(VOVworld)-วันที่7พฤษภาคม ท่านเจืองเตินซาง ประธานประเทศได้นำคณะผู้แทนเวียดนามเดินทางไปเยือนรัสเซียและเข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ70ปีแห่งชัยชนะของสงครามป้องกันประเทศของรัสเซียที่กรุงมอสโคว์ ตามคำเชิญของประธานาธิบดีรัสเซียวลาดีเมียร์ ปูติน โดยการที่ประธานประเทศเวียดนามได้เข้าร่วมในพิธีสำคัญนี้ได้เป็นการยืนยันว่า แม้สถานการณ์โลกและสถานการณ์ของแต่ละประเทศจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเช่นไรแต่สัมพันธไมตรีที่ประชาชนเวียดนามสงวนให้แก่ประชาชนรัสเซียจะมั่นคงถาวรตลอดกาล

ประธานประเทศเวียดนามเจืองเตินซางจะเข้าร่วมพิธีเดินสวนสนามรำลึกครบรอบ70ปีแห่งการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 ณ จตุรัสแดงในกรุงมอสโคว์พร้อมกับผู้นำประเทศและองค์การระหว่างประเทศกว่า30ท่าน นอกจากการเข้าร่วมพิธีรำลึกและการเดินสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ที่มีการเข้าร่วมของกองกำลังต่างๆรวม1หมื่น5พันคน พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์และพาหนะที่ทันสมัยกว่า200ชุดซึ่งรวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เปิดตัวครั้งแรกสู่สาธารณชนแล้ว การเยือนรัสเซียครั้งนี้ยังเป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองประเทศเสริมสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคีให้แน่นแฟ้นมั่นคงยิ่งขึ้นอีกด้วย

การเริ่มต้นของกระบวนการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชในเวียดนาม

ชัยชนะของสงครามป้องกันประเทศที่ยิ่งใหญ่ของโซเวียดเมื่อ70ปีก่อนได้เปิดโอกาสใหม่ให้แก่มนุษยชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์สังคมที่ก้าวหน้า สร้างเงื่อนไขที่สะดวกให้แก่การปลูกเร้าจิตใจและขบวนการลุกขึ้นปลดปล่อยประชาชาติ ต่อต้านลัทธิอาณานิคมในทั่วโลกในศตวรรษที่20 ส่วนสำหรับเวียดนาม เส้นทางการต่อสู้ที่นำไปสู่ชัยชนะของทั้งประชาชาติก็มีจุดเริ่มต้นจากชัยชนะดังกล่าว ซึ่งในการตอบสัมภาษณ์นักข่าวสถานีโทรทัศน์รัสเซียก่อนการเยือน ประธานประเทศเจืองเตินซางได้ย้ำว่า“สำหรับเวียดนาม ชัยชนะของชาวรัสเซียนั้นได้มีส่วนร่วมสำคัญต่อความสำเร็จของการปฏิวัติเวียดนามปี1945 สถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามและหลังจากนั้น5ปีรัฐบาลโซเวียดในตอนนั้นก็ได้รับรองความชอบธรรมของรัฐบาลเวียดนามพร้อมทั้งตัดสินใจสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม นั่นคือนิมิตหมายแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญและมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ในความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามและสหภาพโซเวียดหรือสหพันธรัฐรัสเซียในปัจจุบัน”

แบบอย่างแห่งสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศที่ซื่อสัตย์และโปร่งใส

จากจิตใจระหว่างประเทศอันสูงส่งและการสนับสนุนในทุกด้านของประชาชาติโซเวียดในตอนนั้นได้มีส่วนร่วมที่สำคัญเพื่อให้ประชาชาติเวียดนามสร้างบทเพลงแห่งมหาชัยฤดูใบไม้ผลิปี1975 ปลดปล่อยภาคใต้อย่างสมบูรณ์ รวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งพลังแห่งความสัมพันธ์เวียด-โซก็ได้เริ่มจากแบบอย่างแห่งความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างประเทศที่ซื่อสัตย์และโปร่งใส“การที่คณะผู้แทนเวียดนามเข้าร่วมวันงานรำลึกครบรอบ70ปีแห่งชัยชนะฟาสซิสต์คือเรื่องปกติ โดยในปัจจุบันนี้ ทั้งโลกได้มีการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ในแต่ละประเทศก็มีการเปลี่ยนแปลงแต่สัมพันธไมตรีระหว่างสองชาติเวียดนาม-รัสเซียจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”

ความสัมพันธ์เวียดนาม-รัสเซียในปัจจุบันได้สานต่อเกียรติประวัติความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในสมัยโซเวียดที่ได้รับการวางรากฐานและพัฒนาอย่างดีงามมาเป็นเวลานาน ซึ่งจากความพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง ปี2001 เวียดนามและรัสเซียได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และได้ยกระดับเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเมื่อปี2012เพื่อตอบสนองความต้องการในยุคใหม่

ผลงานในปัจจุบันและความเชื่อมั่นในอนาคต

ใน10ปีแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และอีก3ปีของการขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ความสัมพันธ์เวียดนาม-รัสเซียได้บรรลุผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต่างๆที่ได้มีส่วนร่วมสำคัญในภารกิจการพัฒนาของแต่ละประเทศ ทั้งสองฝ่ายได้ให้ความสำคัญและมีความต้องการร่วมมือกันบนพื้นฐานแห่งความเสมอภาค เอื้อประโยชน์ร่วมกันและสถานะของแต่ละประเทศในนโยบายด้านการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายก็นับวันได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น โดยจุดเด่นแห่งความสัมพันธ์เวียดนาม-รัสเซียคือความไว้วางใจกันในระดับสูงพร้อมรูปแบบความร่วมมือที่หลากหลาย ส่วนความร่วมมือทางเศรษฐกิจทวิภาคีก็ได้รับการผลักดันตาม4ด้านหลักคือ การค้า การลงทุน ปิโตรเลี่ยมและพลังงานไฟฟ้า

ในสาส์นที่ส่งถึงบรรดาผู้นำรัสเซียเนื่องในโอกาสที่สำคัญนี้ ประธานประเทศเจืองเตินซางได้ยืนยันอีกครั้งว่า“แม้เวลาจะผ่านไปแต่ประชาชาติเวียดนามจะจดจำสัมพันธไมตรีและความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่อย่างสุดจิตสุดใจของประชาชนรัสเซียในสงครามช่วงชิงเอกราชและในภารกิจการฟื้นฟูพัฒนาประเทศของเวียดนาม ขออวยพรให้ประชาชนและประเทศรัสเซียพัฒนาเจริญรุ่งเรืองและเข้มแข็งมากขึ้นและบทบาทสถานะของรัสเซียนับวันยิ่งสูงเด่นในภูมิภาคและโลกยิ่งๆขึ้น”

จากเกียรติประวัติที่น่าภาคภูมิใจและผลงานที่ยิ่งใหญ่ในยุคปัจจุบัน ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่และความปรารถนาของทั้งผู้นำและประชาชนทั้งสองประเทศ เราสามารถเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์เวียดนาม-รัสเซียจะพัฒนาดีงามยิ่งขึ้นในอนาคต./.