(VOVWorld) – วันนี้๒๑มีนาคม อิหร่านได้ย่างเข้าวันแรกของปีใหม่ตามปฏิทินเปอร์เซียซึ่งประชาชนในประเทศอิสลามนี้ก็มีความหวังมากมาย โดยเฉพาะคือ ความปรารถนาอย่างแรงกล้าเกี่ยวกับสันติภาพและเสถียรภาพที่แท้จริง แต่ ก่อนวสันต์ แทนที่จะได้รับดอกกุหลาบและกิ่งมะกอกเพื่อฉลองปีใหม่ ชาวอิหร่านกลับต้องรับมือกับแถลงการณ์ที่แข็งกร้าวเกี่ยวกับการเพิ่มควมเข้มงวดมาตรการคว่ำบาตรเนื่องจากโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของประเทศนี้

นายบารัก โอบามาประธานาธิบดีสหรัฐยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับเทลอาวีฟเป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนถาวร(Photo:Internet)

ในกรอบการเยือนตะวันออกกลางครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐนับตั้งแต่ปี๒๐๐๙  วันที่๒๐มีนาคม ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายบารัก โอบามาได้ยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นของสหรัฐเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือกับอิสราเอลเพื่อยับยั้งการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านและย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับเทลอาวีฟเป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนถาวร ส่วนนายเบนจามิน เนทันยาฮูเผยว่า ถ้าจำเป็น เทลอาวีฟก็จะใช้กำลังเพื่อบังคับให้อิหร่านยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์ซึ่งบรรดาผู้สันทัดกรณีก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่า แถลงการณ์จะออกมาในลักษณะนี้เพราะ ก่อนหน้านั้น ทางการอิสราเอลได้มีสัญญาณเตือนประเทศอิหร่านอย่างต่อเนื่องโดยเมื่อกลางเดือนมีนาคมนี้ ที่นครเยรูซาเล็ม นายเบนจามิน เนทันยาฮูได้แถลงว่า มาตรการคว่ำบาตรยังไม่พอเพื่อยับยั้งโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ดังนั้น อิสราเอลพร้อมที่จะโจมตีทางอากาศใส่โรงงานผลิตนิวเคลียร์ต่างๆของอิหร่าน ส่วนนายเอฮุด บารัก รัฐมนตรีกระทรวง กลาโหมของประเทศนี้กล่าวว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ต่ออิสราเอล ดังนั้น ยังไม่มีการตัดสินมาตรการับมือที่แน่นอน ในขณะเดียวกัน ก่อนการเยือนตะวันออกกลางของนายบารัก โอบามา  เมื่อต้นเดือนมีนาคมนี้ ทั้งรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจอห์น แคร์รี่ต่างออกมาเตือนอิหร่านอีกครั้งเกี่ยวกับกำหนดการใช้มาตรการทางการทูตเพื่อปัญหานิวเคลียร์ที่สร้างความถกเถียงของอิหร่านโดยทัศนะของวอชิงตันคือ การยับยั้งไม่ให้อิหร่านผลิตระเบิดนิวเคลียร์ถือเป็นผลประโยชน์ส่วนหนึ่งในด้านความมั่นคงของสหรัฐและโลกเพราะถ้าไม่ยับยั้ง จะนำไปสู่การแข่งขันอาวุธที่อันตราย

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิลราเอลเผยว่า ถ้าจำเป็น เทลอาวีฟก็จะใช้กำลังเพื่อบังคับให้อิหร่านยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์(Photo:Internet)

ทั้งนี้คำเตือนของสหรัฐมีขึ้นประจวบเหมาะกับการเจรจาระดับนักวิชาการระหว่างอิหร่านกับกลุ่มพี๕บวก๑ ประกอบด้วย๕ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเยอรมนีเกี่ยวกับโครงการนิวคลียร์ของอิหร่าน ที่กรุงอิสตันบุล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่๑๘มีนาคม ได้ก่อแรงกดดันต่อกระบวนการเจรจา แม้ว่า การประชุมลับนี้ได้มีความคืบหน้าที่น่ายินดีโดยการเรียกร้องให้อิหร่านระงับโครงการเสริมสมรรถภาพยูเรเนียมระดับร้อยละ๒๐เป็นการชั่วคราวแทนการยุติอย่างถาวรเหมือนที่ผ่านมาพร้อมการที่สำนักงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือ IAEAได้ยอมรับว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านมีวัตถุประสงค์เพื่อสันติภาพ แต่สิ่งนี้ก็ไม่ทำให้สหรัฐพอใจได้หากยังคงย้ำว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ก้าวถึงเส้นกำหนดแดง และถ้าหากประเทศนี้ไม่มีการผ่อนปรน ก็จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มข้นกว่านี้ แถมยังขู่ว่า จะลงโทษปากีสถานเพราะได้ปฏิบัติโครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซร่วมกับอิหร่าน คิดเป็นมูลค่า๗พัน๕ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ที่นครจาบาฮาร์ อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน ก่อนหน้านั้น สหภาพยุโรปได้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านโดยได้ระบุเจ้าหน้าที่อิหร่านอีก๙คนลงในบัญชีดำที่ถูกห้ามเข้าเมือง ทำการอายัดทรัพย์สิน จำกัดการค้า  การเงิน ตลอดจนน้ำมัน ซึ่งจนถึงปัจจุบัน มีบริษัท๔๙๐แห่งและ๑๐๕บุคคลของอิหร่านอยู่ในบัญชีดำดังกล่าว

IAEAได้ยอมรับว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านมีวัตถุประสงค์เพื่อสันติภาพ(Photo:Internet)

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า อิหร่านกำลังถูกโดดเดี่ยวทั้งด้านการทูต เศรษฐกิจและการทหาร  ถึงแม้ว่า ในการเจรจาและการแสดงทัศนะเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของตน อิหร่านได้ยืนยันหลายครั้งแล้วว่า พร้อมที่จะคลี่คลายความวิตกสำนักงานปรมาณูระหว่างประเทศหลังจากที่ได้บรรลุข้อตกลงต่างๆแล้วแต่สิ่งนี้ก็ไม่ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐและตะวันตกพอใจ การโค้นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีอิหร่าน มาห์มุด อามาดีเนจัด เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่อิสราเอลซึ่งเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์ในตะวันออกกลางและการขยายอิทธิพลที่เข้มแข็งในเขตที่มีทรัพยากรณ์ธรรมชาติมากมายนี้ยังเป็นสิ่งที่สหรัฐมุ่งหมาย ซึ่งถ้าหาก ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถสร้างความไว้วางใจกันได้ แน่นอนว่า การเจรจาครั้งต่างๆในเวลาที่ผ่านมาจึงประสบความลมเหลว     ปีใหม่ได้เวียนมากับประชาชนอิหร่านพร้อมกับการพยากรณ์ในทางลบ เศรษฐกิจอิหร่านกำลังประสบความยากลำบาก เงินเฟ้อร์อยู่ที่กว่าร้อยละ๒๐ ระบบธนาคารขาดสภาพคล่องเนื่องจากคำสั่งคว่ำบาตร อัตราคนว่างงานอยู่ในระดับสูง การส่งออกน้ำมันดิบซึ่งทำเงินเข้าประเทศเกินครึ่งของยอดการส่งออกทั้งหมดได้ลดลง๑ล้านบาเรลต่อวันเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน๒.๒ล้านบาเรลต่อวัน และเฉพาะปี๒๐๑๒ อิหร่านประสบความเสียหายจากยอดส่งออกน้ำมันที่ลดลงไปแล้วกว่า๔หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ต่อสถานการณ์ดังกล่าวบวกกับสาส์นที่แข็งกร้าวจากสหรัฐ ฝ่ายตะวันตกและประเทศเพื่อนบ้านอิสราเอลไม่ได้ทำให้ประชาชนอิหร่านมีความหวังเกี่ยวกับสิ่งมหัศจรรย์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้./.