สร้างสรรค์ชนชั้นกรรมกรเพื่อผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ( hanoimoi.com.vn)

ที่เวียดนาม ชนชั้นกรรมกรคือแกนนำในการปฏิบัติวัติผ่านกองกำลังเดินหน้าคือพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เข้มแข็งตามแนวทางพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกกำลังเปิดโอกาสใหม่ให้แก่การพัฒนาของชนชั้นกรรมกรในเวียดนาม  โดยการปฏิรูปโครงสร้างของเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงใหม่สถานประกอบการภาครัฐ การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและการจัดตั้งสถานประกอบการใหม่ๆของเศรษฐกิจทุกภาคส่วน รวมไปถึงการผลักดันการส่งออกสินค้าและแรงงาน การนำเข้าและถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นต้น ได้ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจเวียดนามพัฒนาอย่างคล่องตัวด้วยอัตราการขยายตัวอยู่ในระดับสูง สร้างงานทำใหม่นับล้านตำแหน่งให้แก่แรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งกระบวนการนี้ได้สร้างก้าวกระโดดที่เห็นได้ชัดคือ พัฒนาชนชั้นกรรมกรในด้านจำนวนและเปิดโอกาสให้แรงงานได้เรียนรู้ ยกระดับทักษะวิชาชีพและฝีมือ

ทั้งนี้ เพื่อให้ชนชั้นกรรมกรเวียดนามพัฒนาและขยายตัวให้สมกับการเป็นกองกำลังสำคัญที่สุดในการสร้างสรรค์พรรคฯ สร้างสรรค์ระบบการเมืองและระบอบสังคมนิยม เวียดนามได้จัดทำยุทธศาสตร์แห่งชาติแบบบูรณการเพื่อพัฒนาชนชั้นกรรมกรเวียดนามในเวลาที่จะถึง โดยมีมาตรการหลักในการสร้างสรรค์แถวขบวนการของกรรมกรคือ

การผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างกลมกลืน: ผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูงและมีเสถียรภาพควบคู่กับการค้ำประกันการพัฒนาวัฒนธรรมสังคมอย่างกลมกลืน โปร่งใส ยกระดับชีวิตทางวัตถุและจิตใจของประชาชนและแรงงานโดยเฉพาะชนชั้นกรรมกร ธำรงความมีเสถียรภาพทางการเมือง ค้ำประกันความมั่นคงด้านกลาโหมและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม

ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ทางวัตถุและจิตใจให้แก่กรรมกร ( tuyengiao.vn)

พัฒนาเศรษฐกิจตามแนวทางอุตสาหกรรมที่ทันสมัย: โดยเวียดนามได้วางแผนการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ เขตเศรษฐกิจและปฏิรูปโครงสร้างของเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดและผสมผสานเข้ากับเศรษฐกิจโลก นี่จะเป็นกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวทางอุตสาหกรรมที่ทันสมัย พร้อมทั้งมุ่งสู่การเปิดตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรมใหม่ ดึงดูดแรงงานในสาขาอาชีพและรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งกระบวนการนี้จะช่วยพัฒนาชนชั้นกรรมกรทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ

ผลักดันการประชาสัมพันธ์และการศึกษาเพื่อให้มีการตระหนักชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับบทบาท สถานะและภารกิจเชิงประวัติศาสตร์ของชนชั้นกรรมกร: เพื่อให้ชนชั้นกรรมกรสามารถยืนยันบทบาท สถานะของตนและปฏิบัติภารกิจเชิงประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของตนให้สำเร็จลุล่วง จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์และรณรงค์ในสังคมเพื่อยกย่องสดุดีกรรมกร ช่วยให้สังคมตระหนักได้ดีเกี่ยวกับบทบาทและสถานะสำคัญของชนชั้นกรรมกรในภารกิจการพัฒนาเศรษฐกิจในสภาวการณ์โลกาภิวัติและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก พร้อมทั้งเป็นปัจจัยชี้ขาดในการสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่เป็นสังคมตามแนวทางสังคมนิยม

ปฏิรูประบบการศึกษาและฝึกอบรมทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติให้แก่ชนชั้นกรรมกร: ผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในสภาวการณ์โลกาภิวัติกำลังสร้างกระแสความต้องการใหม่ด้านทรัพยากรมนุษย์ทั้งปริมาณและคุณภาพ การแข่งขันที่นับวันเข้มข้นมากขึ้นทำให้แรงงานต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างเป็นมืออาชีพมากขึ้น ดังนั้น รัฐต้องวางยุทธศาสตร์สร้างสรรค์และพัฒนาแหล่งบุคลากรให้มีจำนวนมากและมีคุณภาพสูงในหลากหลายสาขาอาชีพเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก

ให้การดูแลเอาใจใส่ต่อชีวิตทางวัตถุและจิตใจของชนชั้นกรรมกร: พรรคฯและรัฐจำเป็นต้องจัดทำยุทธศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมอย่างทันท่วงทีเพื่อดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของกรรมกร โดยเฉพาะกรรมกรรุ่นใหม่ ซึ่งมักจะทำงานในเขตนิคมอุตสาหกรรมและเขตแปรรูปเพื่อการส่งออกต่างๆ โดยก่อนอื่นคือนโยบายใหม่ๆเกี่ยวกับงานทำ ที่อยู่อาศัยและเงินเดือนเพื่อช่วยให้ชนชั้นกรรมกรสามารถเรียนรู้และฝึกฝนยกระดับฝีมือและจิตสำนึกด้านสังคม อันจะช่วยให้กรรมกรรุ่นใหม่มีความผูกพันใกล้ชิดกับภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรคฯและรัฐ มีจิตสำนึกของชนชั้นและมีอุดมการณ์แห่งสังคมนิยม

การสร้างชนชั้นกรรมกรควบคู่กับการรณรงค์ปฏิบัติระเบียบประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่นและการต่อต้านการคอร์รัปชั่น เพื่อช่วยให้กรรมกรแต่ละคนได้รับความเคารพ มีส่วนร่วมอย่างจริงจังต่อกระบวนการพัฒนาของสถานประกอบการ อันจะสร้างพลังขับเคลื่อนอย่างเข้มแข็งให้แรงงานและกรรมกรมีความมั่นใจและขยันตั้งใจทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่สถานประกอบการและตัวเองมากขึ้น

เปลี่ยนแปลงใหม่วิธีการนำของพรรคฯ ต่อองค์กรการเมือง – สังคมในสถานประกอบการ พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงใหม่การดำเนินงานขององค์กรการเมือง-สังคมเหล่านั้นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ เพื่อเอื้อให้แก่การเชิดชูบทบาทการเป็นผู้นำของพรรคและผลักดันการการดำนินงานขององค์กรการเมือง-สังคมในสถานประกอบการต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยการชี้นำของพรรคต่อองค์กรแรงงานเหล่านั้นจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งเพื่อมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมต่อการปกป้อง ดูแลและพัฒนาชนชั้นกรรมกรในกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก.