รักษาสวัสดิการสังคมเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ยุติธรรม มีประชาธิปไตยและอารยธรรม

(VOVworld) – สวัสดิการสังคมคือนโยบายหลักที่สะท้อนแนวทางของพรรคและรัฐเวียดนามที่เน้นเป้าหมายพัฒนามนุษย์ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้ปฏิบัติงานด้านนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติมาตราที่ 34 ในรัฐธรรมนูญปี 2013 ที่ระบุว่า พลเมืองมีสิทธิเข้าถึงสวัสดิการสังคม

(VOVworld) – สวัสดิการสังคมคือนโยบายหลักที่สะท้อนแนวทางของพรรคและรัฐเวียดนามที่เน้นเป้าหมายพัฒนามนุษย์ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้ปฏิบัติงานด้านนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติมาตราที่ 34 ในรัฐธรรมนูญปี 2013 ที่ระบุว่า พลเมืองมีสิทธิเข้าถึงสวัสดิการสังคม

รักษาสวัสดิการสังคมเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ยุติธรรม มีประชาธิปไตยและอารยธรรม  - ảnh 1
สวัสดิการสังคมเป็นส่วนสำคัญของนโยบายสังคม ซึ่งถูกระบุในยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมของประเทศ เวียดนามถือการรักษาสวัสดิการสังคมเป็นเนื้อหาที่เป็นรูปธรรมในการปฏิบัติสิทธิทางสังคมของประชาชนทุกคน เป็นพลังขับเคลื่อนและเป็นเป้าหมายของภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศสวัสดิการสังคมมีประสิทธิภาพในทุกด้าน
แม้ต้องเผชิญความผันผวนด้านเศรษฐกิจและศักยภาพของประเทศยังมีอย่างจำกัดแต่พรรคและรัฐยังให้ความสำคัญต่อการรักษาสวัสดิการสังคม โดยเมื่อปี 2012 การจัดสรรค์งบประมาณให้แก่สวัสดิการสังคมอยู่ที่ร้อยละ 5.88 ของจีดีพีแต่ในปี 2015 ตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6.6 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถึงแม้เศรษฐกิจจะประสบความยากลำบากแต่รัฐบาลเวียดนามก็ไม่ยกเลิกนโยบายหรือลดงบประมาณด้านสวัสดิการสังคม หากยังมีการอัดฉีดงบประมาณในด้านดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน เวียดนามยังปฏิบัตินโยบายสวัสดิการสังคมอย่างมีประสิทธิภาพผ่านโครงการช่วยเหลือในรูปให้เปล่าจากต่างประเทศหรือจากสถานประกอบการ องค์กรและประชาชนในประเทศ
จากการให้ความสนใจดังกล่าว โครงการแก้ปัญหาความยากจนของเวียดนามในระดับชาติได้ประสบผลที่น่ายินดี ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศ โดยอัตราครอบครัวยากจนลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 2 ต่อปี ซึ่งจากร้อยละ 14.2 เมื่อปลายปี 2010 ได้ลดเหลือต่ำกว่าร้อยละ 4.5 ในปี 2015 สิ่งที่น่าสนใจคือ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน เมื่อปี 2015 นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงได้อนุมัติโครงการเปลี่ยนแปลงแนวทางการเข้าถึงการวัดระดับความยากจนจากมิติเดียวมาเป็นหลายมิติช่วงปี 2016-2020 ซึ่งเป็นวิธีการที่นานาประเทศปฏิบัติเพื่อเพิ่มรายได้และการเข้าถึงการบริการทางสังคมขั้นพื้นฐานที่จำเป็นของประชาชน นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงเผยว่า  “การแก้ปัญหาความยากจนเป็นนโยบายสำคัญของพรรคและรัฐ เป็นเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ได้รับการขานรับอย่างเต็มที่จากประชาชนและการสนับสนุนของประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของการพัฒนา เราต้องทำการเปลี่ยนแปลงนี้ นี่ก็เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับระเบียบวาระการประชุม 2030 ของสหประชาชาติเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
รักษาสวัสดิการสังคมเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ยุติธรรม มีประชาธิปไตยและอารยธรรม  - ảnh 2
นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุง
นโยบายสวัสดิการสังคมที่ได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพได้ช่วยให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ทั้งใน 3 ด้าน ประกอบด้วย แรงงาน งานทำและการฝึกสอนอาชีพในปี 2015 ซึ่งในนั้น จำนวนแรงงานที่มีงานทำมีกว่า 1.6 ล้านคน อัตราแรงงานที่ได้รับการฝึกสอนอาชีพอยู่ที่ร้อยละ 51.6 และอัตราผู้ว่างงานในเขตตัวเมืองอยู่ที่ร้อยละ 3.35 มีการเปลี่ยนโครงสร้างของแรงงานตามแนวทางเพิ่มอัตราภาคอุตสาหกรรมการบริการ นโยบายสำหรับผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเนื่องจากได้มีการแก้ไขตามแนวทางขยายกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์และเพิ่มระดับเงินสนับสนุน คิดเป็นร้อยละ 71.2 เมื่อเทียบกับปี 2010 จนถึงปลายปี 2015 ประชาชนที่เข้าร่วมการประกันสุขภาพ ประกันสังคม การประกันการว่างงานมีทั้งหมด 70.2 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 77 ของประชากรและมากกว่าปี 2014 ร้อยละ 8.3
ร่างนโยบายสวัสดิการสังคมที่สามารถเข้าถึงประชาชนทุกภาคส่วน
เวียดนามตั้งเป้าหมายว่า ถึงปี 2020 จะเสร็จสิ้นการร่างระบบสวัสดิการสังคมในขั้นพื้นฐานที่ครอบคลุมถึงประชาชนทุกคน ค้ำประกันให้ประชาชนสามารถเข้าถึงนโยบายเกี่ยวกับงานทำ การแก้ปัญหาความยากจนและเข้าร่วมการประกันสังคมอย่างทั่วถึง สนับสนุนผู้ที่มีฐานะยากจนพิเศษและเพิ่มการให้บริการทางสังคมในขั้นพื้นฐาน แต่เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ก่อนอื่น เวียดนามต้องปฏิบัติแนวทางลดความยากจนในหลายมิติ
เวียดนามยังทำการปรับปรุงพื้นฐานทางนิตินัย นโยบายและมาตรการค้ำประกันสวัสดิการสังคมต่อไป เช่น ผลักดันการร่างและปรับปรุงระบบกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิการสังคมให้สมบูรณ์มากขึ้น โดยเฉพาะการร่างและประกาศใช้กฎหมายงานทำ กฎหมายเงินเดือนขั้นต่ำ กฎหมายด้านสังคมสงเคราะห์ กฎหมายการให้สิทธิพิเศษทางสังคม วิจัยการปรับปรุงและแก้ไขประมวลกฎหมายแรงงาน กฎหมายประกันสังคม กฎหมายคนพิการและกฎหมายผู้สูงอายุ เป็นต้น นางเลถิเอี๊ยน สมาชิกคณะกรรมธิการที่ดูแลปัญหาสังคมของรัฐสภาให้ข้อสังเกตว่า “ รัฐสภาและรัฐบาลให้ความสนใจต่อการสร้างและปรับปรุงระบบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและนโยบายสำหรับแรงงานและผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง โดยจัดทำร่างกฎหมายเงินเดือนขั้นต่ำโดยเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของแรงงานในการดำรงชีวิต เพื่อปฏิบัติขั้นตอนขยายกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมการประกันสังคมและการประกันสุขภาพให้แก่ประชาชนทุกคนถึงปี 2020 รัฐบาลได้ประกาศนโยบายสนับสนุนการซื้อประกันสังคมให้แก่แรงงาน สนับสนุนการสมัครซื้อประกันสังคมและขยายกลุ่มเป้าหมายที่สามารถซื้อประกันสุขภาพ”
ทั้งนี้และทั้งนั้นนี่ถือเป็นการยืนยันถึงความเสมอต้นเสมอปลาย ความพยายามอย่างเต็มที่และการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับประชาชนเวียดนามในการปฏิบัตินโยบายสวัสดิการสังคมเพื่อมีส่วนร่วมในการปฏิบัติสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆของมนุษย์และพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมอย่างรอบด้าน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด