สนทนาเพื่อสร้างความไว้วางใจและความโปร่งใส
Anh Huyen - VOV5 -  
(VOVworld) – การสนทนาแชงกรีล่าปี 2015 ซึ่งเป็นฟอรั่มความมั่นคงที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคได้เสร็จสิ้นลงหลังจัดมาเป็นเวลา 3 วัน ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยได้เสนอสาส์นของบรรดาประเทศที่เข้าร่วมเพื่อสร้างความไว้วางใจและความโปร่งใสซึ่งเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าของการรักษาบรรยากาศแห่งสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อสนับสนุนความร่วมมือและการพัฒนา ในสภาวการณ์ที่ความมั่นคงในภูมิภาคมีความตึงเครียดในเวลาที่ผ่านมา
(VOVworld) – การสนทนาแชงกรีล่าปี 2015 ซึ่งเป็นฟอรั่มความมั่นคงที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคได้เสร็จสิ้นลงหลังจัดมาเป็นเวลา 3 วัน ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยได้เสนอสาส์นของบรรดาประเทศที่เข้าร่วมเพื่อสร้างความไว้วางใจและความโปร่งใสซึ่งเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าของการรักษาบรรยากาศแห่งสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อสนับสนุนความร่วมมือและการพัฒนา ในสภาวการณ์ที่ความมั่นคงในภูมิภาคมีความตึงเครียดในเวลาที่ผ่านมา
ภาพถ่ายจากเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐแสดงให้เห็นว่า จีนได้ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆในทะเลตะวันออก
|
การสนทนาแชงกรีล่าได้รับการก่อตั้งเมื่อ 14 ปีก่อนตามความคิดริเริ่มของอดีตนายรัฐมนตรีสิงคโปร์ผู้ล่วงลับลีกวนยูและจนถึงขณะนี้ การสนทนานี้ได้กลายเป็นฟอรั่มความมั่นคงที่มีบทบาทสำคัญเป็นพิเศษในภูมิภาค ทวีปเอเชียกำลังจะกลายเป็นทวีปที่พัฒนารวดเร็วที่สุดในโลกทั้งในด้านการค้า การเงินและกลาโหมแต่ในทางกลับก็กำลังประสบความท้าทายที่ไม่น้อยในด้านความมั่นคง รวมทั้งการพิพาทด้านอธิปไตยในเขตทะเลตะวันออกระหว่างประเทศจีนกับบางประเทศในแถบนี้ เหตุการณ์ที่สร้างความร้อนระอุที่สุดในเวลาที่ผ่านมาคือการก่อสร้างเกาะเทียมในเขตที่กำลังมีการพิพาทและมีสัญญาณที่ส่อแววว่าจีนอาจมีการใช้อาวุธเพื่อแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออก ซึ่งได้สร้างความวิตกกังวลต่อประชาคมระหว่างประเทศ ดังนั้น การสนทนาแชงกรีล่าในปีนี้จึงมีผู้แทนประเทศต่างๆเข้าร่วมมากกว่าครั้งก่อนๆคือประมาณ 500 คนจาก 38 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งผู้แทนระดับสูงด้านกลาโหมจากทั่วโลก
เสียงพูดแห่งความเป็นเอกฉันท์ในปัญหาทะเลตะวันออก
ในการกล่าวปราศรัยอย่างเป็นทางการหรือในการพบปะนอกกรอบการประชุม สาส์นของตัวแทนทุกประเทศที่เข้าร่วมการสนทนาฯต่างย้ำถึงบทบาทสำคัญของการเดินเรือและการบินอย่างเสรีในภูมิภาค เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความอดกลั้น ไม่ใช้อาวุธ ปฏิบัติตามกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขล่วงหน้าเพื่อแก้ไขการพิพาทต่างๆ ส่วนตัวแทนด้านกลาโหมของประเทศต่างๆได้เห็นพ้องกันว่า เพื่อให้ความร่วมมือประสบความสำเร็จ ต้องอาศัยปัจจัย 4 อย่าง คือ ความไว้วางใจ ความโปร่งใส โครงสร้างความมั่นคงและเอื้อประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่หรือเล็ก นาย แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐได้เผยว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอธิปไตยเหนือทะเลตะวันออกด้วยอาวุธได้แต่ต้องใช้มาตรการทางการทูตเท่านั้น โดยอาเซียนต้องเป็นผู้นำเนื่องจากมีบทบาทเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ส่วนนาย เกน นากาตานิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้เห็นด้วยกับข้อเสนอของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐโดยเตือนว่า การเคลื่อนไหวก่อสร้างเกาะเทียมในเขตทะเลตะวันออกอาจทำให้ภูมิภาคนี้ตกเข้าสู่สถานการณ์ที่วุ่นวายและเรียกร้องให้ทุกประเทศ รวมทั้งประเทศจีนต้องมีปฏิบัติการที่รับผิดชอบ ในขณะเดียวกัน นาย ฮิซามุดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซียได้เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกฎหมายในการแก้ไขปัญหาการพิพาทดินแดน
นายหลีเชียนหลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวปราศรัยเปิดการสนทนาฯ
|
ส่วนนาย อึ้ง เอง เฮน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีความอดกลั้นในการแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออก ส่วนในการกล่าวปราศรัยเปิดการสนทนาแชงกรีล่า นายหลีเชียนหลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ยืนยันอีกครั้งถึงความสนใจร่วมกัน เรียกร้องให้จีนและอาเซียนมุ่งสู่การจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ปัญหาทะเลตะวันออกก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากสหภาพยุโรป โดยในประกาศร่วมของการประชุมผู้นำระหว่างญี่ปุ่นกับสหภาพยุโรปในกรอบการสนทนาฯ ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันว่า “จะติดตามสถานการณ์ในทะเลตะวันออกอย่างใกล้ชิดและมีความกังวลพฤติกรรมเพียงฝ่ายเดียวที่เปลี่ยนสภาพเดิมและเพิ่มความตึงเครียด” นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเสนอ “ความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการสนทนาแชงกรีล่า” เพื่อเพิ่มการรักษาความมั่นคงของการเดินเรือในภูมิภาค รวมทั้งการเฝ้าติดตามน่านฟ้าในทะเลตะวันออกตลอด 24 ชั่วโมงโดยบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน
ต่อความกังวลของประชาคมระหว่างประเทศที่แสดงออกผ่านการสนทนาครั้งนี้ นายซุนเจี้ยนกั๋ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมจีนได้ย้ำว่า จีนปฏิบัตินโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของประเทศมหาอำนาจที่มีความรับผิดชอบและปฏิบัติหลักการระหว่างประเทศ หลักการของกฎบัติสหประชาชาติต้องได้รับการปฏิบัติและเป็นวิธีเดียวเพื่อพัฒนาสันติภาพ พร้อมทั้งยืนยันว่า ปักกิ่งจะมีความรับผิดชอบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกประเทศบนหลักการคือถือสหประชาชาติเป็นศูนย์กลางเพื่อรักษาสันติภาพ ทุกประเทศควรผลักดันความไว้วางใจและแสวงหาทัศนะร่วมกันเพื่อแก้ไขความแตกต่าง
เวียดนามมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นในการสนทนาแชงกรีล่า
เวียดนามเข้าร่วมการสนทนาครั้งนี้ ในฐานะเป็นประเทศที่มีผลประโยชน์และอธิปไตยในทะเลตะวันออก คณะผู้แทนเวียดนาม นำโดยพลโทเหงียนชี้หวิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้มีการพบปะหารือกับตัวแทนของหลายประเทศที่เกี่ยวข้องกับปัญหาต่างๆ รวมทั้งปัญหาทะเลตะวันออก โดยถือว่า ทะเลตะวันออกได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของภูมิภาค ดังนั้นในการสนทนาครั้งนี้ ผู้แทนหลายคนได้เสนอมาตรการแก้ไขตามแนวทางร่วมกันแสวงหามาตรการปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดหรือการเคลื่อนไหวที่ละเมิดกฎหมายสากล โดยเฉพาะไม่ปล่อยให้เกิดการปะทะ ซึ่งแนวทางดังกล่าวของประชาคมโลกและภูมิภาคก็เหมือนกับทัศนะของเวียดนามคือ จะแก้ไขปัญหาการพิพาทและความแตกต่างด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล ความยุติธรรมและความเคารพต่อกัน
ผ่านการสนทนาแชงกรีล่าครั้งที่ 14 เวียดนามและทุกประเทศต่างย้ำถึงความรับผิดชอบในการรักษาและสร้างสรรค์ทะเลตะวันออกให้กลายเป็นภูมิภาคที่มีสันติ มีเสถียรภาพและเจริญรุ่งเรือง./.
Anh Huyen - VOV5