ยากที่จะแก้ไขสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี

(VOVworld) - เพิ่มแรงกดดันและมาตรการคว่ำบาตรต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีในขณะ ที่ยังคงธำรงความพยายามเพื่อให้กลับเข้าร่วมการเจรจาคือเนื้อหาของการพบปะ ระดับสูง 3 ประเทศ สหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่กรุงโซลในสภาวการณ์ที่ทางการเปียงยางมีท่าทีที่ถือว่าเป็นการ กระทำที่ยั่วยุเมื่อเร็วๆนี้ คาดว่า คำประกาศที่แข็งกร้าวของหัวหน้าคณะเจรจาของ3ประเทศดังกล่าวที่เข้าร่วมการ เจรจา 6 ฝ่ายเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีจะทำ ให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีทวีความตึงเครียดมากขึ้น

(VOVworld) - เพิ่มแรงกดดันและมาตรการคว่ำบาตรต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีในขณะที่ยังคงธำรงความพยายามเพื่อให้กลับเข้าร่วมการเจรจาคือเนื้อหาของการพบปะระดับสูง 3 ประเทศ สหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่กรุงโซลในสภาวการณ์ที่ทางการเปียงยางมีท่าทีที่ถือว่าเป็นการกระทำที่ยั่วยุเมื่อเร็วๆนี้ คาดว่า คำประกาศที่แข็งกร้าวของหัวหน้าคณะเจรจาของ3ประเทศดังกล่าวที่เข้าร่วมการเจรจา 6 ฝ่ายเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีจะทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีทวีความตึงเครียดมากขึ้น

ยากที่จะแก้ไขสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี - ảnh 1
เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (Reuters)

ในการพบปะ ณ กรุงโซล ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ตัวแทนของสามประเทศได้เห็นพ้องกันว่า ก้าวเดินใหม่เกี่ยวกับสมรรถภาพด้านนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเมื่อเร็วๆนี้ถือว่ารุนแรงมาก พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ “จิตสำนึกที่เร่งด่วน”ในการแก้ไขปัญหานี้ นาย ฮวาง จุน กุ๊ก หัวหน้าคณะเจรจาด้านนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐเกาหลีได้เตือนว่า ทางการเปียงยางจะเผชิญกับแรงกดดันจากประชาคมโลกมากขึ้นถ้าหากยังคงมีท่าทีที่ยั่วยุเหมือนที่ผ่านมา รวมถึงการโดดเดี่ยวทางการทูตและเศรษฐกิจ นอกจากนั้น ตัวแทนของทั้งสามประเทศยังยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับปัญหาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ตลอดจนการธำรงความเป็นเอกภาพระหว่าง 5 ฝ่าย รวมทั้งรัสเซียและจีน
ท่าทีที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้น

ในขณะที่การประกาศทำการทดลองยิงขีปนาวุธนำวิถีจากเรือดำน้ำของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกำลังสร้างความถกเถียงกันอยู่นั้น ทางการเปียงยางก็ได้ก่อสร้างบังเก้อร์ ทหารหลายแห่งในเขตชายแดนที่ติดกับสาธารณรัฐเกาหลีและตามเปิดโปงของทางการโซลนั้น เกาะ กาลโด ซึ่งอยู่ห่างจากเส้นแบ่งพรมแดนทางทะเลที่ติดกับสาธารณรัฐเกาหลี 2.5 กิโลเมตร ฝ่ายเปียงยางได้ติดตั้งระบบฐานยิงขีปนาวุธขนาด 122 ม.ม.(มิลลิเมตร)และตั้งด่านทหารเพื่อตรวจสอบกิจกรรมของกองทัพเรือและเรือลาดตระเวนของสาธารณรัฐเกาหลี ถ้าหากสองประเทศเกิดการปะทะ เกาะ กาลโด จะเป็นฐานทัพที่ใกล้ที่สุดเพื่อโจมตีใส่เกาะต่างๆในเขตทะเลของสาธารณรัฐเกาหลี ฐานทัพที่ใกล้ที่สุดของสาธารณรัฐเกาหลีตั้งอยู่บนเกาะ จานจาเอโดJangjaedo อยู่ห่างจากเกาะ ยอนเปียงYeonpyeong 7 กิโลเมตร สาธารณรัฐเกาหลีได้แสดงความเห็นว่า ได้มีฐานทัพอย่างน้อย 5 แห่งที่ถูกก่อสร้างซึ่งถือว่าเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรง กองทัพสาธารณรัฐเกาหลีได้ส่งขีปนาวุธ Spike พิสัยไกล 20 กิโลเมตรถึงเกาะ ยอนเปียงโดYeonpyeongdo และ เบียงยองโดBaengnyeongdo เพื่อปกป้องเขตนี้
กองทัพสหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลียังเร่งรัดวางแผนการต่างๆเพื่อรับมือ และมีความเป็นไปได้ที่จะทำการโจมตีใส่ฐานทัพเรือดำน้ำของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี พร้อมทั้งหารือเกี่ยวกับการติดตั้งระบบเรือดำน้ำป้องกันขีปนาวุธ ขณะนี้ ทางการโซลยังพิจารณาการซื้อระบบเรดาร์จากอิสราเอลเพื่อขยายระบบป้องกันขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำของศัตรูและซื้อ ขีปนาวุธ SM-3 เพื่อติดตั้งบนเรือพิฆาต Acers ของกองทัพเรือสหรัฐเพื่อทำการตอบโต้
ความหวังอันริบหรี่เพื่อฟื้นฟูการเจรจา

การเจรจา 6 ฝ่ายเกี่ยวกับปัญหาปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีได้ชงักงันมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2008 จนถึงปัจจุบันซึ่งเหตุผลหลักคือในขณะที่สหรัฐและพันธมิตรมีความประสงค์ให้ทางการเปียงยางแสดงออกถึงเจตนาดีที่ผ่านคำมั่นเกี่ยวกับนิวเคลียร์เพื่อแลกกับการได้รับการช่วยเหลือและการประณีประนอมทางการเมือง แต่ทางการเปียงยางได้เรียกร้องให้ทางการวอชิงตันและพันธมิตรต้องรับรองประเทศนี้เป็นประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ ดังนั้น ในหลายปีที่ผ่านมา ภูมิภาคนี้ยังคงอยู่ในวังวนของการยิงขีปนาวุธ การคว่ำบาตร การซ้อมรบเพื่อยั่วยุการตำหนิกันและตักเตือนกัน ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง2ภาคเกาหลีตึงเครียดมากขึ้น
ในสภาวการณ์ดังกล่าว ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ศักยภาพเกี่ยวกับการฟื้นฟูการเจรจาเพื่อปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีอยู่ในระดับต่ำ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในการทดลองยิงขีปนาวุธนำวิถีจากเรือดำน้ำเท่านั้น หากยังประกาศว่า มีความสามารถในการลดขนาดหัวรบนิวเคลียร์เพื่อติดตั้งกับขีปนาวุธ ปัจจุบัน ประชาคมโลกกำลังตั้งความคาดหวังต่อจีนซึ่งเป็นพันธมิตรใหญ่และผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของทางการเปียงยาง ในวันที่ 28 พฤษภาคม ทูตพิเศษของสหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีได้เดินทางถึงกรุงปักกิ่งเพื่อพบปะกับทูตพิเศษของจีนโดยมีความประสงค์ว่า ทางการปักกิ่งจะใช้อิทธิพลของตนเพื่อโน้มน้าวให้ทางการเปียงยางละทิ้งความทะเยอะทะยานด้านนิวเคลียร์ แต่ในสภาวการณ์ที่สหรัฐกำลังให้ความสนใจถึงเอเชีย จีนก็แสดงความประสงค์ที่จะธำรงความสัมพันธ์ที่ดีกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่มากกว่าการแก้ไขปัญหาโครงการนิวเคลียร์ บรรดานักวิเคราะห์ได้แสดงความเห็นว่า ฝ่ายจีนยังคงยืนกรานทัศนะที่ว่า ปัญหานิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีต้องได้รับการแก้ไขผ่านการสนทนา
ความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีคือความสัมพันธ์ที่ไม่มีความราบรื่นเพราะทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งที่ไม่สามารถแก้ไขได้และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความไว้วางใจระหว่างกันยังอยู่ในระดับต่ำ ทุกฝ่ายได้ไกล่เกลี่ยเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การฟื้นฟูการเจรจาอย่างแท้จริงซึ่งตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ปฏิบัติการของแต่ละฝ่ายไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือการป้องกันตนเอง ล้วนแล้วแต่สร้างบรรยากาศไร้เสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลีซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขความตึงเครียดด้านความมั่นคงในภูมิภาคแต่จะมีมาตรการใดที่สามารถแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้นั้นคือคำถามที่จนถึงปัจจุบันทุกฝ่ายยังไม่มีคำตอบ   แต่มาตรการสร้างความไว้วางใจกันอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของกระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด