นาง เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ (VNA)

การลงคะแนนไว้วางใจต่อนาง เทเรซา เมย์ มีขึ้นหลังจากที่เธอตัดสินใจเลื่อนการลงคะแนนผ่านความเห็นชอบข้อตกลง Brexit ในสภาล่างเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมออกไปเพราะอาจประสบความล้มเหลวเนื่องจากมีส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยม กว่า 100 นาย จากจำนวนทั้งหมด 317 นายยืนยันว่า จะลงคะแนนคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่า ข้อตกลงนี้จะทำให้อังกฤษต้องผูกมัดกับอียูโดยตลอดและไม่มีสิทธิ์เสรีในการเจรจาข้อตกลงการค้ากับหุ้นส่วนอื่นๆนอกเหนือจากอียูหลังกระบวนการ Brexit

ฟันฝ่าอุปสรรคภายในประเทศ

ในสภาวการณ์ที่เวทีการเมืองอังกฤษกำลังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับร่างข้อตกลง Brexit ที่อังกฤษและอียูได้บรรลุเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน การที่ส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยมร้อยละ 63 สนับสนุนนาง เทเรซา เมย์ ให้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษต่อไปแสดงให้เห็นถึงความประสงค์ให้ นาง เทเรซา เมย์ ผลักดันกระบวนการ Brexit  ต่อไป ซึ่งถือเป็นการให้กำลังใจไม่น้อยต่อนาง เทเรซา เมย์ ก่อนการพบปะกับสภายุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมเพื่อแสวงหาการสนับสนุนต่อการปรับปรุงข้อกำหนดบางข้อของร่างข้อตกลงเกี่ยวกับกระบวนการ Brexit โดยผู้สนับสนุนนาง เทเรซา เมย์ ได้ชื่นชมผลการลงคะแนนไว้วางใจว่าเป็นชัยชนะที่สำคัญในช่วงที่นาง เทเรซา เมย์ ประสบความลำบาก พร้อมทั้งเรียกร้องให้สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมสามัคคีกันและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของนาง เทเรซา เมย์

แต่ในทางกลับกัน การที่มีส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยม 1 ใน 3 ลงคะแนนไม่ไว้วางใจนาง เทเรซา เมย์ แสดงให้เห้นถึงความแตกแยกระหว่างสมาชิกพรรคเกี่ยวกับกระบวนการ Brexit โดยในการกล่าวปราศรัยหลังการประกาศผลการลงคะแนน นาง เทเรซา เมย์ได้เผยว่า จะผลักดันกระบวนการ Brexit ตามความปรารถนาของประชาชน แต่ในขณะเดียวกันก็พร้อมรับฟังความคิดเห็นของส.ส.ที่คัดค้านกระบวนการดังกล่าว

ต้องเผชิญกับความลำบากของกระบวนการ Brexit ต่อไป

การที่นาง เทเรซา เมย์ ได้ผ่านการลงคะแนนไว้วางใจของสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมไม่ได้หมายความว่า นางเทเรซา เมย์ จะสามารถแก้ไขความท้าทายของการส่งเสริมการอนุมัติข้อตกลง Brexit ในสภาล่างได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าหากนาง เทเรซา เมย์ ไม่ได้รับสัญญาประนีประนอมหลังการพบปะกับผู้นำยุโรปตั้งแต่บัดนี้จนถึงปลายสัปดาห์ ก็มีโอกาสน้อยที่ข้อตกลง Brexit จะได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนข้างมากในการประชุมสภาล่างอังกฤษหลังเทศกาลคริสต์มาส

ถึงแม้นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะยืนยันว่า  กำลังบรรลุความคืบหน้าในการเจรจากับบรรดาผู้นำยุโรป แต่ดูเหมือนว่า การปรับปรุงอาจไม่ได้มีนัยยะสำคัญเมื่อเทียบกับร่างข้อตกลงเกี่ยวกับกระบวนการ Brexit ซึ่งผลการเยือนประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมนีและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ของนาง เทเรซา เมย์ ก่อนการประชุมกับสภายุโรปก็ถือเป็นการยืนยันการพยากรณ์ดังกล่าว โดยถึงแม้การพบปะระหว่าง นางเทเรซา เมย์ กับนาย มาร์ค รูทท์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ได้รับการประเมินว่า เป็นประโยชน์มาก แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาใหม่ใดๆ ส่วนในกรอบการเยือนประเทศเยอรมนี นาง อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ย้ำว่า ทุกความตกลงเกี่ยวกับกระบวนการ Brexit อียูจะเป็นผู้ลงนามกับอังกฤษ มิใช่การลงนามข้อตกลงทวิภาคีระหว่างอังกฤษกับประเทศสมาชิกอียู พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาข้อตกลงที่อังกฤษและอียูได้ลงนามเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน

 ก่อนหน้านั้น นาง Mina Andreeva  โฆษกของคณะกรรมการยุโรปได้เผยว่า อียูจะไม่เจรจาข้อตกลง Brexit อีกครั้ง พร้อมทั้งย้ำว่า ข้อตกลงกับอังกฤษคือข้อตกลงที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว

ทั้งนี้ ดูเหมือนว่า นาง เทเรซา เมย์ ให้ความสนใจต่อแผนการสำรองสำหรับปัญหาของไอร์แลนด์ ซึ่งถูกคัดค้านจากบรรดาส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยมที่สนับสนุนการกำหนดเขตพรมแดนถาวรระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์และยากที่จะโน้มน้าวให้อียูยอมประนีประนอมในปัญหาดังกล่าวในการประชุมวันที่ 13 ธันวาคม ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างข้อตกลงเกี่ยวกับกระบวนการ Brexit ยากที่จะได้รับการอนุมัติในสภาล่างอังกฤษก่อนวันที่ 21 มกราคมปี 2019 และทำให้กระบวนการ Brexit ต้องประสบภาวะชงักงันต่อไป.