สาส์นของนายกรัฐมนตรีต่อผู้ประกอบการและแรงงาน

(VOVworld) – เมื่อเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้มีการสนทนาโดยตรงกับผู้ประกอบการและมีการพบปะ กับกรรมกรและแรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรม ณ ๘จังหวัดและนครในภาคใต้เวียดนาม โดยสาส์นที่นายกรัฐมนตรีส่งถึงทุกคนในโอกาสนี้คือการให้ความสำคัญต่อผู้ ประกอบการและกรรมกร อำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาของสถานประกอบการและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ของแรงงานให้ดีขึ้นเพื่อสามารถผสมผสานเข้ากับกระแสโลกได้อย่างมั่นคง
(VOVworld) – เมื่อเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้มีการสนทนาโดยตรงกับผู้ประกอบการและมีการพบปะกับกรรมกรและแรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรม ณ ๘จังหวัดและนครในภาคใต้เวียดนาม โดยสาส์นที่นายกรัฐมนตรีส่งถึงทุกคนในโอกาสนี้คือการให้ความสำคัญต่อผู้ประกอบการและกรรมกร อำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาของสถานประกอบการและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานให้ดีขึ้นเพื่อสามารถผสมผสานเข้ากับกระแสโลกได้อย่างมั่นคง
สาส์นของนายกรัฐมนตรีต่อผู้ประกอบการและแรงงาน - ảnh 1
สนทนาโดยตรงกับแรงงาน (Photo VNplus)
นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้เริ่มภารกิจของผู้นำรัฐบาลด้วยกิจกรรมที่สำคัญคือพบปะกับผู้ประกอบการทั้งภายในและต่างประเทศ 1 พันคน ณ นครโฮจิมินห์เมื่อวันที่ 29 เมษายนเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะของพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา เปิดเผยและจริงจัง รวมทั้งได้มีการพบปะกับแรงงานกว่า 3 พันคน ณ จังหวัดด่งนายเพื่อรับฟังความปรารถนาอันชอบธรรมของชนชั้นกรรมกร
การชี้นำอย่างเด็ดขาด
โดยเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการพัฒนาในสภาวการณ์ปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีได้แสดงให้เห็นถึงการชี้นำอย่างเคร่งครัดในกระบวนการปฏิบัติและได้ระบุอย่างชัดเจนว่า “ผลการประชุมจะต้องช่วยให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อระบบราชการภาครัฐ สร้างความไว้วางใจต่อสังคม การสร้างตลาดใหม่และต่อระบอบการเมืองที่ดีเพื่อให้ทุกคนมีความมั่นใจในการผลิตและประกอบธุรกิจมากขึ้นและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างมั่นคงยิ่งขึ้น”
ในการสนทนาครั้งนี้ ผู้ประกอบการได้ยื่นข้อเสนอต่างๆเกี่ยวกับการปรับปรุงนโยบายและกฎหมาย เช่น ยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับหน่วยงานขายปลีกเวียดนาม ความเสมอภาคระหว่างสถานประกอบการ การผลักดันการปฏิรูประเบียบราชการ การฝึกอบรมแหล่งบุคลากร ปัญหาต่างๆของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแสวงหาแนวทางแก้ไข ซึ่งถ้าหากระเบียบการและเอกสารกฎหมายใดที่ไม่จำเป็นและสร้างอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการและการพัฒนาของเศรษฐกิจก็ต้องยกเลิก “ผู้ประกอบการเป็นคนเข้าใจอย่างท่องแท้เกี่ยวกับอุปสรรคของระบบเศรษฐกิจ ส่วนรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนให้สถานประกอบการพัฒนาได้ดีที่สุด ดังนั้นต้องรับฟังความคิดเห็นและตระหนักได้ดีเกี่ยวกับอุปสรรคที่สถานประกอบการประสบถึงจะแก้ไขและสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่สะดวกได้"
สาส์นของนายกรัฐมนตรีต่อผู้ประกอบการและแรงงาน - ảnh 2
มอบหนังสือชมเชยให้แก่แรงงานดีเด่น (Photo VNplus)
ให้ความสำคัญต่อผู้ประกอบการและแรงงาน
ในการพบปะดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการสดุดีสถานประกอบการและนักธุรกิจ โดยยืนยันว่า สถานประกอบการภาคเอกชนต้องกลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งทัศนะนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการ นางด่าวถิเกี๊ยม รองผู้อำนวยการบริษัทเหล็กกล้าตว่านทั้ง ผู้ที่เข้าร่วมการพบปะกับนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กที่หอประชุมเอกภาพในนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า “รัฐบาลได้มีแนวทางมาตรการแก้ไขและการปฏิรูปต่างๆเพื่อให้การช่วยเหลือสถานประกอบการมาก ซึ่งดิฉันเห็นด้วยและรอนโยบายใหม่นี้เพื่อให้สถานประกอบการสามารถผสมผสานเข้ากับกระแสโลก”
ส่วนในการพบปะกับกรรมกรและแรงงานภาคใต้ 3 พันคน ณ จังหวัดด่งนาย นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามต่างๆเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มเงินเดือน นโยบายสนับสนุนด้านที่อยู่อาศัย การประกันสังคมและความปลอดภัยในการทำงาน นโยบายให้สิทธิพิเศษในการสอนอาชีพให้แก่กรรมกร เป็นต้น นายกรัฐมนตรีได้เผยว่า พรรคและรัฐให้การดูแลเอาใจใส่ต่อกรรมกรและแรงงานอย่างใกล้ชิดและจะปฏิบัตินโยบายต่างๆเพื่อช่วยให้ชนชั้นกรรมกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุกด้าน พร้อมทั้งย้ำเป็นพิเศษถึงการศึกษาและฝึกฝนหล่อหลอมตนเองเพื่อยกระดับฝีมือแรงงานในยุคแห่งการผสมผสานปัจจุบัน นายเหงียนดึ๊กซวนมิงห์เหญิด พนักงานของบริษัดซ้างเหวียดจำกัดในจังหวัดลองอานแสดงความเห็นด้วยกับสาส์นนี้ของนายกรัฐมนตรีว่า “นายกรัฐมนตรีพูดถูกแล้ว เราต้องพยายามพึ่งตนเองก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากรัฐ เพราะถ้าหากเราทำงานมีประสิทธิภาพก็จะช่วยให้บริษัทพัฒนาและผลที่ได้คือเราจะมีเงินเดือนสูงขึ้น”
หลังการพบปะกับผู้ประกอบการและแรงงาน นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์แห่งการยืนหยัดในการปฏิบัติของรัฐบาลเพื่อสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่สะดวกให้แก่สถานประกอบการ พร้อมทั้งยืนยันว่า ควบคู่กับการพัฒนาของสถานประกอบการ สำนักงานและหน่วยงานทุกระดับต้องขยายการสร้างสรรค์และพัฒนาชนชั้นกรรมกรและแรงงานต่อไปเพื่อช่วยให้พวกเขามีบทบาทของผู้ที่เป็นเจ้าของประเทศของตนอย่างแท้จริงมากขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด