วิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ก้าวกระโดดของเวียดนามเกี่ยวกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0

(VOVWORLD) - ฟอรั่มระดับสูงภายใต้หัวข้อ วิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์พัฒนาก้าวกระโดดของเวียดนามในสภาวการณ์การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 กำลังมีขึ้นในขณะที่การปฏิบัติอุตสาหกรรม 4.0 กำลังมีขึ้นในทั่วโลกและส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจเวียดนาม ดังนั้นการจัดฟอรั่มครั้งนี้ก็เพื่อสนับสนุนแผนการ แนวทางปฏิบัติและยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับอุตสาหกรรม 4.0 ของเวียดนาม
วิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ก้าวกระโดดของเวียดนามเกี่ยวกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 - ảnh 1 นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กกับผู้นแทนที่เข้าร่วมฟอรั่ม

 

ในฟอรั่มนี้เมื่อปีที่แล้ว การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เป็นการเสนอแนวทางในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ถึงฟอรั่มในปีนี้ เวียดนามได้ตั้งเป้าหมายจัดทำนโยบายที่เป็นรูปธรรมให้แก่หน่วยงานและสาขาอาชีพแต่ละหน่วยในการปฏิวัติครั้งนี้ ดังนั้นนอกจากฟอรั่มระดับสูง ยังมีการจัดการสัมมนาเชิงวิชาการ 5 ครั้งเพื่อวางมาตรการแก้ไขปัญหาสำคัญๆของการปฏิวัติ 4.0 ซึ่งประกอบด้วย แนวโน้มใหญ่ของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0: การรับรู้ผลกระทบและข้อเสนอต่อเวียดนาม ตัวเมืองอัจฉริยะ ส่งเสริมการผลิตอัจฉริยะ การเกษตรอัจฉริยะ ก้าวพัฒนาใหม่ในหน่วยงานการเงิน – ธนาคาร

การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ปฏิบัติความปรารถนาเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติ

จากการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและรวดเร็วของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ในทั่วโลก รัฐบาลเวียดนามให้ความสนใจเป็นพิเศษถึงการจัดทำกลไกและนโยบายพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ การเปลี่ยนแปลงใหม่และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้โอกาสการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อปฏิบัติความคาดหวังเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติ ก่อนฟอรั่มระดับสูงครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงียนซวนฟุ๊กได้เผยว่า ไม่เพียงแต่ภาครัฐเท่านั้น หากสถานประกอบการและประชาชนก็ต้องตระหนักได้ดีขึ้นเพื่อประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในด้านต่างๆของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ตั้งแต่การสร้างสรรค์รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงตัวเมืองอัจฉริยะ การฝึกอบรมแหล่งบุคลากรให้ดีขึ้นเพื่อสนับสนุนการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0            “ประยุกต์ใช้ รับมือและยับยั้งผลกระทบเพื่อพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นและสร้างโอกาสลดช่องว่างการพัฒนากับประเทศที่ทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือปัญหาที่เวียดนามกำลังพยายามแสวงหามาตรการแก้ไข ขอให้ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการและสถานประกอบการสนับสนุนเวียดนามต่อไปในการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ขณะนี้ เวียดนามต้องดึงดูดผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์และสถานประกอบการทั้งภายในและต่างประเทศให้เดินพร้อมกับเวียดนามในการปฏิวัติครั้งนี้”

เน้นในด้านสำคัญๆของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0

นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กกำชับว่า ทัศนะของรัฐบาลคือเน้นการชี้นำการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลและอุตสาหกรรมอัจฉริยะ โดยถือเป็นหน้าที่หลักของการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวตามแนวทางเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน จากทัศนะดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้กำหนดเนื้อหาสำคัญๆในการปฏิบัติการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งประกอบด้วย            “เน้นปฏิรูประเบียบราชการ กลไก นโยบายและกฎหมายให้มีความสมบูรณ์เพื่อเอื้อให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลและอุตสาหกรรมอัจฉริยะ จัดทำยุทธศาสตร์ทั่วไปเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีดิจิตอลและฐานข้อมูลแห่งชาติเพื่อเป็นพื้นฐานให้แก่การจัดทำยุทธศาสตร์และแผนการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีดิจิตอลในแต่ละด้านและแต่ละหน่วยงาน ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการปฏิรูประเบียบราชการ สร้างสรรค์รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์และบริหารระเบียบราชการออนไลน์ สร้างสรรค์โครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อมเพรียง โดยเทคโนโลยีสารสนเทศและฐานข้อมูลเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิตอล เน้นลงทุนพัฒนาอย่างพร้อมเพรียงและทันสมัย สร้างความเชื่อมโยงในระบบฐานข้อมูลแห่งชาติในด้านโทรคมนาคม ฐานข้อมูลและสาระความรู้ต่างๆ”

สำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 รัฐบาลได้ประกาศมติที่ 16 ที่ใช้มาตรการสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาฐานเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้สิทธิพิเศษต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิตอล การเกษตรอัจฉริยะ การท่องเที่ยวอัจฉริยะ ตัวเมืองอัจฉริยะ ผลักดันการทำธุรกิจ start-up เวียดนามเริ่มประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยของการปฏิวัติอุสาหกรรม 4.0 เช่น ระบบคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ ใช้อินเตอร์เน็ตในด้านอุตสาหกรรม การเกษตรและบริการ เวียดนามกำลังผลักดันการทำธุรกิจ start-up ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญเพื่อประยุกต์ใช้ผลสำเร็จของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งขณะนี้มีสถานประกอบการ start-up ประมาณ 3,000 แห่งและมีสถานประกอบการระดับโลก นี่คือปัจจัยสำคัญให้เวียดนามประยุกต์ใช้ประสบการณ์และผลักดันการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้การให้บริการภาครัฐของเวียดนามร้อยละ 88 ได้ทำผ่านระบบอินเตอร์เน็ตและการบริหารกว่าร้อยละ 10 อยู่ในระดับ 3 และ 4 .

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด