มติของรัฐบาลเพื่อช่วยสถานประกอบการพัฒนาการผลิต

(VOVWorld)ปี๒๐๑๑นับว่าเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับกลุ่มเศรษฐกิจและสถานประกอบการเวียดนาม และคาดว่า ในปี๒๐๑๒เศรษฐกิจโลก รวมทั้งเวียดนามจะยังคงประสบอุปสรรคและการท้าทายต่างๆต่อไป ดังนั้นรัฐบาลจึงได้มีมติเพื่อให้การช่วยเหลือสถานประกอบการซึ่งจะประสานกับ ความพยายามของสถานประกอบการในการฟันฝ่าวิกฤติ

ปี๒๐๑๑นับว่าเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับกลุ่มเศรษฐกิจและสถานประกอบการเวียดนามและคาดว่า ในปี๒๐๑๒เศรษฐกิจโลก รวมทั้งเวียดนามจะยังคงประสบอุปสรรคและการท้าทายต่างๆต่อไป ดังนั้นรัฐบาลจึงได้มีมติเพื่อให้การช่วยเหลือสถานประกอบการซึ่งจะประสานกับความพยายามของสถานประกอบการในการฟันฝ่าวิกฤติ

มติของรัฐบาลเพื่อช่วยสถานประกอบการพัฒนาการผลิต - ảnh 1
สถานประกอบการพยายามฟันฝ่าวิกฤติเพื่อสามารถทำการผลิตและประกอบธุรกิจได้

           เมื่อปลายปี๒๐๑๑ คณะเลขาธิการฟอรั่มนักธุรกิจเวียดนามหรือVBFได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของนักธุรกิจว่า รัฐบาลควรปฏิบัติมาตรการเพิ่มความเข้มงวดทางการเงินตามเจตนารมณ์ของมติที่๑๑ของรัฐบาลจนกว่าเศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพหรือไม่ซึ่งผลปรากฏว่า นักธุรกิจส่วนใหญ่เห็นด้วยกับทัศนะของรัฐบาลในปัจจุบันคือการควบคุมเงินเฟ้อ การสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค การปฏิรูปเศรษฐกิจ และการปรับปรุงรูปแบบของการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่วนการประเมินบรรยากาศการประกอบธุรกิจในปี๒๐๑๒ นักธุรกิจได้ให้๒.๔๕คะแนนจากทั้งหมด๔คะแนนซึ่งต่ำกว่าปี๒๐๑๑ซึ่งอยู่ที่๒.๘๘คะแนน ส่วนความหวังเกี่ยวกับการพัฒนาของเศรษฐกิจเวียดนามในอนาคต สถานประกอบการเกือบร้อยละ๖๙เผยว่า จะขยายการประกอบธุรกิจใน๓ปีที่จะถึงเนื่องจากศักยภาพของเศรษฐกิจและเป็นมาตรการเพื่อผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ นายPhạm Hồng Việt ผู้อำนวยการบริษัทส่งออกเครื่องหนังและรองเท้าได้แสดงความประสงค์ว่า รัฐบาลจะปรับปรุงนโยบายทางการเงินให้มีความคล่องตัว มากขึ้น “ปัจจุบัน พวกเราต้องกู้เงินทุนด้วยดอกเบี้ยตั้งแต่ร้อยละ๗ถึงร้อยละ๗.๕ซึ่งรัฐบาลควรลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้อยู่ที่ร้อยละ๖ เพราะคำสั่งซื้อในต้นปี๒๐๑๒มีน้อยมากซึ่งส่วนใหญ่มาจากตลาดอัฟริกาและอาหรับ ”   ปี๒๐๑๒ ในสภาวการณ์ที่รัฐบาลปฏิบัติเป้าหมายควบคุมเงินเฟ้อ สร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค  ดำเนินนโยบายเข้มงวดทางการเงินต่อไปและยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้นสถานประกอบ การขนาดกลางและขนาดย่อมก็จะประสบอุปสรรคด้านเงินทุนต่อไป ซึ่งนายTô Hoài Namรองประธาน เลขาธิการสมาพันธ์สถานประกอบ การขนาดกลางและขนาดย่อมกล่าวว่า เมื่อปี๒๐๑๑ จากมติที่๑๑ของรัฐบาล ทางสมาพันธ์ได้จัดตั้งกองทุนสินเชื่อเพื่อให้ความช่วยเหลือสถานประกอบการในการฝึกอบรมบุคลากร การขยายสถานที่ทำการผลิต เงินทุนสินเชื่อและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ “สำหรับสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมควรลดระเบียบการที่เป็นอุปสรรคและมีแผนการที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินซึ่งกระทรวงวางแผนและการลงทุนและ ธนาคารชาติได้ยื่นเสนอนโยบายนี้ต่อรัฐบาลแล้วพร้อมทั้งควรรับฟังความคิดเห็นของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆเพื่อสามารถปฏิบัตินโยบายนี้ได้ในไตรมาสที่๑ของปี๒๐๑๒”  จากสถานการณ์ที่เป็นจริงแสดงให้เห็นว่า นโยบายภาษีและสินเชื่อเป็นนโยบายที่มีผลกระทบต่อสถานประกอบการมากที่สุด ศาสต์ราจารย์Nguyễn Mai อดีตรองหัวหน้าคณะกรรมการแห่งรัฐเกี่ยวกับความร่วมมือ และการลงทุนกล่าวว่า ควรมีนโยบายสินเชื่อที่ยืดหยุ่น และสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงเพื่อให้สถานประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ เกี่ยวกับนโยบายภาษีนั้น เมื่อเร็วๆนี้ หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือVCCIได้เสนอให้มีการแก้ไขกฏหมาย๑๖ฉบับเช่นกฏหมายภาษีมูลค่าเพิ่ม กฏหมายภาษีเงินได้ของสถานประกอบการ กฏหมายภาษีสรรพสามิตตามแนวทางสนับสนุนให้สถานประกอบการฟันฝ่าอุปสรรคและพัฒนาต่อไป“ข้อเสนอแนะของVCCIคือ ควรมีการแก้ไขกฏหมายการลงทุน กฏหมายสถานประกอบการ กฏหมายภาษี กฏหมายการประมูล และกฏหมายที่ดินเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของสถานประกอบ การในปี๒๐๑๒”  ปี๒๐๑๒ รัฐบาลจะดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อควบคุมเงินเฟ้อต่อไปซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงพร้อมทั้งดำเนินนโยบายขยายเวลาจัดเก็บภาษีเงินได้ของสถานประกอบการและลดระเบียบราชการ ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจเห็นว่า รัฐบาลควรให้ความช่วย เหลือเพื่อให้กลุ่มเศรษฐกิจและสถานประกอบการสามารถทำการผลิตและประกอบธุรกิจได้อย่างยั่งยืนเพราะถ้ากลุ่มเศรษฐกิจและสถานประกอบการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและมั่นคงก็จะช่วยให้ เศรษฐกิจของประเทศสามารถพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ ./.

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด