การประชุมสภาประชาคมวัฒนธรรม-สังคมอาเซียนหรือ ASCC ครั้งที่ 27 เป็นกิจกรรมที่สำคัญและเป็นการประชุมนัดแรกในปี 2022 ของประชาคมวัฒนธรรม-สังคมอาเซียน  ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับประเด็นที่ได้รับความสนใจและเอกสารต่างๆที่จะยื่นเสนอต่อการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 40 และ 41 ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ แลกเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับปัญหาที่ได้รับความสนใจและแนวทางการพัฒนาของอาเซียนในเวลาที่จะถึงเพื่อปฏิบัติวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนปี 2025 การถือมุนษย์เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

อาเซียนเพิ่มทักษะความสามารถในการพึ่งพาตนเอง

แถลงการณ์ฮานอยเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี 2025 ที่ได้รับการอนุมัติในการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 37 เมื่อปี 2022 ได้ยืนยันว่า การพัฒนาวิสัยทัศน์ภายหลังปี 2025 จะได้รับการปฏิบัติอย่างรอบด้าน จริงจัง สมดุลย์ ครอบคลุมและประสานงาน ใช้วิธีการเข้าถึงประชาคมเพื่อประสานงานการปฏิบัติเสาหลักต่างๆและระหว่างสำนักงานที่เกี่ยวข้องของอาเซียนเพื่อใช้โอกาสและแก้ไขความท้าทายที่อาเซียนต้องเผชิญ

วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี 2025 กำหนดอย่างชัดเจนว่า อาเซียนกำลังผลักดันการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ เป็นพื้นฐานเพื่อกำหนดรูปแบบการเชื่อมโยงของประชาคมอาเซียน ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน อาเซียนจะแสดงบทบาทการเป็นศูนย์กลาง เป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อผลักดันการสนทนา การสร้างความไว้วางใจเพื่อสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค เป็นฝ่ายรุกในการรับมือความท้าทายต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วมต่อความพยายามในการค้ำประกันสันติภาพและการพัฒนาของประชาคมโลก อาเซียนยังค้ำประกันการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนที่มุ่งสู่ประชาชน ถือประชาชนเป็นศูนย์กลางของกระบวนการพัฒนา การพัฒนาอย่างพร้อมเพรียง ยั่งยืนในเขตและภาคต่างๆและระหว่างประเทศ ระหว่างทุกภาคส่วนในสังคม ค้ำประกันไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่ประเทศอาเซียนกำลังฟื้นฟูหลังจากที่โควิด -19 ได้รับการควบคุม

อาเซียนส่งเสริมความสามัคคีและความร่วมมือเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ

ตามข้อมูลสถิติ การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลกระทบต่อจีดีพีอาเซียนถึงร้อยละ 3.3   ทำให้ระบบสาธารณสุขของประเทศต่างๆประสบอุปสรรค เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะถดถอย ประชาชนนับล้านคนตกงานและตกเข้าสู่ภาวะยากจน

จากสถานการณ์ดังกล่าว บรรดาประเทศอาเซียนได้ส่งเสริมความสามัคคี เพื่อร่วมกันรับมือโรคระบาด เช่น การจัดตั้งกองทุนเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  คลังสำรองอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉินของภูมิภาค กรอบการฟื้นฟูอาเซียนแบบบูรณาการและแผนการปฏิบัติงานอย่างพร้อมเพรียงทั้งใน 3 เสาหลักของประชาคมเพื่อช่วยเหลือประชาชนและสถานประกอบการในการแก้ไขผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ-สังคมในประเทศต่างๆ เป็นต้น ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง เกาะติดประเด็นที่ได้รับความสนใจของโลก ภูมิภาคและประเทศผ่านความคิดริเริ่มต่างๆ รวมทั้ง แผนการโดยรวมเกี่ยวกับวัฒนธรรมเชิงป้องกัน กรอบการฟื้นฟูอาเซียนแบบบูรณาการและยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 รัฐบาลของประเทศสมาชิกอาเซียนได้ประกาศใช้นโยบายช่วยเหลือแรงงานและสถานประกอบการฟันฝ่าอุปสรรคและขยายการปฏิบัตินโยบายสำหรับกลุ่มเป้าหมาย การเร่งปฏิบัติโครงการฉีดวัคซีนในหลายประเทศอาเซียน ได้ช่วยให้ชีวิตของประชาชนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เน้นพัฒนาเศรษฐกิจ เปิดประเทศด้านการท่องเที่ยวและเปิดโรงเรียนอีกครั้ง

ซึ่งผลงานที่ได้บรรลุได้แสดงให้เห็นถึงการปกป้องปัจจัยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การปกป้องสิทธิของแรงงาน สร้างสรรค์สังคมที่เปิดเผย ปรับตัวและแก้ไขความไม่ยุติธรรมที่ยังคั่งค้างอยู่ในสังคม ซึ่งความคิดริเริ่มเมื่อเร็วๆนี้ของอาเซียนในการส่งเสริมบทบาทของเยาวชนอาเซียนจะมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนที่เชื่อมโยงและพัฒนาอย่างยั่งยืน อาจกล่าวได้ว่า การปฏิบัติวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2025 อย่างเข้มแข็งได้ส่งสารที่ว่า “ความสามัคคีเป็นพื้นฐานของความร่วมมือ เป็นกุญแจเพื่อให้อาเซียนประสบความสำเร็จและเป็นปัจจัยเพื่อสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน ช่วยให้บรรดาประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมกันฟันฝ่ายความท้าทายต่างๆได้อย่างมั่นคง.