สถานประกอบการพยายามปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล

(VOVWORLD) -การค้าอิเล็กทรอนิกส์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในเวียดนาม ซึ่งควบคู่กับการพัฒนาของเศรษฐกิจดิจิทัล การประกอบธุรกิจและการบริการผ่านการค้าอิเล็กทรอนิกส์ก็นับวันได้รับความนิยมมากขึ้นและเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สถานประกอบการประสบความสำเร็จต่างๆ เวียดนามกำหนดว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีแผนการที่เป็นชัดเจนเพื่อยกระดับทักษะความสามารถของสถานประกอบการและปฏิบัติเป้าหมายการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล
สถานประกอบการพยายามปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล - ảnh 1(Pinterest)

รายงานของ Google, Temasek และ Bain & Company ปรากฏว่า  ในปี 2020  ตลาดการค้าอิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองจากอินโดนีเซียที่มีมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐและไทยที่มีมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Google ได้พยากรณ์ว่า  ในปี 2025  อัตราการขยายตัวการค้าอิเล็กทรอนิกส์ของเวียดนามจะสูงที่สุดในภูมิภาคหรือคิดเป็นร้อยละ 34  การค้าอิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นแนวโน้มของการพัฒนาในยุคปัจจุบันเพราะมีต้นทุนต่ำและสามารถเชื่อมโยงการค้าได้ทั่วโลก แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ ถ้าหากไม่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว ตลาดส่งออกก็ยังคงเป็นของสถานประกอบการรายใหญ่เท่านั้นในขณะที่สถานประกอบการเวียดนามส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมจึงไม่สามารถเจาะตลาดนี้ได้ ปัจจุบันนี้ เวียดนามมีสถานประกอบการหลายแห่งโดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่ยังไม่ให้ความสนใจหรือไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลและบางส่วนที่ยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ขาดความเข้าใจเกี่ยวกับลูกค้า รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารและยุทธศาสตร์การประกอบธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล

นาย โด๋หว่างหาย ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนเทคโนโลยี Wincom แสดงความคิดเห็นว่า ในความเป็นจริงสถานประกอบการหลายแห่งกำลังประสบอุปสรรคในการกำหนดเป้าหมายปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลโดยไม่รู้ว่าต้องเริ่มอย่างไร ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องมีรูปแบบการพัฒนาที่ชัดเจนในด้านนี้ “การปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลได้มีขึ้นอย่างเข้มแข็งในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซียและไทย โดยรัฐบาลของประเทศเหล่านี้มีแผนการที่ชัดเจนในการช่วยเหลือสถานประกอบการพัฒนาทักษะความสามารถ การเข้าถึงตลาดและการเงิน เป็นต้น ดังนั้นในเวลาข้างหน้า สถานประกอบการเวียดนามต้องมีแผนการที่ชัดเจนเช่นกันเพื่อสามารถปฏิบัติได้”

สถานประกอบการพยายามปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล - ảnh 2นาย เหงียนหงอกหยุง อุปนายกสมาคมการค้าอิเล็กทรอนิกส์เวียดนาม ( cafef.vn)

ส่วนนาย เหงียนหงอกหยุง อุปนายกสมาคมการค้าอิเล็กทรอนิกส์เวียดนามยืนยันว่า การค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่สามารถช่วยสถานประกอบการพัฒนาการประกอบธุรกิจ ดังนั้น นี่เป็นเรื่องที่จำเป็นเพื่อช่วยให้สถานประกอบการตอบสนองความต้องการในสภาวะการณ์ใหม่ได้ “การค้าอิเล็กทรอนิกส์และแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สนับสนุนการซื้อขายผ่านสมาร์ทโฟนนับวันพัฒนามากขึ้น ซึ่งการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลก็ต้องสอดคล้องกับเงื่อนไขนี้ ดังนั้นสถานประกอบการไม่เพียงแต่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดทำเว็บไซต์เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเท่านั้น หากยังต้องปรับเปลี่ยนระบบให้รองรับการค้าอิเล็กทรอนิกส์และพัฒนามากขึ้น รวมทั้งโลจิสติกส์ การบริหารการนำเข้าส่งออกผ่านระบบออนไลน์และการขนส่งสินค้าอีกด้วย”

นาย เหงียนกิมหุ่ง รักษาการหัวหน้าสถาบันวิทยาศาสตร์ บริหารสถานประกอบการและเศรษฐกิจดิจิทัลเวียดนามได้กล่าวว่า เพื่อสนับสนุนสถานประกอบการในการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล นอกจากกลไกและนโยบายแล้ว การสนับสนุนด้านการเงินก็เป็นอีกช่องทางที่สามารถช่วยให้สถานประกอบการผลักดันกระบวนการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลได้เร็วมากขึ้น “ผมยังไม่เห็นการพูดคุยเรื่องปัญหาแหล่งเงินทุนของสถานประกอบการในการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล ธนาคารก็ไม่ให้บริษัทเหล่านี้กู้เงินเพราะไม่ทราบว่า มันคืออะไรและธนาคารไม่ให้บริษัทธรรมดากู้เงินเพื่อลงทุนด้านเทคโนโลยี เพื่อให้สถานประกอบการมีกองทุนสนับสนุนการลงทุนในด้านเทคโนโลยี จำเป็นต้องแก้ไขมติของรัฐบาล การปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลต้องมีเงินทุนเพื่อการปฏิบัติ”

ควบคู่กับแหล่งบุคลากรที่มีทักษะสูง เงินทุนที่สนับสนุนสถานประกอบการในการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ได้รับความสนใจจากรัฐบาล การมีมาตรการแก้ไขปัญหานี้จะช่วยให้เป้าหมายการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลของเวียดนามได้รับการปฏิบัติจนสำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด