กองกำลังป้องกันชายแดนจับกุมคนร้ายค้ามนุษย์

รายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้แสดงความเห็นว่า “รัฐบาลเวียดนามยืนยันจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าปี 2016 และทางการไม่ดำเนินที่กำลังอยู่ในกระบวนการ เนื่องจากขาดเอกสารแนะนำการบังคับใช้ข้อกำหนดที่ได้รับการปรับปรุงในประมวลกฎหมายอาญา” รายงานระบุว่า ความพยายามต่อต้านการค้ามนุษย์ยังไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากขาดกลไกการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆและ“เจ้าหน้าที่ระดับตำบลและหมู่บ้านมีส่วนรู้เห็นอาชญากรรมการค้ามนุษย์”

ข้อกล่าวหาที่ขาดภาวะวิสัยและบิดเบือนความจริง

รายงานสถิติของสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC ระบุว่า  ภูมิภาคต่างๆในแอฟริกา ตะวันออกกลางและเอเชียเป็นแหล่งค้ามนุษย์สำคัญ แต่เมื่อเร็วๆนี้ก็เกิดกระแสการอพยพจากอเมริกากลางผ่านเม็กซิโกเพื่อไปยังสหรัฐ ซึ่งหมายความว่า ทุกประเทศในโลก รวมทั้งสหรัฐก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการค้ามนุษย์และการอพยพอย่างผิดกฎหมาย ส่วนในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนเมื่อวันที่ 24-27 กันยายนปี 2018 และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนครั้งที่ 12 เกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ข้ามชาติในระหว่างวันที่ 29 ตุลาคมถึงวันที่ 2 พฤศจิกายนปี 2018 ได้ประเมินว่า สถานการณ์การค้ามนุษย์และการอพยพอย่างผิดกฎหมายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เกิดขึ้นอย่างซับซ้อน นี่หมายความว่า เวียดนาม สหรัฐและประเทศอื่นๆในภูมิภาคและโลกกำลังต้องเผชิญกับปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นปัญหาระดับโลกที่มีความซับซ้อน

รายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ระบุว่า ปี 2018 ที่เวียดนามได้เกิดการค้ามนุษย์ 350 กรณี จับกุมผู้ก่อเหตุได้กว่า 400 คน ซึ่งมากกว่าปี 2016 ที่มีกรณีการค้ามนุษย์ 234 กรณีและมีผู้ก่อเหตุที่ถูกจับกุม 308 คน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ตรงกับตัวเลขของทางฝ่ายเวียดนามที่รับผิดชอบโดยตรงปัญหานี้ โดยปี 2018 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเวียดนามได้สกัดกั้นการค้ามนุษย์ 211 กรณี จับตัวคนร้ายได้ 276 คนและช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้าย 386 คน ลดลงเกือบร้อยละ 44 ด้านจำนวนกรณีเมื่อเทียบกับปี 2017 เมื่อปี 2018 สำนักงานที่เกี่ยวข้องเวียดนามได้ทำการสืบสวนและช่วยชีวิตผู้เคราะห์ร้ายจากการค้ามนุษย์และการอพยพ เกือบ 1 พัน 5 ร้อยคน โดยเป็นผู้เคราะห์ร้ายจากการค้ามนุษย์ 490 คน ซึ่งทางเวียดนามได้ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยา ตรวจสุขภาพและช่วยเหลือด้านกฎหมาย ส่วนสำหรับใน 6 เดือนแรกของปี 2019 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามสามารถสกัดกั้นการค้ามนุษย์ได้ 89 กรณี จับคนร้ายได้ 142 คนและช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้าย 169 คน ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า รายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐไม่สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่เป็นจริงเกี่ยวกับการต่อต้านการค้ามนุษย์ในเวียดนาม

กิจกรรมประชาสัมพันธ์ปวงชนป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ในโรงเรียน (camautv.vn)

พยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์

ในทางเป็นจริง การป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากพรรคและรัฐเวียดนาม ด้วยเป้าหมายระดมพลังทุกแห่ง ส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของระบบการเมืองและประชาชนในการป้องกัน ขัดขวางและขจัดอาชญากรรมการค้ามนุษย์ในทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมปี 2016 นายกรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันที่ 30 กรกฎาคมของทุกปีเป็น “วันปวงชนป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์” และประกาศโครงการปฏิบัติงานป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ในช่วงปี 2016-2020 มุ่งสู่เป้าหมายร่วมคือลดปัญหาการค้ามนุษย์ อาชญากรรมการค้ามนุษย์ การปฏิบัติงานในการรับ ปกป้องและให้การช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายได้กลับบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ เวียดนามได้วิจัย ปรับปรุง พัฒนานโยบายและกฎหมายให้มีความสอดคล้องกันและสามารถบังคับใช้ได้จริง สร้างกรอบทางนิตินัยที่สะดวกมากขึ้นให้แก่งานด้านการป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมการค้ามนุษย์ รวมถึงการรับและช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้าย

เวียดนามยังเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบในการปฏิบัติสนธิสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการต่อต้านอาชญากรรมการค้ามนุษย์ กิจกรรมเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์โดยเวียดนามเข้าร่วมสนธิสัญญาเกี่ยวกับการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนปี 2012 พิธีสารเกี่ยวกับการป้องกัน ปราบปรามและการลงโทษการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็กเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมปี 2011 สนธิสัญญาเลขที่ 29 ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศเกี่ยวกับการต่อต้านการบังคับใช้แรงงาน ให้สัตยาบันเข้าร่วม อนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็กหรือ Actip เวียดนามยังปฏิบัติโครงการจัดตั้งโทรศัพท์สายด่วนเกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ให้ประสบความสำเร็จภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่นหรือ JICA ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมเพื่อผลักดันเครือข่ายความร่วมมือ การประสานงานเกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ในเวียดนาม

ต้องตระหนักได้ดีถึงสถานการณ์ที่เป็นจริงคือ ไม่เพียงแต่ในเวียดนามเท่านั้น หากในหลายพื้นที่ของโลก กิจกรรมการค้ามนุษย์ยังคงเป็นปัญหาที่ซับซ้อน แม้นี่จะเป็นงานที่เต็มแด้วยอุปสรรคและข้อจำกัด แต่ด้วยความมุ่งมั่นทางการเมืองและประสบการณ์ที่มี เวียดนามจะระดมส่วนร่วมของระบบการเมืองและประชาชนเพื่อร่วมกันป้องกัน ต่อต้านและมุ่งสู่การขจัดอาชญากรรมค้ามนุษย์ ผลงานที่โดเด่นของเวียดนามในการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ และแสดงให้เห็นว่า การประเมินของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐว่า “ปัญหาการค้ามนุษย์ในเวียดนามยังคงรุนแรง” เป็นกี่ประเมินไม่ถูกต้องและไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง.