สหรัฐเข้าร่วมวิกฤตทางการทูตในเขตอ่าว
Anh Huyen - VOV5 -  
(VOVWORLD) -เมื่อเร็วๆนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศว่า พร้อมที่จะเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยการพิพาทระหว่างบรรดาประเทศในอ่าวเปอร์เซียกับกาตาร์และแสดงความเชื่อมั่นว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงไกล่เกลี่ยได้โดยเร็ว ซึ่งคำถามก็คือทำไมสหรัฐถึงได้ให้ความสนใจหลังเกิดวิกฤตนี้มา 3 เดือนเพราะที่ผ่านมาสหรัฐเพียงแค่เฝ้าดูและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแสวงหามาตรการแก้ไขเท่านั้น
(Photo Internet) |
คำประกาศดังกล่าวของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ได้มีขึ้นในการแถลงข่าวร่วมกับกษัตริย์แห่งคูเวต ซาบาห์ อัล-อาหมัด อัล-จาเบอร์ อัล-ซาบาห์ ณ กรุงวอชิงตันเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสหรัฐพ้อนเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้ทุกฝ่ายบรรลุข้อตกลงโดยเร็วที่สุด ในขณะเดียวกัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังพูดคุยทางโทรศัพท์กับเจ้าชายของซาอุดิอาระเบีย เจ้าชายแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกษัตริย์แห่งกาตาร์ โดยยืนยันถึงความจำเป็นของความสามัคคีภายในกลุ่มประเทศอาหรับที่เป็นหุ้นส่วนของสหรัฐเพื่อเสริมสร้างความมีเสถียรภาพภายในภูมิภาคและต่อต้านภัยคุกคามจากอิหร่าน
ยืนยันอิทธิพลในภูมิภาค
วิกฤตการทูตที่ถือว่ารุนแรงที่สุดในเขตอ่าวระหว่างกาตาร์กับบรรดาประเทศอาหรับที่นำโดยซาอุดิอาระเบียได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน โดย 4 ประเทศในอ่าวเปอร์เซีย ประกอบด้วย ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์และบาห์เรนได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้ากับกาตาร์ พร้อมทั้งปิดล้อมเส้นทางขนส่งทางน้ำ ทางบกและทางอากาศที่ติดกับกาตาร์โดยกล่าวหาว่า กาตาร์สนับสนุนอิหร่านและกลุ่มชาวมุสลิมหัวรุนแรง
ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ประเทศต่างๆ เช่น ตุรกี รัสเซียและคูเวตได้เป็นคนกลางแต่การไกล่เกลี่ยยังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น นักวิเคราะห์เผยว่า การที่สหรัฐประกาศพร้อมที่จะเป็นคนกลางนั้นไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นการกระทำอย่างมีนัยยะ
ผลประโยชน์สำคัญของสหรัฐในอ่าวเปอร์เซียคือ ธำรงการเส้นทางการขนส่งน้ำมันอย่างเสรี สกัดกั้นการโจมตีก่อการร้ายจากภูมิภาคนี้ที่มุ่งเป้าไปยังสหรัฐและพันธมิตรยุโรปและควบคุมไม่ให้อิหร่านเป็นเจ้าอิทธิพลใหญ่ในภูมิภาค นานมาแล้ววอชิงตันมีความประสงค์ว่า จะสามารถจัดตั้งพันธมิตรอาหรับนิกายสุหนี่ที่สามารถควบคุมอิหร่านและต่อต้านลัทธิก่อการร้ายหัวรุนแรง สหรัฐมีฐานทัพในกาตาร์และบาห์เรน ส่วนซาอุดิอาระเบียก็เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ยิ่งไปกว่านั้น สหรัฐมีความประสงค์ว่า ทุกประเทศในอ่าวเปอร์เซียจะกลายเป็นพันธมิตรที่ซื่อสัตย์ของสหรัฐ ดังนั้น การพิพาทและความตึงเครียดในปัจจุบันอาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐในภูมิภาคนี้ แต่อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เกิดวิกฤต สหรัฐกลับมีบทบาทไม่มากในการแก้ไขปัญหาโดยทำแค่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความอดกลั้นและแสวงหามาตรการแก้ไขผ่านการสนทนาเท่านั้น
ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวปราศรัยในการประชุมสุดยอด ณ ซาอุดิอาระเบีย (Photo: Reuters) |
ก้าวเดินที่มีนัยยะ
ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้สหรัฐต้องมีบทบาทมากขึ้นในวิกฤตครั้งนี้คือการเยือนคูเวต สหรัฐ อาหรับเอมิเรตส์และกาตาร์ของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเมื่อเร็วๆนี้ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ได้ยืนยันว่า รัสเซียพร้อมเสนอมาตรการแก้ไขที่ทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ และการปรากฎตัวของรัสเซียในเขตอ่าวทำให้สหรัฐร้อนใจจนไม่อาจนิ่งเฉยอีกต่อไป รวมถึงการที่กาตาร์กำลังแก้ไขการถูกโดดเดี่ยวได้นั้นก็ทำให้สหรัฐต้องเร่งเข้าร่วมการแก้ไขวิกฤตในเขตอ่าว อย่างเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กาตาร์ได้ประกาศใช้ท่าเรือ Hamad เพื่อเพิ่มความสะดวกในการค้าขายกับประเทศต่างๆในทั่วโลก พร้อมทั้งลดแรงกดดันจากคำสั่งคว่ำบาตรของบรรดาประเทศเพื่อบ้าน นอกจากนี้ กาตาร์ ตุรกีและอิหร่านกำลังหารือเกี่ยวกับการใช้ระบบคมนาคมทางบกของอิหร่านเพื่อผลักดันการค้าระหว่างกาตาร์กับประเทศเหล่านี้ หากการหารือเสร็จเรียบร้อย ความสัมพันธ์ระหว่างกาตาร์กับบรรดาประเทศนอกอ่าวเปอร์เซียจะได้รับการขยายกว้างมากขึ้นและการปิดล้อมโดดเดี่ยวกาตาร์ของบรรดาประเทศในอ่าวเปอร์เซียจะไร้ประสิทธิพล
ในความเป็นจริง สหรัฐไม่เคยละเลยความสนใจต่ออ่าวเปอร์เซียและตะวันออกกลาง โดยทำแค่การปรับเปลี่ยนนโยบายตามระยะเท่านั้น และข้อเสนอเกี่ยวกับการเป็นคนกลางของสหรัฐที่ได้รับการประเมินว่าถูกจังหวะก็เพื่อแข่งขันด้านอิทธิพลกับรัสเซียและส่งเสริมบทบาทของตนในตะวันออกกลาง แต่แผนการนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่หลายปัจจัย เขตอ่าวกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องรับมือกับความขัดแย้งและการปะทะต่างๆ ดังนั้นแม้ยังมีเจตนาเพื่อสร้างผลประโยชน์แต่การเป็นคนกลางของสหรัฐก็ยังคงได้รับคำชื่นชมจากประชามติโลกโดยหวังว่า จะสามารถสร้างก้าวกระโดดใหม่เพื่อแก้ไขวิกฤตในอ่าวเปอร์เซียที่นับวันทวีความรุนแรงมากขึ้น.
Anh Huyen - VOV5