(VOVworld) - เช้าวันที่ 23 พฤศจิกายน การประชุมรัฐสภาครั้งที่ 2 สมัยที่ 14 ได้เสร็จสิ้นลง โดยสามารถบรรลุผลงานที่สำคัญของหน้าที่ทั้ง 3 ด้านคือนิติบัญญัติ การตรวจสอบสูงสุดและการตัดสินใจปัญหาสำคัญๆของประเทศ ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์การเปลี่ยนแปลงใหม่ ความสามัคคี ความคิดสร้างสรรค์และการปฏิบัติเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศ

การประชุมรัฐสภาครั้งที่ 2 สมัยที่ 14 ได้เสร็จสิ้นลง

การประชุมครั้งที่ 2 รัฐสภาเวียดนามสมัยที่ 14 มีขึ้นเป็นเวลากว่า 1 เดือนโดยมีหน้าที่สำคัญต่างๆ เช่น การตัดสินใจแผนการในด้านการเงินและการลงทุนระยะกลางแบบบูรณาการ ปรับปรุงระบบกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดให้มีความสมบูรณ์ ปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจให้มีความสะดวกมากขึ้นและปฏิบัติอำนาจการตรวจสอบสูงสุดผ่านการตั้งกระทู้ถาม

นับเป็นครั้งแรกที่รัฐสภาตัดสินใจแผนการระยะกลางแบบบูรณาการในด้านการเงินและการลงทุน

จุดเด่นของการตัดสินใจปัญหาสำคัญๆของประเทศในการประชุมครั้งนี้คือ รัฐสภาได้พิจารณา หารือและอนุมัติเนื้อหาต่างๆเกี่ยวกับเศรษฐกิจ เช่น ประเมินการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม งบประมาณแผ่นดินปี 2016 แผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมในปี 2017 ผลการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจระยะปี 2011-2015 แผนการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจระยะปี 2016-2020 แผนการลงทุนภาครัฐระยะกลางช่วงปี 2016-2020 การวางแผนการเงินในระยะ 5 ปี เป้าหมายและการกำหนดแนวทางการระดมและการใช้เงินกู้ รวมทั้งการควบคุมหนี้สาธารณะระยะปี 2016-2020 และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่รัฐสภาได้ตัดสินใจแผนการในด้านการเงินและการลงทุนระยะกลางแบบบูรณาการ ที่เชื่อมโยงกับแผนการระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว นายเจิ่นหว่างเงิน ผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์ประเมินว่า “ที่ประชุม รัฐสภาได้อนุมัติมติที่สำคัญๆ เช่น มติเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม มติเกี่ยวกับการเงิน มติเกี่ยวกับการลงทุนภาครัฐและมติเกี่ยวกับการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งต่างระบุเป้าหมายอย่างชัดเจน”

ส่วนนายบุ่ยวันเฟือง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดนิงห์บิ่งเผยว่า  “จากสถานการณ์ในประเทศปัจจุบัน เราจะไม่หลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ เช่น การเงินและหนี้สาธารณะ การหารือและประกาศแผนทางการเงินคือเจตนารมณ์แห่งความเปิดเผยต่อประชาชน ซึ่งช่วยให้ประชาชนมีความเข้าใจภารกิจของรัฐสภา”

เปลี่ยนแปลงใหม่ในการอภิปราย ณ หอประชุม

จุดใหม่ในการประชุมครั้งที่ 2 รัฐสภาเวียดนามสมัยที่ 14 คือผู้แทนรัฐสภามีเวลาและโอกาสอภิปรายในการหารือและตั้งกระทู้ถามสมาชิกรัฐบาล ซึ่งช่วยระบุปัญหาต่างๆได้อย่างชัดเจนและสามารถประกาศข้อสรุปทั่วไปที่เป็นไปตามหลักวิชาการและสอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริง การหารือเกี่ยวกับร่างกฎหมายสมาคมและร่างประมวลกฎหมายอาญาฉบับแก้ไขเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงผลของการอภิปรายในที่ประชุม ซึ่งจากการพิจารณาอย่างรอบคอบ รัฐสภาจึงตัดสินใจไม่อนุมัติร่างกฎหมายสองฉบับดังกล่าวโดยให้ทำการปรับปรุงต่อไปให้มีความสมบูรณ์เพื่อค้ำประกันประสิทธิภาพในการบังคับใช้ นายหว่างกวางห่าม ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดฟู้เถาะแสดงความคิดเห็นว่า “รัฐสภาได้แสดงทัศนะที่ชัดเจนด้วยการไม่อนุมัติร่างกฎหมายสองฉบับนี้ ซึ่งช่วยให้รัฐสภายกระดับการปฏิบัติหน้าที่และบรรลุเป้าหมายในขั้นพื้นฐานของการประชุมครั้งนี้คือค้ำประกันประสิทธิภาพและความเป็นไปได้ในการบังคับใช้”

รัฐสภาไม่ได้เลือกรัฐมนตรีหรือตัวแทนหน่วยงานมาตอบกระทู้ถามหากได้เลือกตามประเด็นที่ต้องการอภิปราย

ในขณะเดียวกัน นายฝามเติ๊ดทั้ง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดหวิงลองให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับผลของการอภิปรายในการตั้งและตอบกระทู้ถามว่า “การตรวจสอบผ่านการตั้งกระทู้ถามประสบความสำเร็จและมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ซึ่งมีความแตกต่างกับการประชุมครั้งก่อนเพราะรัฐสภาไม่ได้เลือกรัฐมนตรีหรือตัวแทนหน่วยงานมาตอบกระทู้ถามหากได้เลือกตามประเด็นที่ต้องการอภิปรายเพื่อให้สมาชิกรัฐบาลที่เกี่ยวข้องร่วมกันตอบกระทู้ถาม อันเป็นการสะท้อนการประสานความรับผิดชอบระหว่างสมาชิกรัฐบาล ส่วนผู้แทนรัฐสภาได้ใช้สิทธิ์การอภิปราย ซึ่งช่วยให้การตั้งและตอบกระทู้ถามคึกคักมากขึ้นและมีบางปัญหาสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรอบคอบ สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้แทนรัฐสภาที่ลงทะเบียนตั้งกระทู้ถามมีจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจของผู้แทนรัฐสภาต่อประเด็นที่ตั้งกระทู้ถาม”

ส่วนนายบุ่ยวันเฟือง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดนิงห์บิ่งเสนอว่า “การอภิปรายคือจุดใหม่ที่ต้องส่งเสริมเพื่อให้การประชุมด้วยเจตนารมณ์นี้ถูกจัดขึ้นต่อไป ผมคิดว่า ไม่ควรมีแค่การอภิปรายระหว่างผู้แทนรัฐสภาเท่านั้น หากต้องมีการอภิปรายระหว่างฝ่ายที่ดูแลการร่างเอกสารและฝ่ายที่ตรวจสอบกับผู้แทนรัฐสภาตามหลักวิชาการ ทฤษฎีและการปฏิบัติเพื่อช่วยให้รัฐสภาตัดสินใจปัญหาต่างๆได้อย่างถูกต้อง”