ด้านหน้าสำนักงานของคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม (Photo: TTXVN)

"บริษัทเปิดทำกิจกรรม ฉันเริ่มกลับไปทำงาน แล้วก็ได้รับเงินเดือนตามปรกติ ส่วนเด็กๆได้ไปโรงเรียน"

 "ดิฉันรู้สึกจิตใจสงบสบายแล้ว ขอให้โรคระบาดผ่านไปโดยเร็ว นครโฮจิมินห์จะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม"

"วสันต์ปีใหม่มาแล้ว ขอให้ครอบครัวปลอดภัย ทุกคนแข็งแรงและโชคดีในปีใหม่"

ความหวังความปรารถนาเหล่านี้ของชาวนครโฮจิมินห์ก็เป็นความหวังของประชาชนเวียดนามทุกคนเมื่อประเทศย่างเข้าสู่วสันต์ฤดูปีขาล 2022 ซึ่งแต่ละคนจะมีความใฝ่ฝันเป็นของตัวเองเพื่อตั้งใจสร้างชีวิตใหม่และอยากเห็นนครฟื้นฟูและพัฒนาเข้มแข็งต่อไป นาย Nguyễn Hoàng Anh หนึ่งในสิบบุคคลที่ได้รับรางวัลจิตอาสาแห่งชาติเผยว่า   

 “ช่วงเวลาที่ผ่านมาได้ให้บทเรียนเกี่ยวกับเวลา ครอบครัว และความสามัคคี หากเราสามัคคีกัน เราก็สามารถเอาชนะความยากลำบากได้ ในปี 2022 ผมหวังว่าจะสามารถเผยแพร่กิจกรรมการกุศลได้มากขึ้นเพื่อให้เยาวชนได้ร่วมมือทำในสิ่งที่มีความหมายมากขึ้นเพื่อคนรอบข้าง หวังว่านครโฮจิมินห์จะสามารถปกป้องพื้นที่สีเขียวและพัฒนาต่อไปเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ผมเชื่ออย่างแน่นอนว่านครของเราจะพัฒนาอย่างเข้มแข็งเพราะการบริหารของรัฐบาลและความเห็นพ้องต้องกันของคนโฮจิมินห์”

คุณ Phạm Uyển Nhi สมาชิกของหน่วยจิตอาสา SOS Hướng Nam นครโฮจิมินห์ สูญเสียสมาชิกในครอบครัวถึง 8 คนในช่วงที่การระบาดของโควิดรุนแรงมาก และเธอก็พยายามทำใจฝ่าฟันความปวดร้าวเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ลำบากกว่า

“เราพูดกันเสมอว่าจะต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและเต็มใจ เราอยากส่งกำลังใจให้คนรอบตัวและจะช่วยเหลือกันในความสามารถของเรา เมื่อคิดถึงอนาคตเราก็เห็นนครโฮจิมินห์กำลังก้าวเข้าสู่ระยะใหม่ที่ชีวิตสงบสุข เศรษฐกิจสังคมฟื้นฟูพัฒนา”

บรรยากาศของวสันต์พิเศษกำลังกระจายไปตามถนนทุกสายในนครโฮจิมินห์ ทั้งนครเริ่มเปลี่ยนโฉมหน้าต้อนรับฤดูใบไม้ผลิปีขาลด้วยความมุ่งหวังใหม่ เมื่อทางการนครโฮจิมินห์ได้ปลูกเร้าจิตใจแห่งความมุ่งมั่นที่จะสร้างก้าวพัฒนาที่คล่องตัว การปรับตัวอย่างปลอดภัย และคิดหาวิธีที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูการเติบโตของนครภายหลังผ่านพ้นภาวะการเป็นจุดร้อนการระบาดของโควิดของทั้งประเทศ ซึ่งเป็น 'ช่วงเวลาประวัติศาสตร์' ที่ไม่อาจลืมของชาวนครโฮจิมินห์  แต่ ณ วันนี้ ทุกคนได้คาดหวังในอนาคตที่สดใสและชีวิตสงบสุขเพื่อที่จะมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาประเทศต่อไป

ความคิดเห็นและความรู้สึกของชาวนครโฮจิมินห์ในช่วงต้นปีใหม่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้แสดงให้เห็นถึงพลังชีวิตที่เข้มแข็งหลังช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอุปสรรค

พลังชีวิตที่เข้มแข็ง จิตใจแห่งความเชื่อมั่นและน้ำใจอันอบอุ่นของประชาชนเวียดนาม โดยเฉพาะชาวนครโฮจิมินห์ในช่วงวสันต์ฤดูนี้ได้รับการขยายผลในชมรมชาวต่างชาติที่กำลังอาศัย ทำงานและศึกษาในเวียดนาม

นาย ต๊วนจอน

นาย Jeon Hyong Jun หรือมีอีกชื่อคือ ต๊วนจอน   หนุ่มชาวสาธารณรัฐเกาหลีที่มีใจรักเวียดนามเป็นพิเศษ นาย ต๊วนจอนได้กลับเวียดนามเพื่อศึกษาในระดับปริญญาตรีคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสถาบันการทูตเมื่อปลายปี 2021 ในช่วงตรุษเต๊ตปีขาล 2022 นี้ นาย ต๊วนจอน  จะได้ต้อนรับตรุษเต๊ตในภาคเหนือเวียดนามเป็นครั้งแรก ซึ่งบรรยากาศการเตรียมความพร้อมให้แก่ตรุษเต๊ตของชาวฮานอยทำให้ ต๊วนจอน  รู้สึกแปลกใจมาก  

“ก่อนช่วงตรุษเต๊ต  ชาวฮานอยยุ่งมากเพื่อเตรียมพร้อมให้แก่เทศกาลตรุษเต๊ต  ทุกคนต่างซื้อดอกท้อและตกแต่งบ้านเรือนเพื่อฉลองปีใหม่ประเพณีปีขาล ผมเห็นว่า ชาวเวียดนามให้ความสนใจต่อการเตรียมความพร้อมต้อนรับตรุษเต๊ตเป็นอย่างมาก” 

จากการที่ถือเวียดนามเป็นบ้านเกิดแห่งที่สองของตนและมีความรักวัฒนธรรมและชอบค้นคว้า นาย ต๊วนจอน   ในชุดอ๊าวหย่ายสีส้มได้สัมผัสกับบรรยากาศการฉลองตรุษเต๊ตตามประเพณีของชาวเวียดนาม

“ผมซื้อชุดอ๊าวหย่ายพื้นเมืองของเวียดนามเพื่อใส่ในช่วงตรุษเต๊ต ผมจะไปถ่ายรูปที่ทะเลสาบคืนดาบและต้อนรับปีใหม่กับเพื่อนมิตรชาวเวียดนาม ผมใส่ชุดอ๊าวหย่ายเพื่อให้รู้สึกว่า ผมเป็นคนเวียดนาม ผมชื่นชอบเกียรติประวัติประเพณีของเวียดนามและสำหรับชาวต่างชาติที่มีใจรักเวียดนาม การใส่ชุดอ๊าวหย่ายมีความหมายมาก ส่วนการเดินรอบทะเลสาบคืนดาบก็น่าสนใจมาก”

ก็หมือนกับนาย ต๊วนจอน   ปีนี้ คุณ ลิ้นบ๊ายเลี๊ยน นักธุรกิจชาวจีนได้มีโอกาสต้อนรับตรุษเต๊ตประเพณีในเวียดนามเป็นครั้งแรก แม้จะต้อนรับตรุษเต๊ตคนเดียวในเวียดนามแต่คุณ ลิ้นบ๊ายเลี๊ยน ก็รู้สึกอบอุ่นใจมากเนื่องจากได้รับความสนใจจากเพื่อนๆชาวเวียดนาม

“ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผมเดินทางไปยังทะเลสาบคืนดาบ ส่วนในวันตรุษเต๊ตที่ 1 ผมจะไปทำบุญที่วัด วัดในเวียดนาม โดยเฉพาะในกรุงฮานอยมีความคล้ายคลึงกับวัดที่ประเทศของผม ซึ่งทำให้ผมคลายความคิดถึงบ้านเกิด ผมโชคดีมากที่เพื่อนๆชาวเวียดนามให้ความสนใจผมมาก พวกเขาเชิญผมร่วมฉลองตรุษเต๊ตและทานขนมข้าวต้มมัดใหญ่  ผมอยากขอบคุณเพื่อนๆชาวเวียดนามที่ได้สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ผมและร่วมกับผมฉลองตรุษเต๊ต”

จากการได้สัมผัสน้ำใจอันอบอุ่นของชาวเวียดนาม จิตใจแห่งความเชื่อมั่นหลังช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอุปสรรคจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  ชาวต่างชาติมีความประสงค์และเชื่อมั่นว่า ในปีใหม่นี้ เวียดนามจะฟื้นฟูและพัฒนาอย่างเข้มแข็ง 

“ผมขออวยพรประชาชนเวียดนามให้ปีใหม่นี้ประสบความสำเร็จและโชคดี  ผมเชื่อมั่นว่า เมื่อเวียดนามพัฒนา กัมพูชาก็จะพัฒนาเช่นกันเพราะสองประเทศเราเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สามัคคี ร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์”

“ ผมขออวยพรคให้ชาวเวียดนามประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ บรรลุเป้าหมายประชาชนมั่งคั่ง  ประเทศเจริญเข้มแข็ง  มีประชาธิปไตย ยุติธรรมและอารยธรรม”

  “ เวียดนามกำลังควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เป็นอย่างดี ชาวเวียดนามยกระดับจิตสำนึกในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาด ซึ่งแน่นอนว่า เวียดนามสามารถขจัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้และเวียดนามจะพัฒนาอย่างรวดเร็วกว่าก่อน” 

นี่คือความคิดเห็นของชาวต่างชาติที่กำลังอาศัย ศึกษาและทำงานในเวียดนามเกี่ยวกับบรรยากาศของตรุษเต๊ตประเพณีในเวียดนาม รวมทั้งความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการพัฒนาของประเทศเวียดนามในปี 2022

เดินพร้อมกับประชาชนทั่วประเทศ ความกล้าคิดกล้าทำของคนรุ่นใหม่เวียดนามในต่างประเทศก็สร้างแรงกระตุ้นให้แก่การพัฒนาประเทศในฤดูใบไม้ผลิใหม่นี้ ต่อไปนี้ขอเชิญท่านผู้ฟังสัมผัสกับบรรยากาศในโครงการ Innocity ซึ่งเป็นโครงการความคิดริเริ่มของคนรุ่นใหม่เวียดนามในวันแรกของปีใหม่ประเพณี 

ปี 2021 เป็นปีแรกที่สมาคมนักศึกษาและเยาวชนเวียดนามในยุโรปเปิดโครงการ “ความคิดริเริ่มของคนรุ่นใหม่เวียดนาม” หรือ InnoCity มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมคนเวียดนามรุ่นใหม่ในต่างประเทศ ที่มีทักษะความสามารถและทำเพื่อประเทศเวียดนาม ซึ่งกิจกรรมนี้ประสบผลเกินกว่าความคาดหวังเนื่องจากมีการส่งโครงการเข้าร่วมเกือบ 150 โครงการจากผู้จัดทำโครงการ ผู้เชี่ยวชาญและปัญญาชนเวียดนามกว่า 400 คนทั่วโลก ในพิธีมอบรางวัล Innovation Rising Star Awards ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา นาย โด๋ซวนห่า ตัวแทนของกลุ่มนักศึกษาเวียดนามในสาธารณรัฐเกาหลีที่ปฏิบัติโครงการ HHT Future ในด้านตัวเมืองอัฉจริยะได้กล่าวว่า

“โครงการนี้มีความหมายสำหรับคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก หวังว่า ผลการวิจัยของเราจะได้รับการรับรองในเร็วๆนี้และในปีต่อๆไป โครงการฯจะได้รับการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดมากขึ้น”

ส่วนนาย หวูถวายซาน ประธานของ InnoCity และนายกสมาคมนักศึกษาเวียดนามในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้เผยว่า InnoCity กำลังกลายเป็นสะพานเชื่อมแหล่งพลังและปัจจัยต่างๆในระบบนิเวศช่วยให้ความคิดริเริ่มของคนเวียดนามได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางในทั่วโลก ดังนั้น InnoCity กำลังขยายผลอย่างเข้มแข็งในชุมชนคนรุ่นใหม่เวียดนามทั่วโลก

“เรามีความประสงค์ที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เวียดนามที่มีทักษะความสามารถในยุโรปมีที่มั่นเพื่อพัฒนาและทำเพื่อประเทศเวียดนาม หลังการปฏิบัติมาระยะหนึ่ง โครงการฯ ได้รับการขยายของเขตไม่เพียงแต่ในยุโรปเท่านั้น หากยังในประเทศเวียดนามและประเทศอื่นๆอีกด้วย การวิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของเยาวชนเวียดนามทั้งภายในและต่างประเทศมีความคึกคักเป็นอย่างมากทุกคนต่างมีความปรารถนาที่จะนำผลงานวิจัยนั้นมาทำเพื่อพัฒนาประเทศเวียดนาม”

โครงการ InnoCity นับวันกลายเป็นสะพานเชื่อมปัญญาชน เชื่อมโยงแหล่งพลัง ช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มและนวัตกรรมต่างๆของคนเวียดนามรุ่นใหม่ในทั่วโลก ผลักดันให้พวกเขาทำอย่างสุดความสามารถเพื่อประเทศเวียดนามที่พัฒนาและเจริญรุ่งเรือง

ศ.ดร. หวูมิงยาง

เพื่อสามารถมองเห็นภาพรวมเกี่ยวกับฤดูใบไม้ผลิใหม่ของประเทศ ขอเแนะนำสาระสำคัญของบทสัมภาษณ์ศ.ดร. หวูมิงยาง ซึ่งในการตอบคำถามเกี่ยวกับความปรารถนาและความฝันของคนเวียดนามในฤดูใหม่ปีขาล 2022 ศ.ดร. หวูมิงยางกล่าวว่า

“ผมคิดว่า นั่นคือความปรารถนาของประชาชาติ โดยทั้งผู้นำสูงสุดและประชาชนคนธรรมดาต่างมีความปรารถนาเข้าร่วมภารกิจพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง เราสามารถเห็นความปรารถนานั้นได้ในปี 2022 นี้ พวกเราได้ใช้พลังทุกแหล่งและโอกาสต่างๆเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน จิตใจเวียดนาม คนเวียดนามได้รับการปลูกฝังและได้รับการยกย่อง ซึ่งจะเป็นแหล่งพลังที่เข้มแข็งให้แก่ปีใหม่ 2022 เราย่างเข้าสู่ระยะใหม่ด้วยความเชื่อมั่นในตนเองเพื่อมีทัศนคติใหม่ในภารกิจการพัฒนาประเทศ”

ควบคู่กันนั้น ศ.ดร. หวูมิงยางได้แสดงความหวังต่อผลสำเร็จของเวียดนามในอนาคตว่า

“ปี 2022 จะเป็นปีที่เวียดนามมีการฟื้นฟูในทุกด้านอย่างรวดเร็ว โดยต้องเตรียมอย่างรอบคอบทั้งในด้านบุคลากร แหล่งพลังและมาตรการเพื่อนำประเทศพัฒนาอย่างรวดเร็วมากขึ้น แปรความท้าทายให้เป็นโอกาส นั่นคือโอกาสในปี 2022 ที่เราอาจใช้เพื่อสร้างก้าวกระโดดต่างๆ บนเวทีโลก เวียดนามได้มีสถานะที่สูงขึ้น โดยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกด้วยคะแนนสูงทั้งสองวาระ ขณะนี้ ภาพลักษณ์ของเวียดนามก็สูงขึ้นและจากสถานะใหม่นี้ พลังที่เข้มแข็งของเวียดนามก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า นั่นคือสิ่งพิเศษในปี 2022 คือเวียดนามมีสถานะและพลังที่เข้มแข็งใหม่ที่สูงกว่าปีก่อนๆ ดังนั้น สามารถตั้งความหวังว่า เวียดนามจะสร้างก้าวกระโดดต่างๆได้ภายในปี 2022”. 

ชาวเวียดนามได้ย่างเข้าสู่วสันต์ฤดูใหม่หลังจากที่ได้ฟันฝ่าอุปสรรคและความลำบากต่างๆในปี 2021 ถ้าหากไม่มองถึงเรื่องอุปสรรค ชาวเวียดนามทุกคนทั้งที่อาศัยอยู่ในประเทศและต่างประเทศต่างมีความเชื่อมั่น ความไว้วางใจและความปรารถนาที่จะทำเพื่อประเทศเพื่อสร้างสรรค์วสันต์ฤดูพิเศษในกระบวนการพัฒนาประเทศ.