(VOVWORLD) - เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โตเลิม และภริยาจะเดินทางไปเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายนตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิมและภริยา การเยือนมีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีพัฒนาอย่างเข้มแข็งและครอบคลุม โดยเฉพาะนับตั้งแต่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี 2015 ซึ่งมีส่วนร่วมนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่
 นาย เลหว่ายจุง หัวหน้าคณะกรรมการด้านการต่างประเทศส่วนกลาง (qdnd.vn) |
การเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม และภริยามีวัตถุประสงค์เพื่อเดินหน้าปฏิบัตินโยบายต่างประเทศของที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ต่อไป ซึ่งให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน ในขณะเดียวกัน มาเลเซียเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อเสียงและอิทธิพลในอาเซียน และจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนภายในปี 2025 ซึ่งมาเลเซียได้รับการประเมินว่าเป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จเกี่ยวกับการพัฒนา
ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กำลังพัฒนาอย่างดีงาม
การเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม และภริยามีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับมาเลเซียพัฒนาอย่างเข้มแข็งและรอบด้าน โดยเฉพาะนับตั้งแต่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี 2015 เวียดนามเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มาเลเซียสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์
ในเวลาที่ผ่านมา ความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างเวียดนามกับมาเลเซียได้รับการส่งเสริมอย่างเข้มแข็ง โดยทั้งสองประเทศประสานจุดยืนของกันอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคีทั้งในระดับภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะในอาเซียน เวียดนามและมาเลเซียต่างเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนที่สำคัญของกัน
ในด้านเศรษฐกิจ เวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้าที่สำคัญของมาเลเซีย ปัจจุบัน มาเลเซียเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนามในอาเซียนและอันดับที่ 11 ของโลก ส่วนเวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของมาเลเซียในอาเซียน ทั้งสองประเทศมีศักยภาพที่จะขยายความร่วมมือต่อไป โดยเฉพาะในด้านใหม่ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล อีคอมเมิร์ซและพลังงานที่ยั่งยืน นาย เลหว่ายจุง หัวหน้าคณะกรรมการด้านการต่างประเทศส่วนกลางได้แสดงความเห็นว่า
“มาเลเซียกำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีสีเขียวซึ่งถือเป็นเสาหลักของแผนเศรษฐกิจ “มาเลเซียมาดานี” ที่ริเริ่มโดยนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม เพื่อทำให้มาเลเซียเป็นประเทศที่มีรายได้สูงด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน เวียดนามกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ซึ่งเป็นยุคแห่งการผงาดของประชาชาติด้วยแนวทางที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งในด้านเศรษฐกิจคือการปลดปล่อยและส่งเสริมกำลังการผลิตใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีสีเขียวซึ่งมาเลเซียให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและเป็นจุดแข็งของมาเลเซีย นี่จะเป็นการประสานงานที่ดีมาก โดยเวียดนามและมาเลเซียสามารถสนับสนุนกันและสร้างพลังที่เข้มแข็งให้แก่กันเพื่อย่างเข้าสู่ระยะการพัฒนาใหม่ของแต่ละประเทศ”
ในการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน เวียดนามและมาเลเซียมีความเชื่อมโยงที่เพิ่มมากขึ้น การแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่วยส่งเสริมความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้น ทั้งสองประเทศต่างชื่นชมคุณค่าดั้งเดิมของกัน ปัจจุบันชาวเวียดนามในมาเลเซียมีประมาณ 30,000 คน โดยเป็นนักศึกษาเกือบ 1,100 คน
การเยือนคือนิมิตหมายใหม่ในความสัมพันธ์ทวิภาคี
บนพื้นฐานของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอย่างดีงาม การเยือนครั้งนี้ถือเป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมือง สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้เข้าสู่ส่วนลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในกรอบการเยือน เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม จะพบปะกับผู้นำทางการเมืองสูงสุดของมาเลเซีย กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบายที่สำคัญ ณ มหาวิทยาลัย Malaya ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของมาเลเซีย พบปะกับสถานประกอบการเวียดนามและชุมชนชาวเวียดนาม นาย เลหว่าจุง หัวหน้าคณะกรรมการด้านการต่างประเทศส่วนกลางได้ย้ำว่า
“การเยือนนี้เป็นโอกาสเพื่อให้ผู้นำทั้งสองประเทศหารือเกี่ยวกับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลก และสถานการณ์ของแต่ละประเทศ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างกัน บรรลุข้อตกลงฉบับต่างๆ และยกระดับความสัมพันธ์เวียดนาม-มาเลเซียอย่างครอบคลุม”
ในปี 2025 มาเลเซียจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในสภาวการณ์ที่อาเซียนฉลองครบรอบ 10 ปีการสถาปนาประชาคมอาเซียน การอนุมัติวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนปี 2045 และกำหนดแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ในอีก 20 ปีข้างหน้า เนื้อหาที่มาเลเซียให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆจะเกี่ยวกับด้านที่สอดคล้องกับความต้องการและความปรารถนาที่กำลังเปลี่ยนแปลงของภูมิภาค ซึ่งรวมถึง การส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน การส่งเสริมการค้าและการลงทุนภายในกลุ่ม การส่งเสริมความสามารถของอาเซียนในการใช้ประโยชน์จากความคืบหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และการใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ๆ ผ่านการเยือนครั้งนี้ เวียดนามยังยืนยันถึงการสนับสนุนมาเลเซียในการปฏิบัติหน้าที่สำคัญในปีหน้าให้ประสบความสำเร็จ เห็นพ้องที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดและกับประเทศสมาชิกเพื่อสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนที่สามัคคี เป็นเอกภาพและกระชับความร่วมมือภายในกลุ่ม ส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางในปัญหาระดับภูมิภาค การเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ถือเป็นนิมิตหมายที่สำคัญ ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองและสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับมาเลเซียให้พัฒนาอย่างกว้างลึกมากขึ้นในเวลาที่จะถึง.