สาส์นและความท้าทายต่างๆในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
Vân -  
(VOVWORLD) - วันที่ 24สิงหาคม ซึ่งหลังการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตไม่กี่วัน ได้มีการจัดการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกำลังย่างเข้าสู่ช่วงที่ดุเดือดและฝ่ายต่างๆก็ได้นำเสนอแนวทางนโยบายที่ชัดเจนเพื่อแก้ไขความท้าทายต่างๆของสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เป็นจริงสะท้อนให้เห็นว่า ความท้าทายของผู้ที่เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐนั้นมีเท่าๆกัน ซึ่งทำให้ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเวลาต่อไปยิ่งมีความดุเดือดเป็นอย่างมาก
นาย โจ ไบเดนและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (charlotteobserver.com) |
ในตลอด 10สัปดาห์สุดท้ายของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง การประชุมใหญ่ของทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันถือเป็นโอกาสที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนำเสนอแนวทางและนโยบายต่างๆให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้รับทราบ
สาส์นเกี่ยวกับประชาธิปไตยและผลประโยชน์เพื่อสหรัฐ
การประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตได้นำเสนอนโยบาย 4ข้อ ประกอบด้วย เพื่อประชาชน วิสัยทัศน์ของผู้นำ ประชาธิปไตยและความสามัคคี โดยในบทปราศรัยเข้ารับการเสนอชื่อเมื่อค่ำวันที่ 21สิงหาคม นาย โจ ไบเดน ได้ชี้ชัดถึงจุดยืนที่ส่งถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอเมริกันคือระบอบประชาธิปไตยภายใต้การนำของพรรคเดโมแครต ความสามัคคีและมุ่งสู่อนาคต และก่อนหน้านั้น นาย โจ ไบเดน ได้เผยว่า ถ้าหากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ตัวเขาจะเป็นประธานาธิบดีที่สนับสนุนผู้ใช้แรงงานที่มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประเทศสหรัฐและปกป้องคุณค่าที่ช่วยสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในสหรัฐซึ่งการประกาศสนับสนุนผู้ใช้แรงงานเป็นคำมั่นที่สำคัญที่พรรคเดโมแครตและนายโจ ไบเดนตั้งใจสะท้อนอย่างชัดเจนในการประชุมใหญ่พรรค เช่นเดียวกับคำมั่นเกี่ยวกับการปกป้องคุณค่าที่สามารถแก้ไขปัญหาความแตกแยกของประชาชาติก็ถูกระบุในบทปราศรัยของสมาชิกพรรคเดโมแครตที่เป็นตัวแทนของกลุ่มต่างๆในสังคม
ส่วนทางฝ่ายพรรครีพับลิกันนั้น แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่มีการกล่าวปราศรัยเข้ารับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 27สิงหาคม แต่เมื่อค่ำวันที่ 23สิงหาคม ทีมหาเสียงเลือกตั้งของเขาก็ได้เปิดตัวนโยบายในวาระที่2 ของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ในหัวข้อ “สู้เพื่อชาวอเมริกัน” โดยระบุถึงประเด็นที่จะให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการดำรงตำแหน่งวาระที่สองที่ถูกมองว่า เป็นนโยบายที่ตรงข้ามกับสิ่งที่พรรคเดโมแครตและนายโจไบเดนได้พยายามโจมตีนาย โดนัลด์ ทรัมป์ว่า จะทำให้อนาคตของสหรัฐมีแต่ความมืดมน โดยตามแนวทางนี้ นาย โดนัลด์ ทรัมป์จะมุ่งขจัดโรคโควิด-19 สร้างงานทำ ยุติการพึ่งพาจีน ปรับลดราคายารักษาโรค ปกป้องตำรวจและผลักดันการขยายสิทธิการเลือกโรงเรียนของเด็ก โดยแผนงานในวาระที่2 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์เน้นให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามสัญญาที่เคยให้ไว้แทนการนำเสนอนโยบายใหม่ที่อาจจะไม่สามารถโน้มน้าวกลุ่มที่ให้การสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งก่อนและการถูกตำหนิจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน
นาย โจ ไบเดน ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2020 (AP) |
ความท้าทายที่ยากจะแก้ไข
จนถึงเช้าวันที่ 26 สิงหาคม สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มากที่สุด โดยมีผู้ติดเชื้อเกือบ6 ล้านรายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 182,000 ราย ซึ่งการแพร่ระบาดได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของทั้งสองฝ่ายเพราะถึงแม้ทั้งนายโจไบเดนและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่างได้ยืนยันว่า จะพยายามลดอัตราคนว่างงาน ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ใช้แรงงานและขจัดโรคโควิด-19 แต่ภารกิจเหล่านี้เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ไม่ง่ายนัก
รายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ที่ประกาศเมื่อวันที่ 17กรกฎาคมที่ผ่านมาปรากฎว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในไตรมาสที่ 2 ได้ลดลงร้อยละ 37เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และในปี2020 จะลดลงร้อยละ6.6 โดยการแพร่ระบาดได้ยุติระยะเวลาของการขยายตัวต่อเนื่องทางเศรษฐกิจที่ยาวนานที่สุดของสหรัฐและเป็นภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดของเศรษฐกิจสหรัฐปัจจุบัน โดยสะท้อนให้เห็นจากอัตราคนว่างงานที่เพิ่มขึ้นและปัญหาธุรกิจขาดทุนของสถานประกอบการขนาดเล็ก ส่วนรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาปรากฎว่า การสร้างงานใหม่ในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 1.8ล้านตำแหน่ง ลดลงเมื่อเทียบกับ4.8 ล้านตำแหน่งในเดือนมิถุนายน และ 2.7 ล้านตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อการรับสมัครงานและการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐ
ช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้งอีกกว่า2 เดือนต่อจากนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเพื่อให้ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเร่งแสวงหาการสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่จากนโยบายต่างๆที่นำเสนอในการหาเสียงเลือกตั้งจนถึงการปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อนำประเทศสหรัฐหลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาด้านสาธารณสุขนั้นจะเป็นความท้าทายที่ปฏิบัติได้ไม่ง่ายนัก.
Vân