อำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน

(VOVworld) – วันที่ 28 เมษายน ณ กรุงฮานอย ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีพร้อมกับรองนายกรัฐมนตรี 4 ท่าน รัฐมนตรี 9 ท่านและประธานคณะกรรมการประชาชนนครใหญ่ 2 แห่งได้เข้าร่วมการสนทนาเกี่ยวกับนโยบายและตลาดซึ่งได้รับการคาดหวังว่า จะสร้างก้าวกระโดดเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเวียดนามประกอบธุรกิจอย่างมี ประสิทธิภาพและพัฒนาอย่างยั่งยืนมากขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติเป้า หมายและหน้าที่เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมที่รัฐบาลได้วางไว้ในช่วงปี 2014-2015 ให้ประสบความสำเร็จ

(VOVworld) – วันที่ 28 เมษายน ณ กรุงฮานอย ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีพร้อมกับรองนายกรัฐมนตรี 4 ท่าน รัฐมนตรี 9 ท่านและประธานคณะกรรมการประชาชนนครใหญ่ 2 แห่งได้เข้าร่วมการสนทนาเกี่ยวกับนโยบายและตลาดซึ่งได้รับการคาดหวังว่า จะสร้างก้าวกระโดดเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเวียดนามประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาอย่างยั่งยืนมากขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติเป้าหมายและหน้าที่เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมที่รัฐบาลได้วางไว้ในช่วงปี 2014-2015 ให้ประสบความสำเร็จ

อำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน - ảnh 1
ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการสนทนาเกี่ยวกับนโยบายและตลาด

นี่คือการประชุมที่ได้รับการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีและกลายเป็นเวทีสำคัญเพื่อให้ชมรมผู้ประกอบการแลกเปลี่ยนอุปสรรคและข้อสงสัยในกระบวนการผลิตและประกอบธุรกิจโดยตรง กลุ่มปัญหาหลัก 4 ประเด็นที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการที่จะได้รับการเสนอและหารือในการประชุม ประกอบด้วย สถานประกอบการภาคเอกชนกับการเข้าถึงสินเชื่อของธนาคาร นโยบายภาษีและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านกองทุนประกัน ปัญหาการเจาะตลาดและการเคลียร์พื้นที่เพื่อการผลิตและประกอบธุรกิจ

รัฐบาลและสถานประกอบการร่วมกันแลกเปลี่ยนอุปสรรคและเสนอมาตรการแก้ไข

บรรดาผู้แทนประมาณ 500 คนจากสถานประกอบการภาคเอกชน 400 แห่ง สถานประกอบการ FDI 50แห่งและสถานประกอบการภาครัฐ 20 แห่งได้เข้าร่วมการประชุมเพื่อสนทนาโดยตรงกับนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงเศรษฐกิจของสถานประกอบการ ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามก่อนการประชุม นาย หวูเตี๊ยนโหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือวีซีซีไอได้เผยว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจและชมรมสถานประกอบการกำลังเข้าสู่ระยะแห่งการพัฒนาใหม่ซึ่งในนั้นความต้องการเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้าง มุ่งสู่ระเบียบการที่ทันสมัยและยั่งยืนกลายเป็นปัญหาสำคัญ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีได้ตัดสินใจจัดการประชุมนี้เพื่อพบปะ รับฟังและแลกเปลี่ยนกับสถานประกอบการเพื่อปฏิบัติระเบียบการอย่างเป็นรูปธรรมผมคิดว่า การประชุมครั้งนี้มีความหมายสำคัญ โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่บรรยากาศเศรษฐกิจมหภาคมีความยั่งยืนซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาสถานประกอบการ ตลอดจนมาตรการเพื่อให้สถานประกอบการฟันฝ่าอุปสรรคและมีการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ ในหลายวันที่ผ่านมา พวกเราได้รับข้อเสนอและความคิดเห็นกว่า 300 ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องถึงกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆและพวกเราได้ส่งถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วและรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ ในการประชุมครั้งนี้ ความคิดเห็นที่หลากหลายของสถานประกอบการจะได้รับการแก้ไขทันที ส่วนปัญหาที่เหลือจะได้รับคำตอบจากกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆซึ่งถือเป็นวิธีการผลักดันการปฏิรูประเบียบการที่ได้วางไว้
ปัญหาสำคัญที่ผู้ประกอบการเสนอในการประชุมคือสถานประกอบการหลายแห่งประสบอุปสรรค์ในการเข้าถึงสินเชื่อโดยขณะนี้ มีสถานประกอบการกว่าร้อยละ 32ที่ได้รับเงินกู้จากธนาคารอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ผู้ประกอบการกว่าร้อยละ 35 แสดงความเห็นว่า สามารถกู้เงินได้แต่ลำบากมากและผู้ประกอบการร้อยละ 33 ยืนยันว่าไม่สามารถกู้เงินได้ ส่วนตามความเห็นของสมาคมสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2012 ถึงเดือนกันยายนปี 2013 มีสถานประกอบการไม่มากนักที่ได้รับการค้ำประกันเพื่อกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์จึงทำให้สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหลายแห่งตกเข้าสู่ภาวะลำบาก นาย โด่แองต๊วน ผู้อำนวยการบริษัทพาณิชย์และบริการนำเข้าส่งออกสัตว์น้ำเฟือกเตี๊ยน นครดานังได้แสดงความเห็นว่าบริษัทเราเพิ่งลงนามสัญญากับหุ้นส่วนญี่ปุ่น มูลค่าประมาณ 5-6 หมื่นเหรียญสหรัฐแต่ก็ประสบอุปสรรคในการกู้เงิน พวกเราหวังว่า ธนาคารจะมองเห็นถึงกระบวนการพัฒนาของสถานประกอบการว่าเป็นเช่นไร มีตลาดและมีความสามารถพัฒนาหรือไม่ ถ้าหากมีเงื่อนไขพัฒนาที่เพียงพอก็ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษเพื่อให้สถานประกอบการพัฒนา

ช่วยให้สถานประกอบการแข่งขันอย่างเสมอภาคและพัฒนอย่างยั่งยืน

ตามรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์สถานประกอบการและหน้าที่พัฒนาเศรษฐกิจสังคมในช่วงปี 2014-2015 ปรากฏว่า ขณะนี้ สถานประกอบการภาครัฐกำลังมีบทบาทนำหน้าในการพัฒนาแต่ในระยะยาว การขยายตัวของเศรษฐกิจภาคเอกชนจะเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาประเทศและได้นำหน้าเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมต่อการขยายตัวจีดีพี รองลงมาคือสถานประกอบการภาครัฐ ดังนั้น ในการประชุมครั้งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีได้เน้นถึงการอำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาสถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานประกอบการภาคเอกชนโดยเน้นถึงการค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการประกอบธุรกิจและการแข่งขันที่เสมอภาคให้แก่สถานประกอบการ นาย หวูเตียนโหลกได้แสดงความเห็นว่า สถานประกอบการภาคเอกชนส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ดังนั้นต้องอำนวยความสะดวกมากขึ้นในการจัดตั้ง ลงทุนและประกอบธุรกิจการสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่เปิดเผย โปร่งใสและเสมอภาคเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมประสบอุปสรรคมากมายในการประกอบธุรกิจจึงต้องการโครงการและมาตรการช่วยเหลือ ในกระบวนการเข้าถึงแหล่งพลังพัฒนาต้องมีโครงการเฉพาะให้แก่สถานประกอบการเหล่านี้ นอกจากนั้น สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าถึงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีได้อย่างลำบาก ปัจจุบัน รัฐบาล วีซีซีไอและกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีกำลังจัดการสัมมนาเชื่อมโยงนักวิทยาศาสตร์เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
เศรษฐกิจและสถานประกอบการเวียดนามกำลังเข้าสู่ระยะพัฒนาใหม่ซึ่งความต้องการเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างตามแนวทางที่ทันสมัยและยั่งยืนจึงกลายเป็นปัญหาสำคัญชี้ขาดซึ่งควบคู่กับการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกที่นับวันกว้างลึกมากขึ้น เวียดนามต้องการสถานประกอบการที่มีความสามารถที่เพียงพอเพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นหุ้นส่วนของเครือบริษัทข้ามชาติ การที่นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงพบปะผู้ประกอบการปี 2014 ก็แสดงให้เห็นถึงความสนใจและการแบ่งเบาของรัฐบาล สร้างความไว้วางใจและพลังขับเคลื่อนให้แก่สถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานประกอบการภาคเอกชนเพื่อร่วมกับเศรษฐกิจของประเทศฟันฝ่าอุปสรรคและพัฒนาอย่างยั่งยืน./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด