(VOVworld) – การควบคุมอย่างเข้มงวดและการเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายและรักษาระดับเพดานหนี้สาธารณะให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยคือมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของรัฐบาลเวียดนามในเวลาที่ผ่านมา มาตรการนี้ยังคงได้รับการปฏิบัติต่อไปเพื่อค้ำประกันระบบการเงินของประเทศและเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคโดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่หนี้สาธารณะมีแนวโน้มสูงขึ้น

การลงทุนภาครัฐต้องใช้แหล่งเงินทุนเพื่อพัฒนาและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้นในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้ใช้เงินกู้กว่าร้อยละ 98 เพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 1.5 ถูกใช้ในรูปแบบงบประมาณแผ่นดินเพื่อการพัฒนาอื่นๆ และอีกร้อยละ 0.4 ถูกใช้เพื่อการบริหารจัดการอื่นๆ

ผลกระทบในทางลบจากวิกฤการเงินและการถดถอยของเศรษฐกิจโลกพร้อมกับข้อบกพร่องต่างๆของเวียดนามได้ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจลดลงจากอัตราเฉลี่ยร้อยละ 7 ในช่วงปี 2006-2010 เหลือร้อยละ 5.8 ในช่วงปี 2011-2015  ในสภาวการณ์นี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าที่จะลดการเก็บภาษีเพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการฟันฝ่าอุปสรรคและเพิ่มงบประมาณให้แก่สังคม ดังนั้น จึงต้องตัดลดงบประมาณในการลงทุนพัฒนาจากร้อยละ 25 ในช่วงปี 2006-2010 เหลือร้อยละ 18 ในช่วงปี 2011-2015 เพื่อบรรลุเป้าหมายในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ได้วางไว้ เวียดนามจำเป็นต้องกู้เงินทั้งจากภายในและต่างประเทศมากขึ้น นางเหงียนถิ่เหงีย ผู้แทนรัฐสภานครไฮฟองเห็นว่า  “ปัญหาหนี้สาธารณะเป็นปัญหาของทุกประเทศที่กำลังพัฒนาให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย แม้กระทั่งบรรดาประเทศพัฒนาก็ต้องรับมือกับปัญหาหนี้สาธารณะสูงเช่นกัน พวกเราต้องกู้เงินจากต่างประเทศและใช้เงินจากการขายพันธบัตรเพื่อพัฒนาประเทศโดยเฉพาะก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น สะพาน ท่าเรือ ระบบคมนาคมและโรงพยาบาล โครงการสำคัญหลายโครงการได้รับการก่อสร้างจากเงินกู้ดังกล่าว ซึ่งสร้างโฉมใหม่และเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาของประเทศ”

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการก่อหนี้สาธารณะก็ส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศเช่นกันแต่ในทางกลับกันก็ทำให้เกิดปัญหางบประมาณขาดดุล โดยเฉพาะการขายพันธบัตรรัฐบาลและการลงทุนได้ส่งผลให้หนี้สาธารณะของเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คือจากร้อยละ 51.7 ของจีดีพีเมื่อปี 2010 เป็นร้อยละ 60.3 ของจีดีพีในปลายปี 2014 และจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 64 ของจีดีพีในปลายปี 2015 นอกจากนี้ ปัญหาหนี้สาธารณะยังเกิดจากโครงการลงทุนที่ขาดประสิทธิภาพ การคอร์รัปชั่นและความฟุ่มเฟือยในการลงทุนด้านการก่อสร้าง อัตราการเก็บภาษีเข้างบประมาณต่อจีดีพียังคงลดลงและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจำเป็นต้องควบคุมหนี้สาธารณะอย่างเข้มงวดเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ ดร.เลดังแยวง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจแสดงความคิดเห็นว่า “ต้องทำมากกว่าเพื่อลดหนี้สาธารณะและลดการบริการการชำระหนี้ในเวลาที่จะถึง มาตรการที่ทรงประสิทธิภาพคือต้องประสบความสำเร็จในการปฏิบัติความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการปฏิรูปของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะต้องมีการประหยัดทั้งระบบเศรษฐกิจเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณและชลอการเพิ่มขึ้นของอัตราหนี้สาธารณะ”

ในเวลาที่จะถึง เวียดนามยังต้องใช้เงินกู้ทั้งภายในและต่างประเทศเพื่อลงทุนพัฒนาและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไป แต่ต้องค้ำประกันเป้าหมาย 3 ประการ ซึ่งประกอบด้วย ควบคุมหนี้สาธารณะให้อยู่ในระดับที่รัฐสภาอนุญาติ คือไม่เกินกว่าร้อยละ 65 ของจีดีพี จัดสรรค์ให้แก่การลงทุนที่มีประสิทธิภาพเท่านั้นโดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและเหมาะสมกับความสามารถในการชำระของงบประมาณแผ่นดิน ควบคู่กันนั้นต้องปรับปรุงให้หนี้สาธารณะอยู่ในภาวะโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า ต้องอยู่ในขอบเขตที่ได้รับการอนุญาติ มีระยะเวลาชำระนานกว่าและมีดอกเบี้ยต่ำกว่า ดังนั้นรัฐบาลเวียดนามจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการชี้นำยกระดับประสิทธิภาพการควบคุมและใช้ประโยชน์จากหนี้สาธารณะ ดังคำยืนยันของท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม “หนี้สาธารณะจะถูกใช้สำหรับการลงทุนพัฒนาและโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานสำคัญทางเศรษฐกิจและสังคมตามที่ได้วางแผนไว้แล้วเท่านั้น ดังนั้นต้องมีการตรวจสอบและอนุมัติอย่างเข้มงวดต่อโครงการที่ใช้เงินกู้ของรัฐบาล เงินกู้ที่รัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันและเป็นเงินกู้ของทางการปกครองท้องถิ่น เพิ่มการตรวจสอบและเฝ้าติดตามการใช้เงินทุนเพื่อค้ำประกันประสิทธิภาพในการลงทุน คุณภาพของกิจการและตามกฎหมาย ตลอดจนต้องเป็นฝ่ายรุกในการยับยั้งและแก้ไขการประพฤติมิชอบ การคอร์รัปชั่นและการฟุ่มเฟือยอย่างเด็ดขาด”

นอกจากนั้น ต้องควบคุมการกู้เงินครั้งใหม่และหนี้อื่นๆอย่างเข้มงวด เช่น หนี้ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน หนี้ประกันสังคม ค้ำประกันความปลอดภัยด้านการเงินของประเทศและเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค นายดิงเตี๊ยนหยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเผยว่า  “เวียดนามจะปฏิบัติมาตรการพัฒนาตลาดการเงินและตลาดพันธบัตรภายในประเทศต่อไปเพื่อค่อยๆแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะ เพิ่มเงินกู้ระยะกลางและระยะยาวเพื่อลดการระดมเงินระยะสั้นที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง ควบคุมเงินกู้ที่รัฐบาลค้ำประกัน หนี้ของทางการปกครองท้องถิ่น หนี้การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงและหน่วยงานส่วนกลางและท้องถิ่น เพิ่มการควบคุมหนี้และการตรวจสอบหนี้”

ควบคู่กันนั้น รัฐบาลเวียดนามจะตรวจสอบนโยบายสวัสดิการสังคมและโครงการเป้าหมายแห่งชาติเพื่อตัดลดหรือปฏิบัติพร้อมกับนโยบาย ร่างขั้นตอนการปฏิบัติและขอบเขตให้สอดคล้องกับนโยบายแต่ละกลุ่มเพื่อปฏิบัติในช่วงปี 2016-2020 ส่วนการจัดสรรค์เงินทุนให้แก่การลงทุนพัฒนา จะจัดสรรค์ในโครงการหลักที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ

หนี้สาธารณะเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญให้แก่การพัฒนาเศรษฐิจ ในสภาวการณ์ปัจจุบัน การแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะเป็นเรื่องยากของเวียดนามแต่ด้วยความพยายาม ความตั้งใจและการวางแนวทางอย่างชัดเจนของรัฐบาล เวียดนามจะค่อยๆบรรลุเป้าหมายการลดหนี้สาธารณะเพื่อมีส่วนร่วมรักษาความปลอดภัยให้แก่การเงินของประเทศและเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค./.