ในฐานะองค์กรการเมืองสังคมดูแลงานด้านการทูตระดับประชาชน ในหลายปีที่ผ่านมา กิจกรรมด้านสันติภาพ ส่งเสริมความสามัคคี มิตรภาพและความร่วมมือระดับประชาชนของสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง งานด้านการรณรงค์การช่วยเหลือจากองค์การ NGO การรณรงค์และต่อต้านคารมของอิทธิพลที่เป็นอริได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งมีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์แนวทางและนโยบายของพรรคและรัฐเวียดนามถึงเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ

ในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ผ่านช่องทางสันติภาพ สามัคคีและมิตรภาพ ได้มีคณะผู้แทนเกือบ 2.800 คนจากกว่า 240 คณะในหลายประเทศเดินทางมาเยือนเวียดนาม สหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามได้จัดกิจกรรมด้านการต่างประเทศภายในประเทศและการพบปะแลกเปลี่ยนกับหุ้นส่วนต่างประเทศประมาณ 3 พันกิจกรรม จัดตั้งความสัมพันธ์หุ้นส่วนกับองค์การทั้งในระดับภูมิภาคและโลกกว่า 1 พันองค์การ นาย หวูซวนโห่ง ประธานสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามได้เผยว่า การเยือนต่างๆดังกล่าวได้นำประสิทธิผลมากมายมาสู่ประเทศ “การพบปะแลกเปลี่ยนนับพันครั้งผ่านการเยี่ยมเยือนระหว่างกันของคณะผู้แทนต่างๆได้ช่วยให้เพื่อนมิตรชาวต่างชาติมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเวียดนาม ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศในภูมิภาค ประเทศที่มีความสัมพันธ์ยาวนานกับเวียดนามและมีความสัมพันธ์สำคัญกับเวียดนามต่างได้รับการเสริมสร้าง ผลักดันและส่งเสริมประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ ส่งเสริมเครือข่ายเพื่อนมิตรต่างประเทศเพื่อความสามัคคี การสนับสนุนและการช่วยเหลือจุนเจือกันกับเวียดนามต่อไป”
ในขณะที่โลกเพิ่งผ่านวิกฤติการเงิน โดยเฉพาะเวียดนามกำลังเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง การช่วยเหลือขององค์การ NGO ให้แก่เวียดนามในตลอด 5 ปีที่ผ่านมายังคงบรรลุกว่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเบิกจ่ายเงินผ่านโครงการต่างๆได้ช่วยเปลี่ยนโฉมใหม่ให้แก่ท้องถิ่นต่างๆ เขตทุรกันดาร เขตที่อยู่ห่างไกลความเจริญและเขตที่มีชนกลุ่มน้อยอาศัย พื้นที่ที่มีระเบิดและวัตถุระเบิดหลงเหลือหลังสงครามได้รับการเก็บกู้จนปลอดภัย  อำนวยความสะดวกให้ประชาชนอาศัยและทำการเกษตร นาย โดนต๊วนฟอง รองประธานสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามได้เผยว่า “ในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้ต้อนรับองค์การ NGO ใหม่เกือบ 200 แห่งซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจในขณะที่เวียดนามได้กลายเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ในหลายปีที่ผ่านมา มูลค่าวงเงินอุปถัมภ์ได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้คือ 300 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีซึ่งสูงกว่าแหล่งเงินอุปถัมภ์ในรูปให้เปล่า”
จากการปฏิบัติงานด้านการรณรงค์และการต่อต้านคารมของอิทธิพลที่เป็นอริเป็นอย่างดี ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากมิตรประเทศ โดยเฉพาะในปี 2013 เป็นครั้งแรกที่เวียดนามได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2014-2016
เกาะติดแนวทางแห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกต่อไป

เมื่อ 3 ปีก่อน ในสาส์นที่ส่งถึงสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามในโอกาสรำลึกครบรอบ 60 ปีวันก่อตั้งสหพันธ์ฯ ท่าน เหงียนมิงเชียด อดีตประธานประเทศเวียดนามได้ชี้ชัดว่า ในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประเทศชาติและรวมประเทศเป็นเอกภาพ ตลอดจนในภารกิจแห่งการสร้างสรรค์ประเทศเพื่อพัฒนาให้ทัดเทียมกับประเทศต่างๆในโลก ในหลายสิบปีที่ผ่านมา ถ้าหากอาศัยแหล่งพลังของเวียดนามก็ไม่สามารถสร้างชัยชนะได้ แต่ไม่ว่าในสภาวการณ์ใด หากพลังของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติได้ผนึกแน่นกับการสนับสนุนจากนานาประเทศก็สามารถสร้างเป็นพลังที่เข้มแข็งที่สุดซึ่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการทูตระดับประชาชนยังคงเข้าใจจิตใจนี้อยู่เสมอ ดังนั้น ในวาระต่อไป สหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามและองค์การมิตรภาพทุกสาขาต้องผลักดันงานด้านการทูตระดับประชาชนในเวลาต่อไป นาย โดนต๊วนฟอง รองประธานสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามได้ยืนยันว่า “ในวาระต่อไป สหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามและองค์การมิตรภาพสาขาต่างๆจะพัฒนาอย่างกว้างลึกต่อไป รวมทั้งยึกหลักปฏิบัติตามแนวทางคือ ผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในทุกด้าน ดังนั้นพวกเราให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อความสัมพันธ์ระดับประชาชนกับประเทศต่างๆ ตลอดจนประชาสัมพันธ์แนวทางนี้ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน พวกเราให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศสมาชิกอาเซียนและประชาชนอาเซียนเพื่อผลักดันความเชื่อมโยงและการแลกเปลี่ยนในกลุ่มอาเซียน”