ยืนยันถึงความสามัคคีระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา

(VOVworld) –   ตามคำเชิญของท่านTrương Tấn Sangประธานประเทศเวียดนาม วันที่๒๔กันยายน สมเด็จ พระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ได้เสด็จเดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา๓วันซึ่งอยู่ในกรอบ กิจกรรมฉลองปีมิตรภาพเวียดนามกัมพูชา๒๐๑๒ และครบรอบ๔๕ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศซึ่งตรงกับวัน ที่๒๔มิถุนายน อีกทั้งยืนยันถึงความตั้งใจของผู้นำของทั้งสองประเทศที่จะขยายความสัมพันธ์ ฉันท์เพื่อนบ้านที่ดีงาม สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศอย่างไม่ หยุดยั้ง

(VOVworld) –   ตามคำเชิญของท่านTrương Tấn Sangประธานประเทศเวียดนาม วันที่๒๔กันยายน สมเด็จ พระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ได้เสด็จเดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา๓วันซึ่งอยู่ในกรอบกิจกรรมฉลองปีมิตรภาพเวียดนามกัมพูชา๒๐๑๒ และครบรอบ๔๕ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศซึ่งตรงกับวันที่๒๔มิถุนายน อีกทั้งยืนยันถึงความตั้งใจของผู้นำของทั้งสองประเทศที่จะขยายความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้านที่ดีงาม สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง

 

ยืนยันถึงความสามัคคีระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา - ảnh 1
ท่านTrương Tấn Sangประธานประเทศเวียดนามกับ
สมเด็จ พระบรมนาถ นโรดม สีหมุนีแห่งกัมพูชา

กัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดกับเวียดนามทั้งในทางภูมิศาสตร์ มีความคล้ายคลึงกันทางวัฒนธรรม มีเขตแดนติดกับเวียดนามและมีผลประโยชน์ร่วมซึ่งเป็นปัจจัยสร้างความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างสองประเทศ ปัจจุบัน ทั้งสองประเทศล้วนปฏิบัตินโยบายต่างประเทศที่เปิดกว้าง มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหลายรูปแบบหลายฝ่ายและให้ความสำคัญต่อการขยายความสามัคคี สัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ จากความตั้งใจและความพยายามของทั้งสองประเทศในหลายปีที่ผ่านมา ความสามัคคี สัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านระหว่งสองประเทศได้มีการพัฒนาอย่างดีงามทั้งด้านกว้างและด้านลึกและเป็นปัจจุบัยสำคัญ มีส่วนร่วมสร้างบรรยากาศที่สันติภาพ และเสถียรภาพอันยาวนานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคม รักษาเอกราช อธิปไตยของแต่ละประเทศ จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองประเทศได้กำหนดกรอบของความสัมพันธ์ร่วมมือคือ“เพื่อนบ้านที่ดีงาม สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ความร่วมมือในทุกด้านอย่างยั่งยืนและยาวนาน”และได้ลงนามในเอกสารทางนิตินัยเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีในแทบทุกด้าน รวมทั้งหมดกว่า๘๐ฉบับและจัดตั้งกลไกการประสานที่จำเป็นและสอดคล้องกับความต้องการของการพัฒนาความสามัคคี มิตรภาพและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ ท่านPhạm Bình Minh รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้กล่าวว่า“ใน๔๕ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต  ความสัมพันธ์เพื่อนบ้านระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งแม้จะต้องประสบทั้งความรุ่งเรืองและเสื่อมถอยก็ตาม ความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศแสดงให้เห็นจากการแลกเปลี่ยนคณะผู้นำของทั้งสองประเทศไปมาเยี่ยมเยือนกันเป็นประจำ สร้างเงื่อนไขล่วงหน้าให้แก่การพัฒนาระหว่างท้องถิ่น กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะ การพบปะแลกเปลี่ยนระดับประชาชน และความช่วยเหลือกันระหว่างประชาชนที่อยู่เลียบตามบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศได้สร้างความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นยิ่งกว่าเวลาใดทั้งหมด”

ยืนยันถึงความสามัคคีระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา - ảnh 2
ผู้ว่าธนาคารชาติเวียดนามกล่าวต่อการพบปะกับนักลงทุนเวียดนามในกัมพูชา

ทางด้านเศรษฐกิจ ความร่วมมือได้รับการขยายอย่างค่อยเป็นค่อยไป มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและบรรลุเกือบ๒พัน๘ร้อยล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี๒๐๑๑  ปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนในกัมพูชารวมทั้งหมดเกือบ๑๐๐โครงการ  ด้วยยอดเงินทุนกว่า๒พัน๒ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ อยู่อันดับ๒ในด้านการลงทุนของเวียดนามในต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่ในด้านโทรคมนาคม ธนาคาร พลังงาน การปลูกยางพารา และการแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร  เวียดนามช่วยกัมพูชาฝึกอบรมบุคลากรด้านสาธารณสุข ช่วยตรวจและรักษาโรคให้แก่ประชาชนกัมพูชา ทั้งสองประเทศได้ประสานในการปักปันและปักหลักพรมแดนเป็นอย่างดีซึ่งจนถึงปัจจุบัน ทั้งสองประเทศกำหนดได้๒๓๙จุด เพื่อปักหลักพรมแดน๒๘๙หลัก และทำการปักปันและปักหลักพรมแดนได้๗๐๓กิโลเมตร ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันว่า จะร่วมมือกันต่อไปเพื่อปฏิบัติงานนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว มีส่วนร่วมสร้างสรรค์แนวพรมแดนที่สันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนา ความสัมพันธ์ระหว่างองค์การการเมือง และสังคมของทั้งสองประเทศนับวันยิ่งได้รับการขยายมีส่วนร่วมปลูกฝังจิตสำนึกของประชาชน โดยเฉพาะ ชนรุ่นใหม่เกี่ยวกับเกียรติประวัติแห่งความสามัคคี ให้ความช่วยเหลือจุนจือกันเพื่อมีส่วนร่วมรักษาและทำนุกบำรุงสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน และความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศและสิ่งนี้ยิ่งมีความหมายและได้รับการผลักดันในปีนี้เพราะผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกันว่า จะกำหนดปี๒๐๑๒เป็นปีแห่งมิตรภาพเวียดนามกัมพูชา และจัดกิจกรรมระดับชาติต่างๆเพื่อรำลึกครบรอบ๔๕ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต นายVũ Mão นายกสมาคมมิตรภาพเวียดนามกัมพูชาได้กล่าวว่า“พวกเราต้องทำนุบำรุงสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พวกเราได้มีการประสานกับสมาคมมิตรภาพกัมพูชาเวียดนามเพื่อรณรงค์ให้ทุกคนในสังคมเข้าร่วม ปีนี้จะจัดกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะ พวกเราได้พิมพ์จำหน่ายวารสารของสมาคมมิตรภาพเวียดนามกัมพูชาเพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศเข้าใจกระบวนการพัฒนาของทั้งสองประชาชาติ” นอกจากนี้ทั้งสองประเทศยังมีความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นและให้การสนับสนุนกันในฟอรั่มระหว่างประเทศและภูมิภาค เช่น ความร่วมมือระหว่างสามประเทศเวียดนาม ลาว และกัมพูชา  ความร่วมมือระหว่าง๔ประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า และความร่วมมืออนุภูมิภาคแม่น้ำโขงขยายวงค์ อาเซียน  การประชุมเอเชีย ยุโรปหรืออาเซม และสหประชาชาติ เป็นต้นบนพื้นฐานของความสัมพันธ์อันดีงามนี้ การเสร็จเยือนเวียดนามครั้งนี้ของสมเด็จ พระบรมนาถ นโรดม สีหมุนีเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์เพื่อนบ้านที่ดีงาม มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศให้พัฒนายิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นโอกาสเพื่อให้ผู้นำทั้งสองประเทศแจ้งให้กันทราบสถานการณ์ของแต่ละประเทศ แลกเปลี่ยนปัญหาต่างๆในความสัมพันธ์ทวิภาคี การเยือนนี้จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศผลิดอกออกผล ตอบสนองความปรารถนาและผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในโลก ./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด