สหรัฐไม่ได้รับการสนับสนุนการฟื้นฟูคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่าน

(VOVWORLD) - ในช่วงนี้ นอกจากประชามติจะให้ความสนใจต่อเรื่องศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังเข้มข้นแล้ว ก็ยังมีเรื่องท่าทีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่นการสร้างสรรค์สันติภาพระหว่างอิสราเอลกับ ประเทศอาหรับ และการฟื้นฟูคำสั่งคว่ำบาตรต่ออิหร่านที่เกี่ยวข้องถึงปัญหานิวเคลียร์ ซึ่งความพยายามฟื้นฟูคำสั่งคว่ำบาตรต่ออิหร่านของสหรัฐแสดงให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวของสหรัฐที่กำลังถูกคัดค้านอย่างรุนแรงจากประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง
สหรัฐไม่ได้รับการสนับสนุนการฟื้นฟูคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่าน - ảnh 1นาย โดนัลด์  ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ (AFP) 

เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ นาย ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่ออิหร่านได้กลับมามีผลบังคับใช้และสหรัฐจะใช้มาตรการคว่ำบาตรถึงแม้ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติจะไม่ปฏิบัติตามนั้นก็ตาม ในคำประกาศอย่างเป็นทางการ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้ย้ำว่า ถ้าหากประเทศสมาชิกของสหประชาชาติไม่มีคำมั่นเกี่ยวกับการปฏิบัติมาตรการคว่ำบาตรนี้ สหรัฐก็จะใช้ทางการภายในประเทศเพื่อก่อผลร้ายจากความล้มเหลวเหล่านั้นและค้ำประกันว่าอิหร่านจะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลยจากกิจกรรมต่างๆที่สหประชาชาติสั่งห้าม แต่อย่างไรก็ตาม ความพยายามฝ่ายเดียวของสหรัฐกำลังถูกคัดค้านอย่างหนักจากหลายประเทศ รวมทั้งพันธมิตรของสหรัฐ

หลายประเทศคัดค้านสหรัฐที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง

หลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่ออิหร่านไม่กี่ชั่วโมง เมื่อวันที่ 20 กันยายน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ประกาศคัดค้านอย่างเข้มแข็ง โดยแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า “สหรัฐสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ประชาคมโลกอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการคาดเดาเกี่ยวกับการเสร็จสิ้นขั้นตอนต่างๆในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อฟื้นฟูมติคว่ำบาตรฉบับต่างๆของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต่ออิหร่านซึ่งถูกยกเลิกเมื่อปี 2015 หลังจากลงนามข้อตกลงเจซีพีโอเอเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน”

ในวันเดียวกัน ตัวแทนระดับสูงของสหภาพยุโรปหรือ EU เกี่ยวกับนโยบายความมั่นคงด้านการต่างประเทศ Jossep Borreli ได้ปฏิเสธคำประกาศเพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐเกี่ยวกับการฟื้นฟูการใช้คำสั่งคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่ออิหร่าน อีกทั้งย้ำว่า สหรัฐได้ถอนตัวออกจากข้อตกลงอิหร่านเมื่อปี 2018 ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิ์ฟื้นฟูคำสั่งคว่ำบาตรตามมติ 2231 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ คำมั่นเกี่ยวกับการยกเลิกการคว่ำบาตรในข้อตกลงเจซีพีโอเอยังมีผลบังคับใช้และ EU จะค้ำประกันการธำรงและปฏิบัติเจซีพีโอเอของอิหร่านและทุกฝ่ายที่เข้าร่วม ตัวแทนระดับสูงของ EU ยืนยันว่า เจซีพีโอเอคือเสาหลักของโครงสร้างไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์ในทั่วโลกและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงต่อไปและใช้ความอดกลั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อน

ในขณะเดียวกัน นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้ประกาศว่า ยังไม่มีปฏิบัติการใดๆเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านเนื่องจาก “ไม่มีความแน่นอน” ที่เกี่ยวข้องถึงปัญหานี้

สหรัฐไม่ได้รับการสนับสนุนการฟื้นฟูคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่าน - ảnh 2ตัวแทนระดับสูงของสหภาพยุโรปหรือ EU เกี่ยวกับนโยบายความมั่นคงด้านการต่างประเทศ Jossep Borreli (AFP) 

ความพยายามที่ยากจะประสบความสำเร็จได้และผลลัพท์ที่อันตราย

ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ ด้วยท่าทีที่เข้มแข็งจากประชาคมโลก รวมทั้งพันธมิตรของสหรัฐ   เช่น  ประเทศสมาชิกอียู ทางการสหรัฐกำลังทำให้ตัวเองตกอยู่ในที่นั่งลำบากในความพยายามฟื้นฟูคำสั่งคว่ำบาตรต่ออิหร่าน เนื่องจากการฟื้นฟูมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติต่ออิหร่านก็หมายความว่าเป็นการยุติข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่ลงนามเมื่อปี 2015 และความพยายามของนานาชาติในหลายปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่รัสเซียและจีน หากประเทศยุโรปส่วนใหญ่ก็จะคัดค้านก้าวเดินนี้ด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม จากการที่สหรัฐประกาศจะคว่ำบาตรประเทศต่างๆที่ไม่บังคับใช้การฟื้นฟูมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ได้ทำให้พันธมิตรของสหรัฐกำลังตกอยู่ในท่าแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะเลือกสหรัฐหรือเลือกข้อตกลงเจซีพีโอเอ  ในสถานการณ์นี้ มาตรการที่ดีที่สุดที่บรรดานักวิเคราะห์ได้เสนอคือทุกฝ่ายต้องธำรงการเจรจากับอิหร่านไปจนกว่าจะจบสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ด้วยความหวังว่า ยุทธศาสตร์ของวอชิงตันเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านจะเปลี่ยนแปลงตามแนวทางที่เป็นผลดีต่อข้อตกลงเจซีพีโอเอซึ่งผู้ลงสมัครจากพรรคเดโมแครตต้องได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ปัญหานี้จะซับซ้อนมากขึ้นเมื่อพันธมิตรยุโรปของสหรัฐต้องเลือกระหว่างการปฏิบัติตามความตั้งใจของสหรัฐ หรือต้องยอมเสียสละความสัมพันธ์กับสหรัฐเพื่อธำรงข้อตกลงนิวเคลียร์ต่อไป  สำหรับกรณีนี้ ไม่มีสิ่งใดที่ค้ำประกันได้ว่า ข้อตกลงเจซีพีโอเอจะได้รับการธำรงค์  และยังคาดการณ์กันว่าผลที่ตามมาจะร้ายแรงมากและยากที่จะจินตนาการได้./.  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด