สหรัฐ-อินเดียมุ่งสู่ความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

(VOVWORLD) - นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการเยือนอินเดียครั้งแรกของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะผู้นำสหรัฐ ถึงแม้ที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศจะมีความแตกต่างกันและมีความขัดแย้งด้านการค้าและเศรษฐกิจ แต่ทั้งสหรัฐและอินเดียต่างตั้งความหวังว่า การเยือนอินเดียของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ จะสร้างก้าวกระโดดใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
สหรัฐ-อินเดียมุ่งสู่ความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น - ảnh 1โปสเตอร์ต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ณ ถนนในอินเดีย (India Times) 

หลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2017 นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ประกาศยุทธศาสตร์มหาสมุทรอินเดียแปซิฟิก ยกระดับบทบาทของอินเดียในด้านความมั่นคงภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างมีพลังขับเคลื่อนเพื่อผลักดันความร่วมมือในกรอบยุทธศาสตร์นี้

ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนทั่วไป

การเยือนอินเดียของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐมีความหมายต่อมิตรภาพของทั้งสองประเทศ หลังจากเดินทางถึงประเทศอินเดีย นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ชื่นชมความสัมพันธ์สหรัฐ-อินเดียโดยแสดงความเห็นว่า อินเดียมีบทบาทพิเศษต่อสหรัฐ สหรัฐชื่นชอบอินเดียและให้ความเคารพอินเดีย ชาวอเมริกันเชื่อมั่นและมีความจริงใจกับอินเดีย เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ก่อนการเยือน ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ย้ำว่า นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี เป็น “เพื่อน” ของเขาและเขารอคอยการเดินทางไปเยือนอินเดีย ซึ่งสัญญาณนี้บ่งบอกถึงผลงานที่ดีงาม หรืออย่างน้อย นาย โดนัลด์ ทรัมป์ มีความประสงค์ว่า ความเป็นมิตรจะเปิดทางให้แก่ข้อตกลงสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายหารือในกรอบการเยือนประเทศอินเดียครั้งแรกของเขา

ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ได้แสดงความเห็นว่า ความสัมพันธ์อินเดีย-สหรัฐไม่เพียงแต่เป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนทั่วไปเท่านั้น หากในทางเป็นจริง ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้มีความลึกซึ้งและมีความใกล้ชิดเป็นอย่างมาก ซึ่งได้รับการพิสูจน์ผ่านพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติและเป็นมิตรของอินเดียที่มีต่อผู้นำสหรัฐ ณ สนามกีฬา Motera โดยมีนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี และประชาชนเกือบ 1 แสนคนเข้าร่วม รวมทั้งตลอดสองข้างทางที่ขบวนรถของผู้นำสหรัฐแล่นผ่านก็มีประชาชนนับหมื่นคนยืนรอต้อนรับ

พื้นฐานให้แก่ข้อตกลงสำคัญ

อินเดียเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐในเอเชีย ตามรายงานสถิติล่าสุด เมื่อปี 2019 สหรัฐได้แซงหน้าจีน กลายเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของอินเดีย โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนและการบริการบรรลุ 8 หมื่น 7 พัน 9 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในปีต่อๆไป ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่เข้มแข็งมากขึ้นระหว่างทางการนิวเดลีกับวอชิงตัน

แต่อย่างไรก็ตาม การกระทบกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ได้ทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีประสบความลำบาก โดยความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอินเดียเกิดความตึงเครียดหลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2019 วอชิงตันได้ยุติการให้สิทธิพิเศษด้านการค้าต่ออินเดีย ซึ่งทางอินเดียก็ได้ตอบโต้ด้วยการปรับขึ้นภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐ 28 รายการ

ดังนั้น ในกรอบการเยือนนี้ ผู้นำสหรัฐจึงอยากบรรลุการประนีประนอมกับทางการนิวเดลีผ่านการฟื้นฟูการให้สิทธิพิเศษด้านการค้า โดยจะมุ่งลงนามข้อตกลงขนาดเล็กโดยเจาะเป็นรายกลุ่มผลิตภัณฑ์แทนการทำข้อตกลงขนาดใหญ่ หลังจากลงนามข้อตกลงการค้า “ระยะที่ 1” กับจีน ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังมีพลังขับเคลื่อนมากขึ้นเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้ากับอินเดียก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ณ ประเทศสหรัฐ ประธานาธิบดีสหรัฐได้เผยว่า เขาไม่ทราบว่า ข้อตกลงจะเสร็จสิ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐหรือไม่ แต่สหรัฐจะมีข้อตกลงครั้งใหญ่กับอินเดีย โดยในตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา คณะเจรจาด้านการค้าของทั้งสองประเทศได้ส่งเสริมการพบปะ ณ กรุงวอชิงตัน กรุงนิวเดลีและนครนิวยอร์คเพื่อสามารถมุ่งสู่ข้อตกลงการค้าทวิภาคีสำคัญ

พร้อมกับปัญหาด้านกาค้า เนื้อหาอื่นยังได้รับการกล่าวถึงในกรอบการเยือนอินเดียของประธานาธิบดีสหรัฐ เช่นกลาโหม พลังงาน อุปกรณ์การแพทย์และการเกษตร

ในการพูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเร็วๆนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ และนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ได้เห็นพ้องกันว่า จะผลักดันความสัมพันธ์ห้นส่วนยุทธศาสตร์สหรัฐ-อินเดียให้ลึกซึ้ง เข้มแข็งและยาวนานมากขึ้น และการเยือนอินเดียครั้งนี้ของประธานาธิบดีสหรัฐมีวัตถุประสงค์เพื่อแปรคำยืนยันดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด