักการระดมประชาชน การปฏิวัติจะเป็นของประชาชน มิใช่ของเจ้าหน้าที่ข้าราชการ เพราะประชาชนคือการปฏิวัติ”

ในการต่อสู้จักรวรรดินิยมอเมริกาเพื่อกู้ชาติ ประชาชนในภาคใต้มีบทบาทสำคัญพิเศษ ในตัวเมืองนครโฮจิมินห์ ผู้รักชาติทุกคนต่างพากันออกสู่ท้องถนนเพื่อทำการต่อสู้ โดยมีคุณแม่ พี่ๆ นักศึกษา ปัญญาชนและพระสงฆ์เข้าร่วม นักดนตรี โตนเทิดเหลิบ ผู้ที่เข้าร่วมขบวนการ “ร้องเพลงให้ประชาชนฟัง” ได้เผยว่า แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 40 ปี แต่ยังไม่เคยลืมความรู้สึกที่ร่วมต่อสู้ในครั้งนั้น “เสียงพูดของนักศึกษาและนักเรียนคือเสียงพูดของประชาชน ดังนั้นคำพูดของพวกเขาต่างได้รับการขานรับจากประชาชน ซึ่งปลุกเร้าจิตใจแห่งการต่อสู้เพื่อพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ ปกป้องสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ การร้องเพลงนั้นเป็นเหมือนอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้ที่ทำให้ศัตรูต้องหวาดกลัว”

พลังที่เข้มแข็งของประชาชาติสร้างวันงานรวมประเทศเป็นเอกภาพอย่างสมบูรณ์ - ảnh 2นครโฮจิมินห์  

ประชาชนเป็นผู้สร้างความสำเร็จ

พลเอก ฝ่ามวันจ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ยืนยันว่า ถ้าไม่มีประชาชนก็ไม่มีวันปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพอย่างสมบูรณ์ พลเอก ฝ่ามวันจ่า ได้ย้ำว่า “ถ้าไม่มีประชาชน พวกเราก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ แต่เพราะมีประชาชนช่วยเหลือเรา เราถึงประสบความสำเร็จ ความรักชาติของประชาชนในภาคใต้ที่มุ่งใจสู่ปิตุภูมิและประธานโฮจิมินห์ได้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง”

ภาพและบรรยากาศของวันที่นครโฮจิมินห์ได้รับการปลดปล่อย 30 เมษายนปี 1975 ยังคงอยู่ในใจของชาวนครโฮจิมินห์จนถึงทุกวันนี้อย่างสถาปนิก เหงียนหุยท้าย โดยเขาเผยว่า วันที่ 30 เมษายนปี 1975 ทำเนียบเอกราชคือจุดศูนย์รวมของกองกำลังทหารต่างๆและเป็นวันของพี่น้องภาคใต้-ภาคเหนือที่พลัดพรากจากกันได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง “ถ้าพูดถึงส่วนร่วมต่อการปลดปล่อยภาคใต้ก็ต้องกล่าวถึงปวงชน ดังนั้นคำพูดของพลเอก เจิ่นวันจ่า ประธานคณะกรรมการบริหารกองกำลังทหารไซ่ง่อนเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมปี 1975 ในการปล่อยตัวนาย เยืองวันมิงห์ และสมาชิกในทางการไซ่ง่อนที่ทำเนียบเอกราช วันนั้นจึงมีความหมายเป็นอย่างมาก นั่นคือ “ในการต่อสู้นี้ ไม่มีใครเป็นผู้แพ้และชนะ จริงๆ ชาวเวียดนามคือผู้ชนะ และนาย เยืองวันมิงห์ ได้ตอบว่า พวกคุณคือผู้ที่มีบทบาทสำคัญและตัดสินใจทำการปลดปล่อยภาคใต้”

พลังที่เข้มแข็งของประชาชาติได้สร้างวันปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพอย่างสมบูรณ์ 30 เมษายนปี 1975 ภายหลัง 44 ปี นครโฮจิมินห์ได้กลายเป็นตัวเมืองที่มีความคิดสร้างสรรค์และเป็นหัวเรือเศรษฐกิจของประเทศ จากการส่งเสริมจิตใจของวันที่ 30 เมษายนปี 1975 ประชาชนนครโฮจิมินห์ได้ฟันฝ่าทุกความท้าทาย มีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์กับพรรคสาขาและทางการปกครองท้องถิ่นมุ่งมั่นนำนครพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ให้สมกับนครที่น่าอยู่ระดับภูมิภาคและโลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด