ส่งเสริมผลดีจากผลการลงคะแนนไว้วางใจ
Hong Van - VOV5 -  
(VOVworld) - การลงคะแนนไว้วางใจต่อตำแหน่งสำคัญที่รัฐสภาเลือกหรืออนุมัติเมื่อเร็วๆนี้ได้รับคำชื่นชมจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมาก ในกรอบการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 8 สมัยที่ 13 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน การลงคะแนนไว้วางใจดังกล่าวก็ได้รับคำชืนชมอีกครั้งจากผู้แทนรัฐสภาในขณะที่หารือเกี่ยวกับร่างมติของรัฐสภาว่าด้วยการลงคะแนนไว้วางใจต่อตำแหน่งสำคัญที่รัฐสภาและสภาประชาชนเลือกหรืออนุมัติฉบับแก้ไข
(VOVworld) - การลงคะแนนไว้วางใจต่อตำแหน่งสำคัญที่รัฐสภาเลือกหรืออนุมัติเมื่อเร็วๆนี้ได้รับคำชื่นชมจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมาก ในกรอบการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 8 สมัยที่ 13 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน การลงคะแนนไว้วางใจดังกล่าวก็ได้รับคำชืนชมอีกครั้งจากผู้แทนรัฐสภาในขณะที่หารือเกี่ยวกับร่างมติของรัฐสภาว่าด้วยการลงคะแนนไว้วางใจต่อตำแหน่งสำคัญที่รัฐสภาและสภาประชาชนเลือกหรืออนุมัติฉบับแก้ไข
|
ภาพการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 8 สมัยที่ 13 |
ผู้แทนรัฐสภาต่างเห็นด้วยกับแนวทางที่จะจัดการลงคะแนนไว้วางใจต่อไปเพราะเป็นแนวทางที่ถูกต้องและสอดคล้องกับความปรารถนาของประชาชน แต่เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการลงคะแนนไว้วางใจ ต้องแก้ไขเนื้อหาบางอย่าง เช่น กรอบระยะเวลาการจัดการลงคะแนนไว้วางใจและผลผูกพันธ์ต่อผู้ที่ได้รับการลงคะแนนไว้วางใจ
ประสิทธิผลหลังการลงคะแนนไว้วางใจสองครั้ง
การลงคะแนนไว้วางใจ 2 ครั้งที่ผ่านมาถือเป็นรูปแบบการตรวจสอบใหม่ของรัฐสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นและเหมาะสม เป็นอีกหนึ่งช่องทางเพื่อประเมินผลการทำงานของเจ้าหน้าที่และแสดงให้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตยในระบบการเมืองของเวียดนาม เป็นการตรวจสอบกันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ นอกจากนั้น หลังการลงคะแนนไว้วางใจ 2 ครั้ง ประชาชนได้เห็นความพยายามเป็นอย่างมากและการพัฒนาของรัฐมนตรีและหัวหน้าหน่วยงานหลายท่านที่ได้รับเสียงสนับสนุนน้อยในการลงคะแนนไว้วางใจครั้งแรก ส่วนผู้บริหารบางคนที่ได้รับเสียงสนับสนุนข้างมากในการลงคะแนนครั้งแรกก็ยังคงทำงานได้ดี ยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของกลไกภาครัฐ ซึ่งเป็นพื้นฐานให้แก่การพิจารณาและประเมินเจ้าหน้าที่และอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่บริหารพัฒนาจุดแข็ง พิจารณาและปรับปรุงจุดอ่อนในการบริหาร ท่านเลถิ่งา ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดท้ายเงวียนเห็นว่า “ในสถานการณ์ของกลไกภาครัฐปัจจุบัน การลงคะแนนไว้วางใจและการประกาศผลอย่างเปิดเผยต่อประชาชนคือรูปแบบการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งส่งผลดีต่อการบริหารและความเป็นประชาธิปไตยตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2013 ผลการลงคะแนนไว้วางใจครั้งนี้สะท้อนผลการบริหารในทุกด้าน พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความยุติธรรมของรัฐสภาในการประเมินผลการทำงานและบริหารของผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญบางท่าน”
ผู้แทนรัฐสภาลงคะแนนไว้วางใจ
|
ยกระดับประสิทธิภาพของการลงคะแนนไว้วางใจ
ผลจากการลงคะแนนไว้วางใจได้แสดงให้เห็นว่า จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติการลงคะแนนไว้วางใจต่อไป แต่เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของงานนี้ ผู้แทนรัฐสภาหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นว่า ควรลงคะแนนวาระละ 2 ครั้ง คือในปลายปีที่สองและปลายปีที่ 4 เพราะ 2 ปีแรกคือกรอบเวลาที่เหมาะสมในการลงคะแนนไว้วางใจเพื่อประเมินการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนใน 2 ปีสุดท้ายจะเป็นการประเมินผลงานและการแก้ไขปัญหาของผู้ที่ถูกเสนอชื่อในการลงคะแนนไว้วางใจ นอกจากนั้น การลงคะแนนไว้วางใจในปีที่ 2 และปีที่ 4 นั้นยังสอดคล้องกับกรอบการประชุมใหญ่ทุกระดับของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเพื่อประเมินทักษะความสามารถและคุณสมบัติของเจ้าหน้าที่ทุกระดับเพื่อเตรียมบุคลากรให้แก่พรรคสาขาทุกระดับและระบบการเมืองในอนาคต นายจูเซินห่า ผู้แทนรัฐสภากรุงฮานอยเผยว่า
“ในแต่ละวาระควรมีการลงคะแนนไว้วางใจสองครั้ง คือในปลายปีที่ 2 และปลายปีที่ 4 เพราะเป็นเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ที่จะได้รับการลงคะแนนไว้วางใจพยายามปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้มีผลที่ดีขึ้น ฝึกฝนและยกระดับประสิทธิภาพในการทำงาน ส่วนการลงคะแนนไว้วางใจครั้งที่ 2 จะเป็นการตรวจสอบอีกครั้งเพื่อพิจารณาว่า ผู้ที่จะได้รับการลงคะแนนไว้วางใจนั้นได้มีการพัฒนาและรับฟังความคิดเห็นของผู้แทนรัฐสภาในการแก้ไขปัญหาประสบผลหรือไม่”
สำหรับผลที่ตามมาจากการลงคะแนนไว้วางใจ ในร่างมติได้มีการแก้ไขตามแนวทางให้ผู้ที่ได้รับการลงคะแนนไว้วางใจด้วยเสียงสนับสนุนข้างน้อยสามารถพิจารณาตัวเองขอลาออกจากตำแหน่งได้ถ้าหากเห็นว่า ตนไม่ได้รับความไว้วางใจหรือไม่มีความสามารถในการดำรงตำแหน่งดังกล่าวโดยไม่ต้องจัดการลงคะแนนไว้วางใจอีกครั้ง ซึ่งมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ “วัฒนธรรมการแสดงความรับผิดชอบโดยสมัครใจ” ในองค์การภาครัฐ นอกจากนั้น สำนักงานหรือผู้ที่เสนอให้รัฐสภาและสภาประชาชนเลือกหรืออนุมัติก็สามารถยื่นต่อรัฐสภาและสภาประชาชนเพื่อพิจารณาและตัดสินใจเกี่ยวกับการปลดตำแหน่งหรืออนุมัติการปลดผู้ที่ได้เสียงสนับสนุนน้อยมากในการลงคะแนนไว้วางใจเพื่อย้ายไปทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสมกับความสามารถ เกี่ยวกับปัญหานี้ นายฝ่ามเฉื่องเยิน ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดกว๋างนามเสนอว่า
“มติควรกำหนดกรณีที่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่มีผู้แทนรัฐสภาและสภาประชาชนกว่าครึ่งหนึ่งลงคะแนนไม่ไว้วางใจให้สามารถขอลาออกจากตำแหน่งได้ ในร่างมติไม่ระบุข้อกำหนดเกี่ยวกับการลาออกจากตำแหน่ง ผมเสนอเพิ่มข้อกำหนดนี้ ถ้าหากพวกเขาไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง สำนักงานหรือผู้ที่ได้เสนอชื่อบุคคลนี้ให้รัฐสภาและสภาประชาชนเลือกหรืออนุมัติสามารถเสนอให้รัฐสภาและสภาประชาชนพิจารณาการปลดหรืออนุมัติการปลดจากตำแหน่งได้”
การลงคะแนนไว้วางใจเป็นข้อกำหนดที่สำคัญในการปฏิบัติภารกิจการตรวจสอบของรัฐสภา ซึ่งจากการลงคะแนนไว้วางใจ 2 ครั้งได้พิสูจน์ให้เห็นว่า นี่คือรูปแบบการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและได้รับคำชื่นชมจากประชามติ ดังนั้น การแก้ไขมติที่ 35 ของรัฐสภาเกี่ยวกับการลงคะแนนไว้วางใจจะมีส่วนร่วมต่อการประเมินผลการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้อย่างถูกต้องและแสดงให้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตยของระบบการเมืองเวียดนามอีกด้วย./.
Hong Van - VOV5