สหรัฐเสริมสร้างฐานะทางยุทธศาสตร์ของตนในทวีปแอฟริกา
Huyen – VOV5 -  
( VOVworld )-รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐนางฮีลลารี คลินตั้นกำลังอยู่ในระหว่างการเยือน ๖ ประเทศแอฟริกา ซึ่งเหตุการณ์นี้มีขึ้นภายหลังรัฐบาลของประธานาธิบดี บารัค โอบามาประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ต่อเขตภาคใต้ของทะเลทราย ซาฮารา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นับเป็นการเยือนเพื่อปฏิบัติตามพันธกรณีของรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับการระบุแอฟริกาในนโยบายต่างประเทศที่ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ
( VOVworld )- รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐนางฮีลลารี คลินตั้นกำลังอยู่ในระหว่างการเยือน ๖ ประเทศแอฟริกา ซึ่งเหตุการณ์นี้มีขึ้นภายหลังรัฐบาลของประธานาธิบดี บารัค โอบามาประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ต่อเขตภาคใต้ของทะเลทราย ซาฮารา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นับเป็นการเยือนเพื่อปฏิบัติตามพันธกรณีของรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับการระบุแอฟริกาในนโยบายต่างประเทศที่ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ
|
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐนางฮีลลารี คลินตั้นเยือน ๖ ประเทศแอฟริกา
|
การเยือน ๖ ประเทศแอฟริกาเป็นเวลา ๑๑ วันโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๓๑ กรกฎาคมที่ผ่านมาของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐนางฮีลลารี คลินตั้นได้สะท้อนให้เห็นนโยบายต่างประเทศของสหรัฐที่มีก้าวเดินเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและชาญฉลาด โดยเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่สำหรับแอฟริกา ซึ่งประกอบด้วยเสาหลัก ๔ ประเด็นได้แก่ การเสริมสร้างระบอบประชาธิปไตย การผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงและประเด็นสุดท้ายคือการส่งเสริมเพื่อการพัฒนา นับเป็นการยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นสัญญาของสหรัฐเกี่ยวกับการสร้างอิทธิพลอย่างแข็งขันของสหรัฐในทวีปนี้ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขึ้นดำรงตำแหน่ง
ตามกำหนดการ ณ ประเทศเซเนกัล นางฮีลลารี คลินตั้น จะกล่าวสุนทรพจน์ ณ มหาวิทยาลัย เชอิค อันตา ดีออฟ ในนครหลวงดาคาร์ ต่อจากนั้นจะเข้าพบประธานาธิบดี แมคกี ซอลล์เพื่อยืนยันถึงพันธกรณีว่า วอชิงตันถือเซเนกัลเป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือที่สุดของสหรัฐในประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสในแอฟริกา ต่อจากเซเนกัน คือซูดานใต้ โดยนางฮีลลารี คลินตั้น จะมีการเจรจากับนายซัลวาร์ คีร์ ประธานาธิบดี เพื่อยืนยันการสนับสนุนของสหรัฐต่อประเทศนี้ และเร่งรัดกระบวนการเจรจากับซูดานเพื่อนำไปสู่ข้อตกลงในปัญหาที่เกี่ยวกับความมั่นคง ปีโตรเลียมและสิทธิของพลเมืองระหว่างสองประเทศ วันที่ ๑๐ เดือนนี้ คือก่อนกำหนดการเดินทางกลับประเทศ ๑ วัน นางฮีลลารี คลินตั้น จะไปเยือนยูกันดาและมีการเจรจากับประธานาธิบดี โยเวรี มูเซเวนนีเพื่อหารือถึงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบล่า ในประเทศนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ๑๔ คน ณ ประเทศเคนย่า รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นางฮีลลารี คลินตั้น จะมีการเจรจากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศนี้เพื่อย้ำถึงการที่สหรัฐสนับสนุนกระบวนการถ่ายโอนอำนาจทางการเมืองในโซมาเลียให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๒๐ เดือนนี้ ต่อจากการเยือนมาลาวี นางฮีลลารี คลินตั้น พร้อมด้วยคณะผู้ประกอบการสหรัฐอเมริกาจะเดินทางไปเยือนแอฟริกาใต้เพื่อเข้าร่วมการเจรจาทางยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐกับแอฟริกาใต้เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างสองประเทศ
ถึงแม้ประเด็นหลักของการเยือนแอฟริกาครั้งนี้ของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นางฮีลลารี คลินตั้น คือ ประชาธิปไตย การขยายตัวทางเศรษฐกิจ สันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค แต่วงการนักวิเคราะห์เห็นว่า การเยือนครั้งนี้มีนัยหลายประเด็น ซึ่งก่อนอื่นคือ ด้านภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทวีปแอฟริกามีพื้นที่กว่า ๓๐ ล้านตารางกิโลเมตรซึ่งเป็นหนึ่งใน ๕ ของพื้นที่โลก มีชื่อเสียงเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะโลหะที่หายากและน้ำมันดิบ หลายปีที่ผ่านมา แอฟริกาได้ถูกระบุในแผนที่โลกว่า เป็นทวีปที่มีบทบาทสำคัญในด้านพลังงานปีโตรเลี่ยมเนื่องจากสำรวจพบบ่อน้ำมันใหม่ๆหลายแห่ง ณ บริเวณอ่าว กินี นอกจากนี้ แอฟริกายังอุดมไปด้วยทรัพยากรเหมืองแร่ มีพื้นที่เพาะปลูกที่อุดมสมบูรณ์และป่าทึบอันกว้างใหญ่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรและของป่าที่มีชื่อเสียงให้แก่ตลาดโลก นี่นับเป็นสาเหตุที่ทำให้ทวีปแอฟริกานอกจากจะเข้าตาประเทศมหาอำนาจเจ้าเมืองขึ้นเก่าแล้วก็ยังเข้าตานักยุทธศาสตร์ปัจจุบันอีกด้วย ซึ่งถือทวีปนี้เป็น “ วิมานดิน ” ด้วยเหตุนี้ การเยือน ๖ ประเทศในแอฟริกาครั้งนี้ของ นางฮีลลารี คลินตั้น ก็เพื่อยืนยันถึงแผนการของสหรัฐว่า ทวีปนี้จะต้องได้รับอิทธิพลของสหรัฐที่ต้องได้รับการยืนยันต่อมประเทศหาอำนาจต่างๆ โดยเฉพาะจีน ซึ่งการเยือนนี้มีขึ้นหลังจากที่จีนจัดการประชุมรัฐมนตรีครั้งที่ ๕ ฟอรั่มความร่วมมือระหว่างจีนกับแอฟริกาหรือเอฟโอซีเอซี ณ กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคมที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ โดยจีนสามารถตั้งเป้าเกี่ยวกับความตั้งใจอันแน่วแน่ในการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ใหม่กับทวีปนี้ การเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างมั่นคง
จากสถานการณ์ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ในสมัยของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยูบุชเน้นในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายในอิรัคและอัฟกานีสถานจึงไม่เล็งเห็นผลประโยชน์จากทวีปนี้ แต่จีนกลับสามารถสร้างบทบาทของตนในทวีปนี้ได้อย่างมั่นคง โดยจีนเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในหลายประเทศในแถบนี้ หลายปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับแอฟริการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จีนได้เทเงินเข้าทวีปนี้อย่างมหาศาลเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพลังงาน วัตถุดิบและงานทำ นักลงทุนจากกรุงปักกิ่งได้ขยายการก่อสร้างโรงงาน ทำเหมือง ก่อสร้างถนนหนทาง เขื่อนและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆอีกมากมาย จีนยังให้สิทธิพิเศษแก่แอฟริกาไม่ว่าจะเป็นการเปิดตลาดสินค้า เพิ่มรายการสิ้นค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีจาก ๑๙๐ รายการเป็น๔๔๐ รายการให้แก่ ๒๗ ประเทศที่กำลังพัฒนาของทวีปนี้ พร้อมทั้งประกาศยกเลิกหนี้ให้แก่ ๓๒ ประเทศแอฟริกาด้วย ในการประชุมรัฐมนตรีเมื่อเร็วๆนี้ จีนได้ให้สัญญาจะจัดสินเชื่อประมาณ ๒ หมื่นล้านเหรียญสหรัฐให้แก่แถบนี้ภายใน ๓ ปีที่จะถึง
ทั้งนี้เป็นสาเหตุให้รัฐบาลของประธานาธิบดี บารัค โอบามาต้องเร่งรีบในการแข่งขันที่สำคัญนี้ โดยกระทรวงพลังงานของสหรัฐได้ให้พันธกรณีว่า ภายในปี ๒๐๒๐ แต่ละปีสหรัฐจะนำเข้าน้ำมันดิบของแอฟริการกว่า ๗๗๐ ล้านบาเรล ส่วนสภาข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐได้คำนวนว่า ปี ๒๐๑๕ สหรัฐจะนำเข้าน้ำมันจากแอฟริกาเป็นร้อยละ ๒๕ ของจำนวนน้ำมันนำเข้าทั้งหมดของสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันการนำเข้าของสหรัฐคิดเป็นเพียงร้อยละ ๑๕ เท่านั้น กระแสประชามติให้ความเห็นว่า การเยือนแอฟริกาของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐนางฮีลลารี คลินตั้น ก็เพื่อขยายความสัมพันธ์และอิทธิพลของสหรัฐต่อประเทศพันธมิตรของตนในทวีปนี้ จากนั้นจะจัดตั้งพันธมิตรใหม่เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของทวีปนี้ ./.
Huyen – VOV5