(VOVworld) – ปัญหาที่สำคัญของประเทศที่จะได้รับการตัดสินใจในการประชุมรัฐสภาครั้งที่๖ สมัยที่๑๓ที่กำลังจัดขึ้น ณ กรุงฮานอยคือ การอนุมัติร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไขเพื่อตอบสนองความต้องการของการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและความปรารถนาของประชาชนแต่ยังมีคำเรียกร้อง แถลงการณ์ และข้อเสนอแนะของคนบางกลุ่มที่เสนอให้ระงับการอนุมัติร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นอกจากนี้ บุคคลบางคนที่ขาดความหวังดีต่อเวียดนามและองค์กรระหว่างประเทศบางองค์กรที่ใช้ปัญหาสิทธิมนุษยชนมาเป็นโล่บังหน้าเพื่อเรียกร้องที่ไร้เหตุผลเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม
(VOVworld) – ปัญหาที่สำคัญของประเทศที่จะได้รับการตัดสินใจในการประชุมรัฐสภาครั้งที่๖ สมัยที่๑๓ที่กำลังจัดขึ้น ณ กรุงฮานอยคือ การอนุมัติร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไขเพื่อตอบสนองความต้องการของการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและความปรารถนาของประชาชนแต่ยังมีคำเรียกร้อง แถลงการณ์ และข้อเสนอแนะของคนบางกลุ่มที่เสนอให้ระงับการอนุมัติร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นอกจากนี้ บุคคลบางคนที่ขาดความหวังดีต่อเวียดนามและองค์กรระหว่างประเทศบางองค์กรที่ใช้ปัญหาสิทธิมนุษยชนมาเป็นโล่บังหน้าเพื่อเรียกร้องที่ไร้เหตุผลเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม
|
รัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ ของเวียดนาม(Photo:dongnai ) |
คารมซ้ำซาก
โดยกลุ่มคนที่มีชื่อว่า “แถลงการณ์สังคมพลเรือน”ได้เรียกร้องให้รัฐสภาเวียดนามเลื่อนการอนุมัติร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว และให้ขยายเวลาอภิปรายเพื่อศึกษาวิจัยและ เพิ่มเติมตามเจตนารมณ์ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆของบรรดาบุคคลที่เรียกตนเองว่านักประชาธิปไตยหัวก้าวหน้า
ส่วนองค์การHuman Right Watch (HRW) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานรัฐสภาเวียดนามโดยเร่งรัดให้เวียดนามค้ำประกันมาตรฐานสากลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในร่างรัฐธรรมฉบับแก้ไขดังกล่าว HRWใช้คารมเก่าๆของอิทธิพลที่เป็นอริและขาดความหวังดีต่อเวียดนามเพื่อตำหนิติติงข้อแก้ไขต่างๆของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้และถือว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขาดความรัดกุมและจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆอีกมากมาย
จากข้อสังเกตที่ผิดพลาดเช่นนี้ HRWได้เสนออันที่เรียกว่า“ข้อเสนอแนะที่สำคัญ”ต่อรัฐสภาเวียดนาม โดยให้ตนเองมีสิทธิ์ขอร้องรัฐสภาของประเทศที่มีเอกราชและอธิปไตยต้องปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของพวกเขา
การแก้ไขรัฐธรรมนูญสะท้อนความมุ่งมั่นและความปรารถนาของประชาชน
มาตราที่๖ของรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ของเวียดนามระบุว่า “ประชาชนใช้อำนาจรัฐผ่านรัฐสภา และสภาประชาชนซึ่งเป็นสำนักงานตัวแทนให้แก่ความมุ่งมั่นและความปรารถนาของประชาชนโดยมาจากการเลือกตั้งและมีความรับผิดชอบต่อประชาชน” ดังนั้น ขั้นตอนและระเบียบการร่างรัฐธรรมนูญที่ระบุในรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒คือ “รัฐสภาเป็นองค์กรเดียวที่มีสิทธิร่างรัฐธรรมนูญและร่างกฎหมาย” มาตรา๘๔ยังระบุว่า “รัฐสภามีสิทธิแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น”
ในทางเป็นจริง การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ของเวียดนามกำลังได้รับการปฏิบัติตามขั้นตอนนี้ ก่อนที่จะยื่นต่อรัฐสภาพิจารณาอนุมัตินั้น ได้มีการทำประชาพิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไขซึ่งนับตั้งแต่วันที่๑มกราคมจนถึงวันที่๓๐กันยายนที่ผ่านมามีความคิดเห็นกว่า๒๖ล้านข้อจากสำนักงาน องค์กร บุคคลและพี่น้องประชาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พร้อมกับการประชุม การสัมมนา การเสวนา๒๘,๑๔๙ครั้ง ความคิดเห็นของประชาชนได้รับการรวบรวมในรายงานที่หนานับร้อยหน้ากระดาษที่ส่งถึงบรรดาผู้แทนรัฐสภาในการประชุมรัฐสภาครั้งต่างๆ
ดังนั้น อาจยืนยันได้ว่า ก่อนที่จะยื่นเสนอต่อการประชุมรัฐสภาครั้งที่๖ เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความปรารถนาของประชาชนทุกหมู่เหล่าและทั้งประชาชาติ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงคุณลักษณะประชาธิปไตยและความก้าวหน้าของรัฐและระบอบในระยะเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมนิยม กำหนดอย่างชัดเจน ถูกต้อง และครบถ้วนเกี่ยวกับระบอบการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิทธิมนุษยชน สิทธิและภาระหน้าที่ขั้นพื้นฐานของพลเมืองและกลไกบริหารของรัฐในเวียดนาม
ประชาชนเป็นคนตัดสินใจรัฐธรรมนูญเท่านั้น
อันที่จริง ในการร่างรัฐธรรมนูญไม่ว่าในประเทศใด การเลือกเฟ้นเป็นของประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไขที่ประชาชนเวียดนามกำลังร่างผ่านสำนักงานตัวแทนสูงสุดคือรัฐสภานั้นไม่เพียงแต่เป็นดอกผลจากการปฏิวัติเท่านั้นหากยังวางแนวทาง และหน้าที่ให้แก่ประชาชาติในระยะต่อไปอีกด้วย
ในโลก ไม่มีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใดที่อาจถือว่าเป็นต้นฉบับให้แก่ทุกรัฐและ ทุกประชาชาติ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นพื้นฐานด้านแนวความคิด การเมืองและกฎหมายให้แก่การคงอยู่และพัฒนาของรัฐในสังคมระบอบหนึ่ง การร่างรัฐธรรมนูญเป็นกิจการภายในของแต่ละประเทศ เป็นสิทธิสูงสุดของประชาชนของประเทศนั้นๆ และไม่มีวันที่จะนำรัฐธรรมนูญของประเทศนี้มาประยุกต์ใช้ให้แก่รัฐธรรมนูญของประเทศอื่น เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ร่างรัฐธรรมนูญปี๑๙๙๒ฉบับแก้ไขสะท้อนความมุ่งมั่นและความปรารถนาของประชาชนเวียดนาม ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครและไม่มีองค์กรใดให้ตนมีสิทธิฉกฉวยปัญหาประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนเพื่อบิดเบือนและทำลายกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของเวียดนาม./.
Thu Hoa-VOV5