ยืนหยัดปฏิบัติการควบคุมเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค
Thu Hoa VOV5 -  
(VOVworld) – ที่ประชุมประจำเดือนมีนาคมของรัฐบาลได้ให้ข้อสังเกตุว่า ใน๓เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีสัญญาณ ที่น่ายินดีเกี่ยวกับการควบคุมเงินเฟ้อ แต่ท่ามกลางสัญญาณที่น่ายินดีก็แฝงไว้ซึ่งความเสี่ยงดังนั้นการควบคุมเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจมหาภาคจึงยังคงได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อไป
(VOVworld) – ที่ประชุมประจำเดือนมีนาคมของรัฐบาลได้ให้ข้อสังเกตุว่า ใน๓เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีสัญญาณที่น่ายินดีเกี่ยวกับการควบคุมเงินเฟ้อ แต่ท่ามกลางสัญญาณที่น่ายินดีก็แฝงไว้ซึ่งความเสี่ยงดังนั้นการควบคุมเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจมหาภาคจึงยังคงได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อไป
|
สถานประกอบการผลักดันการผลิต (Photo:Internet ) |
(VOVworld) – ปี๒๐๑๒ โดยเฉพาะ ในช่วงครึ่งปีแรกได้มีการพยากรณ์ว่า จะเป็นปีที่ลำบากที่สุดของเศรษฐกิจเวียดนามและโลก แต่อย่างไรก็ดีหลังจากพ้นเดือนมีนาคม สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศก็มีสัญญาณที่น่ายินดี โดยเฉพาะ การควบคุมเงินเฟ้อ ดัชนีย์ราคาผู้บริโภคหรือCPIในเดือนมกราคมปี๒๐๑๒ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ๑ และในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นร้อยละ๑.๓๗ เท่ากับช่วงเดียวกันของปี๒๐๐๙และต่ำที่สุดในรอบ๑๐ปีที่ผ่านมา เฉพาะเดือนมีนาคมCPI เพิ่มขึ้น๐.๑๖ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ๒ปี ความเสียเปรียบดุลย์การค้าอยู่ที่๓๐๐ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ๑.๒ของยอดมูลค่าการส่งออก ปริมาณและคุณภาพของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือFDI ได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น รวมไปถึงการชำระของธนาคารและการสำรองเงินตราต่างประเทศก็ดีขึ้นซึ่งใน๒เดือนแรกของปี๒๐๑๒ จำนวนเงินตราต่างประเทศสำรองได้เพิ่มขึ้นร้อยละ๒๐ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนยังคงมีเสถียรภาพ สัญญาณที่น่ายินดีเกี่ยวกับการปรับปรุงการชำระของธนาคารแสดงให้เห็นจากการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลใน๒เดือนแรกและจำนวนพันธบัตรรัฐบาลที่องค์การต่างๆถืออยู่ได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ๑๐ เมื่อเร็วๆนี้ ในการให้สัมภาษณ์นักข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม นายCao Viết Sinh รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามได้กล่าวว่า “สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคเริ่มมีเสถียรภาพและความเชื่อมั่นต่อเงินด่งก็เพิ่มมากขึ้น ในระหว่างเดือนกันยายนปี๒๐๑๑ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี๒๐๑๒ รวมไปถึงเดือนมีนาคมนี้ ประชาชนยังคงฝากเงินไว้กับธนาคารแม้ว่าดอกเบี้ยเงินกู้จะลดลงซึ่งช่วยให้การชำระหนี้ดีขึ้น” จากสถานการณ์ที่เป็นจริงในต้นปีนี้แสดงให้เห็นว่า เวียดนามจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อในปี๒๐๑๒ให้ลดลงอยู่ในหลักหน่วยได้เนื่องจากมีปัจจัยที่ช่วยเกื้อหนุน เช่น จิตสำนึกและความตั้งใจทางการเมืองจากผู้บริหารในระดับสูงสุด นโยบายการเงินที่รัดกุม การบริหารอย่างคล่องตัวและรอบคอบ การลดจำนวนและหันมาเพิ่มประสิทธิภาพของการลงทุนสาธารณะ ปรับปรุงรูปแบบและระเบียบการพัฒนา ความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งวัตถุดิบและแรงงาน ความคล่องตัวและความมุ่งมั่นของบรรดานักธุรกิจโดยเฉพาะ ประชาคมระหว่างประเทศนับวันยิ่งให้ความไว้วางใจและตั้งความหวังต่อศักยภาพการพัฒนาในระยะปานกลางและระยะสั้นของเวียดนาม จากผลสำเร็จใน๓เดือนที่ผ่านมา บรรดานักวิชาการทางเศรษฐกิจได้พยากรณ์ว่า ปี๒๐๑๒ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะบรรลุร้อยละ๖ ถึงร้อยละ๖.๕ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเศรษฐกิจเวียดนามยังประสบความลำบากเพราะ ตลาดรองรับผลิตภัณฑ์ของสถานประกอบการอุตสาหกรรมลดลง มีปริมาณสินค้าค้างสต็อกสูง สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมส่วนหนึ่งต้องระงับการผลิต นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากราคาสินค้าต่างๆที่ยังคงสูงมากและความผันผวนของราคาสินค้าในตลาดโลกที่จะส่งผลกระทบต่อเวียดนาม ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเวียดนามจะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อปรับปรุงนโยบายให้สอดคล้องโดยเฉพาะ การปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนสาธารณะ ขยายการบริหารการลงทุนจากการใช้งบประมาณแผ่นดินและพันธบัตรเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคต่อไป เกี่ยวกับปัญหานี้ นายCao Viết Sinh กล่าวว่า รัฐบาลได้ออกมติ๑๗๙๒เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงการลงทุนสาธารณะในปี๒๐๑๒“ พวกเราต้องหันมาให้ความสนใจถึงกำหนดการของโครงการเพราะ ถ้าโครงการได้รับการปฏิบัติอย่างล่าช้า ประสิทธิภาพการลงทุนก็จะลดน้อยลงดังนั้น ปีนี้จึงมีข้อกำหนดว่า จะอนุญาติให้ปฏิบัติโครงการที่สามารถปฏิบัติแล้วเสร็จภายในเวลา๓ปีสำหรับกลุ่มCและ๕ปีสำหรับกลุ่มBและระงับโครงการที่ไม่สามารถปฏิบัติตามกำหนดเวลาที่ได้วางไว้ นอกจากนี้ ก่อนออกมติลงทุนต้องทาบทามความคิดเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงวางแผนและการลงทุนเพื่อดูว่า ส่วนกลางให้ความช่วยเหลือเงินทุนเท่าไหร่ ถ้าหากส่วนกลางให้ความช่วยเหลือเงินลงทุนร้อยละ๒๐ถึงร้อยละ๓๐ ท้องถิ่นจะต้องรับผิดชอบจำนวนเงินทุนที่เหลือ ถ้าหากท้องถิ่นเห็นว่าไม่สามารถทำได้ก็จะไม่มีการปฏิบัติโครงการ”เพื่อปฏิบัติเป้าหมายควบคุมเงินเฟ้อตามคำขอร้องของรัฐบาล ในเวลาที่จะถึง การลดดอกเบี้ยของธนาคารต้องประกันผลประโยชน์ในทุกด้าน โดยเฉพาะการลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อลดอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของธนาคาร บรรดานักวิชาการทางเศรษฐกิจก็ให้ข้อสังเกตุว่า การกำหนดเพดานดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ๑๕ถึงร้อยละ๑๖และบริหารอย่างยืดหยุ่นตามหลักการเพื่อมุ่งสู่การยกเลิกเพดานดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นงานที่ต้องทำซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีความคล่องตัวมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของการควบคุมเงินเฟ้อ ช่วยเหลือสถานประกอบการฟันฝ่าอุปสรรค ส่งเสริมพลังขับเคลื่อนของการขยายตัว ปรับปรุงโครงสร้างควบคู่กับการสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและรักษาสวัสดิการสังคมในปี๒๐๑๒./.
Thu Hoa VOV5