หน้าใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับคิวบา

(VOVworld) – ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับคิวบากำลังมีก้าวเดินที่น่ายินดีเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตที่ถูกชงักงันตั้งแต่ปี 1961 ให้สมบูรณ์ หลังการจับมือกันครั้งประวัติศาสตร์ในพิธีศพของท่านเนลสัน แมนเดลา  อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้เมื่อเดือนธันวาคมปี 2013 การพบปะของผู้นำสหรัฐและคิวบาในการประชุมสุดยอดผู้นำแห่งทวีปอเมริกาครั้งที่ 7 ณ ประเทศปานามาเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นสัญลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความหมายและแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเปิดระยะใหม่แห่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

(VOVworld) – ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับคิวบากำลังมีก้าวเดินที่น่ายินดีเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตที่ถูกชงักงันตั้งแต่ปี 1961 ให้สมบูรณ์ หลังการจับมือกันครั้งประวัติศาสตร์ในพิธีศพของท่านเนลสัน แมนเดลา  อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้เมื่อเดือนธันวาคมปี 2013 การพบปะของผู้นำสหรัฐและคิวบาในการประชุมสุดยอดผู้นำแห่งทวีปอเมริกาครั้งที่ 7 ณ ประเทศปานามาเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นสัญลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความหมายและแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเปิดระยะใหม่แห่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

หน้าใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับคิวบา - ảnh 1
การพบปะครั้งประวัติศาสตร์ ( Photo AFP)
เมื่อวันที่ 11 เมษายน ภายใต้การเป็นสักขีพยานของนายบันคีมูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติและผู้นำประเทศต่างๆแถบลาตินอเมริกา นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐและนาย ราอูล คาสโตร ประธานประเทศคิวบาได้จับมือกันและมีการหารืออย่างสั้นๆก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแห่งทวีปอเมริกาครั้งที่ 7 นี่คือการพบปะอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างทางการวอชิงตันกับทางการฮาวานา
การพบปะครั้งประวัติศาสตร์
ก่อนการพบปะครั้งนี้ ทั้งวอชิงตันและฮาวานาต่างแสดงท่าทีว่า พร้อมที่จะหารือทุกปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่บนเจตนารมณ์แห่งการเคารพความแตกต่าง มีความอดทนและมีเจตนาที่ดี ในการเจรจาทางโทรศัพท์ก่อนที่จะเดินทางไปยังประเทศปานามา นาย ราอูล คาสโตร ประธานประเทศคิวบาได้ยืนยันว่า พร้อมที่จะหารือถึงปัญหาที่ยังถกเถียงกัน รวมทั้งปัญหาสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของสื่อมวลชน ส่วนนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐยืนยันว่า หน้าใหม่แห่งความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับประเทศเพื่อนบ้านคิวบาได้เปิดขึ้นแล้วและช่วงเวลาที่สหรัฐสามารถแทรกแซงภูมิภาคนี้อย่างสะดวกถือเป็นอดีตไปแล้ว และแม้ได้ยอมรับว่า ยังมีความขัดแย้งกันอย่างมากมายและการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตให้เป็นปกติจะต้องใช้เวลานานแต่ผู้นำทั้งสองท่านต่างย้ำถึงความสำคัญของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้งสองฝ่าย และนายโอบามายังได้ยอมรับว่า ความขัดแย้งกันเป็นเรื่องธรรมดาเพราะยังเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐกับพันธมิตรที่ใกล้ชิดของตนเองด้วย
ความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำคิวบาได้รับคำชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศ โดยนายบันคีมูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้ย้ำว่า การปรากฎตัวของนายราอูล คาสโตร ประธานประเทศคิวบาในการประชุมครั้งนี้หลังจากที่ไม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวในตลอด 21 ปีได้ตอบสนองความปรารถนาที่ยาวนานของประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้ ส่วนนาย นิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาได้เผยว่า การเข้าร่วมการประชุมของคิวบาในครั้งนี้คือ “ผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของลาตินอเมริกาและเขตแคริเบียน” และนาย ฮวน มานูเอล ซานโตส ประธานาธิบดีโคลัมเบียได้ชื่นชมความพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับคิวบาว่า ช่วยรักษาบาดแผลที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่ทวีปอเมริกาเป็นเวลาหลายปี
หน้าใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับคิวบา - ảnh 2
ต้องใช้เวลาเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างสมบูรณ์
ในความเป็นจริง นับตั้งแต่ที่ตัดสินใจปรับปรุงความสัมพันธ์กับคิวบาเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐได้ยกเลิกข้อจำกัดต่างๆต่อประเทศนี้ โดยเริ่มจากการยกเลิกการขัดขวางในความสัมพันธ์ระดับประชาชน เช่น ลดข้อจำกัดให้พลเมืองสหรัฐที่ต้องการไปเที่ยวคิวบา การใช้บัตรเครดิตและสามารถซื้อสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต เช่น บุหรี่และเหล้าจากคิวบาได้ไม่เกิน 100 ดอลลาห์สหรัฐ นอกจากนี้ สหรัฐยังขยายการแลกเปลี่ยนในด้านสำคัญต่างๆ เช่น โทรคมนาคม ซึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2015 สหรัฐและคิวบาได้ลงนามในข้อตกลงฟื้นฟูโทรศัพท์สายตรงและถึงปลายเดือนมีนาคมปี 2015 กระทรวงการคลังสหรัฐได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรบริษัทและบุคคลที่กำลังประกอบธุรกิจกับคิวบาประมาณ 60 ราย ส่วนบริษัทสหรัฐยังได้รับการอนุญาติให้เข้าไปลงทุนในคิวบาและทั้งสองฝ่ายกำลังส่งเสริมการเปิดสถานทูตระหว่างกัน
แต่อย่างไรก็ตาม การขัดขวางที่ใหญ่ที่สุดในกระบวนการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศให้เป็นปกติไม่ใช่ปัญหาการค้าหรือการท่องเที่ยว แต่คือการที่สหรัฐยังคงระบุคิวบาในรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายมาตั้งแต่ปี 1982  แม้ประธานาธิบดีสหรัฐบารัก โอบามา ได้อนุมัติข้อเสนอของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐที่จะนำคิวบาออกจากบัญชีรายชื่อดังกล่าวแต่รัฐสภาสหรัฐจะเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ดังนั้นรัฐบาลของนายบารัก โอบามาต้องรอคำตอบของรัฐสภาอีก 45 วัน นักวิเคราะห์ยังเผยว่า นับวันยิ่งมีเสียงสนับสนุนการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับคิวบามากขึ้นเพราะคิวบาเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยศักยภาพของเขตแคริเบียนและถ้าหากความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศดีขึ้น สหรัฐก็จะได้ผลประโยชน์มากขึ้นผ่านการขยายการลงทุนในคิวบา อีกอย่างคือ ในหลายสิบปีที่ผ่านมา นโยบายที่วอชิงตันใช้กับบรรดาประเทศในแถบนี้ไม่มีประสิทธิภาพ โดยบรรดาประเทศลาตินอเมริกานับวันยิ่งแสดงความเป็นอิสระในด้านการทูตและเศรษฐกิจกับสหรัฐเนื่องจากมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนการกู้เงินและการได้รับเงินอุปถัมภ์จากประเทศต่างๆ
ทั้งนี้และทั้งนั้นได้ช่วยให้สหรัฐต้องตระหนักได้ดีว่า ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนนโยบายต่อคิวบาแต่ทั้งสองฝ่ายต้องใช้เวลาเพื่อมีก้าวเดินต่อไปและการพบปะครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำสหรัฐและคิวบา ซึ่งแม้นี่จะเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์เท่านั้นแต่ก็พอที่จะสร้างความหวังใหม่ให้แก่ประชามติเกี่ยวกับการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ – คิวบา./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด