รายงานของรัฐบาลต่อรัฐสภาได้ระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจ – สังคมในช่วงต้นปี 2015 มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีและประสบผลในเกือบทุกด้าน ดัชนีราคาผู้บริโภคใน 4 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.04 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ได้รับการปฏิบัติเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 บรรลุ 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6.03 สูงที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา มีการลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอ็ฟทีเอกับสาธารณรัฐเกาหลีและเตรียมลงนามข้อตกลงเอ็ฟทีเอกับสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย – ยุโรปและผลักดันการเจรจาเอ็ฟทีเอกับหุ้นส่วนใหญ่ๆต่อไป

การปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน แก้ไขอุปสรรคให้แก่การผลิตและประกอบธุรกิจและผลักดันการขยายตัวเป็นหน้าที่ที่รัฐสภาได้มอบหมายให้รัฐบาลซึ่งเป็นด้านที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการชี้นำและบริหารตั้งแต่บัดนี้จนถึงปลายปี รัฐบาลจะต้องเป็นฝ่ายรุกในการบริหารอย่างคล่องตัว มีประสิทธิภาพและมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างนโยบายการเงิน นโยบายงบประมาณประจำปีและนโยบายอื่นๆเพื่อทำให้เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพและความสมดุลต่างๆของเศรษฐกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายตัวที่ได้วางไว้ ปฏิบัติมาตรการขยายตลาดไปพร้อมๆกับการผลักดันการส่งออกและแก้ไขปัญหาหนี้เสีย พัฒนาตลาดภายในประเทศและปฏิบัติการรณรงค์ “ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม”อย่างมีประสิทธิภาพ นายหว่างหงอกหยุง สมาชิกรัฐสภาจังหวัดเซินลาเผยว่า “ผมมีความปรารถนาว่า ในเวลาข้างหน้า รัฐบาลจะมีมาตรการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย รัฐบาลควรลงทุนในด้านการเกษตรมากขึ้นเพื่อพัฒนาชนบทและการเกษตร โดยเฉพาะการลงทุนในเขตที่ห่างไกลความเจริญและเขตที่ชนกลุ่มน้อยอาศัย”

การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวยังคงเป็นมาตรการแก้ไขที่สำคัญ โดยในรายงานที่เสนอต่อรัฐสภา นายเหงียนซวนฟุ๊ก รองนายกรัฐมนตรีได้ระบุอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลจะทำการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัว ยกระดับคุณภาพชีวิตทางวัตถุและจิตใจของประชาชน ทำการปฏิรูประบบบริหารราชการ ป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป นายเหงียนซวนฟุ๊กกล่าวว่า “รัฐบาลจะปฏิบัติโครงการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจและโครงการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานและด้านต่างๆอย่างพร้อมเพรียงให้มีประสิทธิภาพต่อไป พยายามเสร็จสิ้นแผนการแปรสถานประกอบการภาครัฐ 289 แห่งเป็นบริษัทหุ้นส่วน ทำการตรวจสอบและเพิ่มรายชื่อสถานประกอบการภาครัฐที่ต้องแปรเป็นบริษัทหุ้นส่วนต่อไป สนับสนุนการพัฒนาสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม การพัฒนาเศรษฐกิจของครอบครัวอย่างรวดเร็ว ผลักดันการก่อตั้งสถานประกอบการขนาดใหญ่ เครื่องหมายการค้าที่เข้มแข็งและขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งภายในประเทศและภูมิภาค”

ส่วนบรรดาสมาชิกรัฐสภาได้มีความเห็นพ้องนโยบายของรัฐบาล นายเหงียนดึ๊กเกียน รองหัวหน้าคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งรัฐสภาเผยว่า “การเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัวและการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจเป็นก้าวเดินที่สำคัญเพราะเกี่ยวพันถึงปีต่อๆไป ผมคิดว่า มาตรการแก้ไขที่สำคัญที่สุดในรอบ 3 ปีที่จะถึงคือ รัฐบาลต้องยืนหยัดปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัวพร้อมกับการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งก่อนอื่นต้องปรับปรุงโครงสร้างของสถานประกอบการภาครัฐและโครงสร้างของการลงทุนภาครัฐโดยมีกลไก นโยบายและเอกสารทางนิตินัยรองรับ”

ในการปฏิบัติมติของรัฐสภา รัฐบาลได้ประกาศและชี้นำการปฏิบัติมติที่ 01/NQ-CPเกี่ยวกับหน้าที่และมาตรการแก้ไขหลักเพื่อปฏิบัติแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมในปี 2015 ซึ่งบรรลุอัตราการขยายตัวของจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ 6.2 มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และสร้างงานให้แก่แรงงานประมาณ 1.6 ล้านคน เป็นต้น

ในสภาวการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจเวียดนามได้พ้นวิกฤตและค่อยๆฟื้นตัว ข้อเสนอต่างๆของสมาชิกรัฐสภาในการประชุมครั้งที่ 9 สมัยที่ 13 ได้มีส่วนร่วมสำคัญเพื่อช่วยให้รัฐสภาประกาศมติการปฏิบัติหน้าที่ทางเศรษฐกิจและสังคมปี 2015 ให้ประสบความสำเร็จและเป็นพื้นฐานให้แก่แผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมในระยะ 5 ปีต่อไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือความปรารถนาของประชาชนทั่วประเทศ./.