ดร. ฟานบิ๊กเถี่ยน ชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศฮังการี

ในการพบปะกับชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศในรายการวสันต์ฤดูในบ้านเกิด 2018 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ณ กรุงฮานอย ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้ยืนยันว่า สำหรับประเทศและประชาชาติเวียดนาม ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศคือส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากประชาชาติได้ และมีความประสงค์ว่า ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศจะส่งเสริมเกียรติประวัติแห่งความรักชาติ ความมุ่งมั่นพึ่งพาตนเอง ก้าวรุดหน้าไป พลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ร่วมแรงร่วมใจกับประชาชนทั่วประเทศสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามให้เจริญเข้มแข็งมากขึ้นและมีสถานะที่สำคัญบนเวทีโลก

ความอบอุ่นในการต้อนรับของประเทศ

เมื่อตรุษเต๊ตประเพณีเวียนมา ดร. ฟานบิ๊กเถี่ยน ชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศฮังการีเป็นเวลากว่า 30 ปีได้กลับเวียดนามเพื่อฉลองตรุษเต๊ต ในฐานะเป็นผู้ที่มีความผูกพันกับปิตุภูมิ มีหลายโครงการลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนาม ดร. ฟานบิ๊กเถี่ยน ได้แสดงความเห็นว่า พรรคและรัฐให้ความสนใจถึงชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการแก้ไขอุปสรรค์ด้านการลงทะเบียนถือสัญชาติ อำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยในเวียดนาม ซึ่งความสนใจดังกล่าวทำให้ดร. ฟานบิ๊กเถี่ยน รู้สึกว่า บ้านเกิดมีความใกล้ชิดและอบอุ่นมากขึ้น “พวกเราเห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นคือความสนใจของพรรค รัฐและรัฐบาลต่อชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ เช่นพวกเราเป็นชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศแต่มีตัวแทนและเสียงพูดในแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม ดิฉันคิดว่า นี่คือการยืนยันที่ชัดเจนว่า สถานะของชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศได้รับความสนใจจากพรรค รัฐและแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม”

ในการพูดคุยกับชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ ตลอดจนผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการดูแล เชื่อมโยงชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศที่เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหรือส่งเสริมการลงทุนและประกอบธุรกิจ ทุกคนต่างกล่าวถึงมติ 45 และมติ 36 ของกรมการเมืองเกี่ยวกับงานด้านชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศในสถานการณ์ใหม่ นโยบายนี้ได้แสดงให้เห็นถึงทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเพื่อส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติต่อภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ นาย เจิ่นหว่าเฟือง รองหัวหน้าคณะกรรมการเกี่ยวกับชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศของนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า ทางการนครโฮจิมินห์อำนวยความสะดวก รับฟังความคิดเห็นของชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศในกระบวนการสร้างสรรค์นครโฮจิมินห์ให้กลายเป็นตัวเมืองที่มีอารยธรรม ทันสมัยและเป็นมิตร “สำนักงาน หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆได้ประสานงานและติดต่อกับชาวเวียดนามในต่างประเทศอย่างใกล้ชิดเพื่อทำให้แนวคิด โครงการ ข้อเสนอแนะของชาวเวียดนามในต่างประเทศมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนานคร เพื่อส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของพวกเขาในกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของประธานโฮจิมินห์คือ “สามัคคี สามัคคี มหาสามัคคี” ความสำเร็จ ความสำเร็จและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่”

นาย เจิ่นหว่าเฟือง รองหัวหน้าคณะกรรมการเกี่ยวกับชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศของนครโฮจิมินห์

ส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งที่มีศักยภาพ

ปฏิบัติตามแนวทางชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศคือส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากประชาชาติเวียดนามได้ ในหลายปีที่ผ่านมา พรรคและรัฐเวียดนามได้ปฏิบัติแนวทางและนโยบายต่างๆเพื่อพัฒนากลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ดึงดูดบุคลากรและเงินทุนของชาวเวียดนามเพื่อการพัฒนาประเทศ เพื่อเรียกร้องการลงทุนจากนักธุรกิจชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ เวียดนามได้ปฏิรูประเบียบการลงทุน การพำนักอาศัย การเดินทางและให้สิทธิพิเศษแก่สถานประกอบการของชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ

ดังนั้น ทั่วประเทศมีนักธุรกิจชาวเวียดนามที่อาศัยในสหรัฐ ออสเตรเลีย รัสเซีย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ แคนาดาและญี่ปุ่นเกือบ 3 พัน 6 ร้อยคนที่ลงทุนใน 51 จาก 63 จังหวัดและนคร รวมยอดเงินลงทุนเกือบ 8 พัน 4 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเน้นถึงด้านอสังหาริมทรัพย์ การบริการโรงแรม ร้านอาหาร การท่องเที่ยว เทคโนโลยีซอฟแวร์ การบริการปิโตรเลี่ยม การผลิตไฟฟ้า การเพาะเลี้ยง แปรรูปและส่งออกสัตว์น้ำ  ผ่านกิจกรรมการลงทุนของชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ สถานประกอบการภาคเอกชนในเวียดนามสามารถผลักดันกระบวนการเจาะตลาดโลก ยกระดับความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยี เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และคุณค่า

สำหรับเงินทุนที่ชาวเวียดนามในต่างประเทศส่งกลับประเทศ ขณะนี้ เวียดนามอยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศที่มีแหล่งเงินทุนส่งกลับประเทศมากที่สุดในโลก โดยจนถึงเดือนธันวาคมปี 2017 เงินทุนที่ชาวเวียดนามส่งกลับประเทศบรรลุ 5 พัน 2 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปี 2016 เมื่อก่อน เงินทุนที่ชาวเวียดนามส่งกลับประเทศส่วนใหญ่เป็นการส่งให้แก่ญาติมิตร แต่ปัจจุบันชาวเวียดนามในต่างประเทศได้ให้ความสนใจถึงการลงทุนและประกอบธุรกิจมากขึ้นตามขอบเขตครอบครัวหรือเชื่อมโยงการลงทุน ดังนั้นเงินทุนที่ส่งกลับประเทศและการที่ชาวเวียดนามในต่างประเทศผลักดันการลงทุนในประเทศมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ต่อการพัฒนาของประเทศ ผลสำเร็จของประเทศที่ได้บรรลุเมื่อปีที่ผ่านมามีส่วนร่วมที่สำคัญจากชมรมชาวเวียดนามในต่างประเทศ.