หัวเลี้ยวหัวต่อทางประวัติศาสตร์ในเส้นทาง 48 ปีของการก่อตั้งและพัฒนาของอาเซียน
Ánh Huyền-VOV5 -  
(VOVworld) – วันที่ 20 พฤศจิกายน ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 27 และการประชุมระดับสูงต่างๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียในระหว่างวันที่ 21-22 พฤศจิกายน ในการประชุมครั้งนี้ เวียดนามจะส่งเสริมบทบาทและความรับผิดชอบต่อไปเพื่อมีส่วนร่วมผลักดันอาเซียนที่มีความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดมากขึ้น เสริมสร้าง ขยายความสามัคคีและความเป็นเอกภาพ ตลอดจนบทบาทสำคัญของอาเซียนในการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค
(VOVworld) – วันที่ 20 พฤศจิกายน ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 27 และการประชุมระดับสูงต่างๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียในระหว่างวันที่ 21-22 พฤศจิกายน ในการประชุมครั้งนี้ เวียดนามจะส่งเสริมบทบาทและความรับผิดชอบต่อไปเพื่อมีส่วนร่วมผลักดันอาเซียนที่มีความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดมากขึ้น เสริมสร้าง ขยายความสามัคคีและความเป็นเอกภาพ ตลอดจนบทบาทสำคัญของอาเซียนในการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค
นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุง |
การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 27 ได้มีขึ้นในช่วงเวลาสำคัญโดยอาเซียนกำลังเสร็จสิ้นกิจกรรมสุดท้ายให้แก่การจัดตั้งประชาคมอาเซียนในวันที่ 31 ธันวาคมปี 2015 และเตรียมพร้อมให้แก่การพัฒนาในระยะต่อไป ในขณะที่บรรยากาศทั้งในระดับภูมิภาคและโลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงมากมายซึ่งสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายใหม่ๆให้แก่อาเซียน
อาเซียน 27: นิมิตหมายสำคัญในกระบวนการพัฒนาของอาเซียน
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์ของอาเซียนเมื่อบรรดาผู้นำของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนจะลงนามเอกสารทางนิตินัยสำคัญ 2 ฉบับ นั่นคือ “ปฏิญญาเกี่ยวกับการจัดตั้งประชาคมอาเซียนปี 2015” และ “ปฏิญญาเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2025: ร่วมกันก้าวรุดหน้าไปอย่างมั่นคง” จากการลงนามปฏิญญาเกี่ยวกับการจัดตั้งประชาคมอาเซียน 2015 บรรดาผู้นำได้ก่อตั้งประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการซึ่งเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่ได้รับการทำนุบำรุงจากกระบวนการพยายามอย่างต่อเนื่องของอาเซียนในตลอดเกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาโดยจากสมาคมที่มีการเชื่อมโยงแบบหลวมๆ ไม่มีเสียงพูดที่มีน้ำหนักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบัน อาเซียนได้กลายเป็นประชาคมที่สามัคคีและเชื่อมโยงอย่างกว้างลึก มีบทบาทสำคัญต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคและเป็นหุ้นส่วนสำคัญของประเทศใหญ่ๆและองค์การภูมิภาคต่างๆ
บรรดาผู้นำอาเซียนยังลงนามปฏิญญาวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายในปี 2025 เพื่อเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นและคำมั่นที่จะเสริมสร้างและทำให้ความเชื่อมโยงของอาเซียนในอีก
10 ปีข้างหน้ามีความลึกซึ้งมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดาผู้นำจะอนุมัติวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนปี 2025 และแผนแบบบูรณาการเกี่ยวกับการปฏิบัติวิสัยทัศน์บนพื้นฐานของสามเสาหลักคือการเมืองกับความมั่นคง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมกับสังคมซึ่งเป็นเอกสารหลัก ที่เป็นพื้นฐาน กรอบและกำหนดแนวทางให้แก่การเชื่อมโยงของอาเซียนในทศวรรษหน้า นาย เลเลืองมิงห์ เลขาธิการอาเซียนได้ยืนยันว่า“เนื้อหาหลักของวิสัยทัศน์ปี 2025 ที่บรรดาผู้นำอาเซียนจะอนุมัติในการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 27 คือปฏิบัตินโยบายพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปบนพื้นฐานการปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อลดช่องว่างระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนใหม่กับประเทศสมาชิกอาเซียนเก่า ทัศนะของอาเซียนคือสร้างสรรค์ประชาคมเพื่อประชาชนและโดยประชาชนอย่างแท้จริงโดยยึดหลักการทาบทามความคิดเห็นของทุกภาคส่วนในสังคมเกี่ยวกับนโยบาย ตลอดจนกระบวนการปฏิบัตินโยบาย โดยเฉพาะนโยบายในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
การที่บรรดาผู้นำอาเซียนลงนามปฏิญญา 2 ฉบับดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงความหมายของการสานต่อกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนซึ่งเป็นกระบวนการที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ผลสำเร็จในวันนี้จะเป็นพื้นฐานให้แก่อนาคต ประชาคมอาเซียนปี 2015 เป็นผลมาจากความร่วมมือและพัฒนาเกือบครึ่งศตวรรษ พร้อมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นและสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ในการพัฒนาของอาเซียนในระยะต่อไป
ผู้นำอาเซียนในการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 26 (vietnamplus)
|
การลงนามเอกสาร 2 ฉบับดังกล่าวยังมีผู้นำประเทศหุ้นส่วนและคู่เจรจาของอาเซียนและเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติเป็นสักขีพยานซึ่งถือเป็นคำประกาศอย่างเป็นทางการต่อโลกเกี่ยวกับการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในปี 2015 เป็นการยืนยันถึงสถานะใหม่ของประชาคมอาเซียนในประชาคมโลก
เวียดนามมีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จของการประชุมผู้นำอาเซียน27ต่อไป
ปี 2015 เป็นปีแห่งหัวเลี้ยวหัวต่อทางประวัติศาสตร์ในกระบวนการพัฒนาของอาเซียนโดยมีการจัดตั้งประชาคมอาเซียนประจวบกับการฉลองครบรอบ 20 ปีที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนโดยในตลอด 20 ปีของความร่วมมือกับอาเซียน ส่วนร่วมของเวียดนามได้เพิ่มพลังที่เข้มแข็งให้แก่สมาคม ดังนั้นด้วยความสำคัญและความหมายที่ยิ่งใหญ่ของการประชุมผู้นำครั้งนี้ เวียดนามได้เข้าร่วมองค์การอาเซียนอย่างมีความรับผิดชอบ มีส่วนร่วมสร้างสรรค์เพื่อสร้างความเห็นพ้องกันในระดับสูง ความสามัคคีและความเป็นเอกภาพภายในกลุ่มต่อไป ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ทั้งในระดับภูมิภาคและโลกมีการผันผวนอย่างซับซ้อนและรวดเร็ว เวียดนามได้ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนพยายามสร้างสรรค์บรรยากาศที่สันติภาพและเสถียรภาพเพื่อให้ประชาคมอาเซียนพัฒนาอย่างเข้มแข็ง นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า“นี่ไม่ใช่แค่ความสนใจของเวียดนามเท่านั้น หากยังเป็นความสนใจของประเทศในภูมิภาคและนอกภูมิภาคอีกด้วย ในฐานะเป็นประเทศสมาชิกที่กระตือรือร้นของอาเซียน เวียดนามได้มีข้อเสนอหลายข้อ รวมทั้งข้อเสนอที่เกี่ยวข้องถึงการสร้างสรรค์ความไว้วางใจ เสนอมาตรฐานของทั้งอาเซียนและภูมิภาคโดยมีเป้าหมายเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ภูมิภาคที่สันติภาพและเสถียรภาพหลังปี 2015”
ผลสำเร็จของการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 27 มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ต่อทุกประเทศสมาชิกอาเซียนโดยการจัดตั้งประชาคมอาเซียนจะสร้างพลังขับเคลื่อนสำคัญเพื่อให้อาเซียนก้าวเข้าสู่ระยะเชื่อมโยงที่สูงขึ้นด้วยสถานะใหม่ มีความมุ่งมั่นและความมั่นใจมากขึ้นซึ่งนี่คือสิ่งที่ประเทศต่างๆ รวมทั้งเวียดนามกำลังรอคอย.
Ánh Huyền-VOV5