ยุทธนาการตรุษเต๊ตปีวอก 1968 - หัวเลี้ยวหัวต่อในกระบวนการต่อสู้กับอเมริกาเพื่อกู้ชาติ

(VOVWORLD) - เมื่อ 50 ปีก่อน ในช่วงตรุษเต๊ตปีวอก 1968 ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานโฮจิมินห์ กองทัพและประชาชนเวียดนามได้เปิดการโจมตีและลุกขึ้นสู้พร้อมกันในภาคใต้เวียดนาม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีความหมายยิ่งใหญ่ที่สร้างหัวเลี้ยวหัวต่อในสงครามต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติและเขียนหน้าใหม่ในประวัติศาสตร์การต่อสู้อันรุ่งโรจน์ของประชาชาติเวียดนาม
ยุทธนาการตรุษเต๊ตปีวอก 1968 - หัวเลี้ยวหัวต่อในกระบวนการต่อสู้กับอเมริกาเพื่อกู้ชาติ - ảnh 1พลเอกฝ่ามวันจ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม (Photo thanhnien.vn)

การลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ฤดูใบไม้ผลิปี 1968 มีขึ้นในสภาวการณ์ที่จักรวรรดินิยมอเมริกายังคงไม่ยอมแพ้โดยพยายามทำให้สงครามบานปลายและปฏิบัติยุทธศาสตร์ “สงครามในท้องถิ่น” ที่ภาคใต้และ “สงครามทำลาย” ที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นแนวหลังที่ยิ่งใหญ่ของการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชของเวียดนาม

ในสภาวการณ์ดังกล่าว คืนวันที่ 30 ถึงเช้าตรู่วันที่ 31 มกราคมปี 1968 กองทัพและประชาชนเวียดนามได้เปิดการลุกขึ้นโจมตีในนคร ตำบลและฐานทัพต่างๆทั่วภาคใต้เวียดนาม โดยเฉพาะใจกลางนครไซ่ง่อน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเมือง การทหารของสหรัฐและทางการไซ่ง่อน แม้ได้รับผลเสียหายอย่างหนักแต่การลุกขึ้นสู้ครั้งนี้ได้พลิกผันฐานะเชิงยุทธศาสตร์ของฝ่ายศัตรูบนสนามรบ โดยเฉพาะการโจมตีต่างๆที่ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในทั่วโลก เช่น การโจมตีใส่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ทำเนียบเอกราช กรมเสนาธิการใหญ่ สถานีวิทยุของทางการหุ่นไซ่ง่อนและ 25 วันคืนที่ควบคุมกรุงเก่าเว้ เป็นต้น

ความหมายชี้ขาดในสงครามต่อต้านอเมริกา

การลุกขึ้นสู้เมื่อปี 1968 ได้สร้างนิมิตรหมายที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อในสงครามต่อต้านอเมริกาเพราะในช่วงเวลานั้น สหรัฐกำลังติดหล่มในสงครามเวียดนาม โดยไม่สามารถเอาชนะหรือถอนทหารกลับประเทศได้ ส่วนประชามติโลกและชาวอเมริกันนับวันประท้วงสงครามในเวียดนามอย่างเข้มแข็งมากขึ้น ในสภาการณ์ดังกล่าว กรมการเมืองพรรคของเวียดนามได้ตัดสินใจเปิดการโจมตีครั้งใหญ่เพื่อให้เวียดนามโด่งดังไปทั่วโลก สร้างหัวเลี้ยวหัวต่อและกดดันให้สหรัฐยอมผ่อนปรนเข้าร่วมการเจรจาที่กรุงปารีส พลเอกฝ่ามวันจ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนามให้ข้อสังเกตว่า นี่คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของสงครามต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกา เพื่อมุ่งสู่การรวมประเทศเป็นเอกภาพ เป็นพื้นฐานในการปฏิบัติตามคำสั่งของประธานโฮจิมินห์ก่อนยุทธนาการนี้ว่า “ต่อสู้ขับไล่สหรัฐอเมริกากลับประเทศ ต่อสู้เพื่อโค่นล้มทางการหุ่นไซ่ง่อน”            “ตามคำสั่งของประธานโฮจิมินห์คือ แม้จะต้องเผาทั้งเทือกเขาเจื่องเซินก็ต้องช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพให้ได้ พวกเราจึงตัดสินใจเปิด ยุทธนาการที่มีความหมายชี้ขาดนี้ ซึ่งกดดันให้สหรัฐต้องยอมรับข้อตกลงปารีส ยอมรับทั้ง 4 ฝ่ายคือ สหรัฐ ภาคเหนือเวียดนาม ภาคใต้เวียดนามและแนวร่วมประชาชาติปลดปล่อยภาคใต้เวียดนาม”

บทเรียนอันล้ำค่า

ยุทธนาการตรุษเต๊ตปีวอก 1968 พิสูจน์ให้เห็นถึงแนวทางการชี้นำที่ถูกต้องและมีความคิดสร้างสรรค์ของศิลปะการต่อสู้ ซึ่งทำลายยุทธศาสตร์ของสหรัฐเนื่องจากมุ่งตามแนวทาง “มุ่งมั่นต่อสู้ กล้าต่อสู้และต้องแสวงหาวิธีโจมตีใส่ศูนย์กลางของศัตรู” พลตรีเหงียนวันบ๋าว ผู้อำนวยการสถาบันการเมืองสังกันกระทรวงกลาโหมเวียดนามเผยว่า “ชัยชนะดังกล่าวสะท้อนความถูกต้องของการชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม นั่นคือวิธีการโจมตีอย่างกล้าหาญและในรูปแบบใหม่โดยทำการโจมตีขนาดใหญ่พร้อมกันในนครและตัวเมืองที่มีสำนักงานใหญ่ของทางการปกครองไซ่ง่อน ศูนย์บัญชาการและศูนย์พลาธิการของจักรวรรดินิยมอเมริกา พร้อมทั้งทำการโจมตีในหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางทหาร การเมืองและการรณรงค์มวลชนเพื่อทำลายความมุ่งมั่นในการรุกรานประเทศเวียดนามของฝ่ายศัตรู”

ชัยชนะดังกล่าวยังเป็นผลสำเร็จของการระดมความสามัคคีชนในชาติและเป็นบทเรียนอันล้ำค่าเกี่ยวกับการร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพระหว่างการต่อสู้ทางทหารกับการต่อสู้ทางงการเมือง การทูตและการใช้โอกาสจากการสนับสนุนจากรัฐบาลและประชาชนทั่วโลก

ในการถอดประสบการณ์จากบทเรียนอันล้ำค่าดังกล่าว เเวียดนามต้องยืนหยัดการพึ่งพาาตนเอง ขยายการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ธำรงแนวทางรักษาเอกราชและเป็นตัวของตัวเอง พลตรีเหงียนวันบ๋าวเผยว่า“ต้องประเมินสถานการณ์โลก ภูมิภาคและประเทศเวียดนามในสภาวการณ์ใหม่อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะโอกาศและความท้าทายเพื่อวางแผนอย่างถูกต้องและชี้นำยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศให้เหมาะสม ควรทำการวิจัยอย่างรอบด้านเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ต้องเป็นฝ่ายรุกในการป้องกันประเทศเพื่อยับยั้งความเสี่ยงเกี่ยวกับการเกิดสงครามและการปะทะ จงยืนหยัดต่อสู้เพื่อรักษาเอกราช อธิปไตย เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดนของปิตุภูมิ”

50 ปีได้ผ่านพ้นไป การลุกขึ้นสู้ตรุษเต๊ตปีวอก 1968 ยังคงเป็นนิมิตรหมายสำคัญในกระบวนการปลดปล่อยประเทศ ผลสำเร็จของยุทธนาการดังกล่าวได้สร้างเงื่อนไขที่สำคัญให้กองทัพและประชาชนเวียดนามสามารถเอาชนะในสนามรบอื่นๆ จนสามารถเสร็จสิ้นภารกิจรวมประเทศเป็นเอกภาพได้เมื่อปี 1975.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด