ปี 2014 ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขาส่วนใหญ่มีเสถียรภาพและนับวันได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น อัตราครอบครัวที่ยากจนลดลงร้อยละ 2-4 โดยเฉพาะอำเภอที่ยากจนลดลงกว่าร้อยละ 4 เพื่อสร้างโฉมใหม่ให้แก่หมู่บ้านต่างๆในท้องถิ่น กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นได้เน้นฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและช่วยเหลือชาวบ้านพัฒนาการผลิต

ในปี 2014 ได้มีการประกาศนโยบายใหม่ๆและได้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ชนกลุ่มน้อยในเขตที่ยากจนที่สุดหลุดพ้นจากความยากจน มีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของท้องถิ่นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โฉมหน้าชนบทในเขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขามีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน ท้องถิ่นบางแห่งสามารถพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวทางการผลิตสินค้า อัตราการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 8-10 ขบวนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ได้รับการผลักดัน เครือข่ายสถานีอนามัย หอวัฒนธรรม โรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนประจำได้รับการลงทุนก่อสร้างต่อไป

ในด้านเงินทุน ในปี 2014 แม้ยังคงประสบความยากลำบากต่างๆและเศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แต่รัฐบาลยังคงจัดสรรค์เงินทุนกว่า 7 ล้าน 8 แสนล้านด่งให้แก่เขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขา คิดเป็นร้อยละ 20 ของวงเงินช่วยเหลือเป้าหมายที่มาจากงบประมาณแผ่นดิน ปี 2015 รัฐสภาได้อนุมัติงบประมาณกว่า 8 ล้าน 9 แสนล้านด่งให้แก่เขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขา เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่รวมถึงแหล่งเงินทุนจากองค์การระหว่างประเทศที่ให้การช่วยเหลือผ่านโครงการต่างๆ

เพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมให้แก่เขตชนกลุ่มน้อยและเขตเขา การเลือกหน้าที่หลักถือเป็นเรื่องที่จำเป็นและมีลักษณะก้าวกระโดด นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงย้ำว่า “หน้าที่การแก้ปัญหาความยากจนยังยุ่งยากมาก โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจนให้แก่ชนกลุ่มน้อย ซึ่งต้องมีการปฏิบัติแบบบูรณาการ พร้อมเพรียง เน้นในด้านหลักและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องปฏิบัติมาตรการแก้ปัญหาความยากจนในทั้ง 3 ด้านอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบด้วย ช่วยเหลือคนจนให้เข้าถึงการบริการขั้นพื้นฐานทางสังคม พัฒนาการผลิต ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมในท้องถิ่นที่ยากจน นอกจากนี้ต้องเน้นปฏิบัติมาตรการช่วยเหลือเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนจนสามารถหลุดพ้นจากความยากจน”

ในการแก้ปัญหาความยากจน กระทรวง หน่วยงาน โดยเฉพาะพรรคสาขาจังหวัด สภาประชาชนและคณะกรรมการประชาชนท้องถิ่นต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่องานด้านชนกลุ่มน้อย ซึ่งที่น่าสนใจที่สุดคือปัญหาทรัพยากรมนุษย์เพราะ แม้นโยบายจะถูกต้องแต่ผู้ปฏิบัติงานก็ต้องมีความคล่องตัวและมีความคิดสร้างสรรค์ นโยบายจึงจะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ควบคู่กันนั้นก็ต้องเน้นความสนใจต่อการฝึกสอนอาชีพให้แก่แรงงานชนกลุ่มน้อยกว่า 7 ล้านคน ท่านฝ่ามถิ่ห่ายเฉวี่ยน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมเผยว่า “ในฐานะผู้บริหารหน่วยงาน พวกเราจะแนะนำการฝึกอบรม ซึ่งอาจต้องมีการปรับปรุงอัตราเงินช่วยเหลือ วิธีการฝึกอบรมที่มีการปรับปรุงเพื่อตอบสนองความต้องการอย่างจริงจังของชนกลุ่มน้อย”

เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่ดินทำการผลิตให้แก่ชนกลุ่มน้อยและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน นายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงยืนยันว่า “ต้องเร่งปฏิบัตินโยบายเฉพาะกิจเพื่อแก้ปัญหาความยากจนของชนกลุ่มน้อยให้เร็วขึ้น ให้การช่วยเหลืออย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพเพื่อให้ชนกลุ่มน้อยมีรายได้เพิ่มขึ้นและหลุดพ้นจากความยากจนผ่านการดูแลและพัฒนาป่าไม้พร้อมกับการพัฒนาปศุสัตว์และความหลากหลายในการปลูกพืช พิจารณาเพิ่มเงินรับเหมาในการอนุรักษ์ป่าไม้และปลูกป่า พร้อมทั้งปฏิบัตินโยบายสนับสนุนที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะที่ดินทำการผลิต ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย ที่อยู่อาศัย น้ำสะอาด การพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมการเกษตร ป่าไม้และประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิต รัฐบาลได้หารือร่างมติเกี่ยวกับนโยบายเหล่านี้และกำลังชี้นำให้เสร็จสิ้นโดยเร็วเพื่อจะประกาศใช้ในเร็วๆนี้”

การแก้ปัญหาความยากจนให้แก่ชนกลุ่มน้อยเป็นหน้าที่สำคัญในภารกิจการแก้ปัญหาความยากจนของเวียดนาม ซึ่งการที่รัฐบาลระดมพลังและแก้ไขกลไกต่างๆให้สอดคล้องและคล่องตัวมากขึ้นนั้นจะเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาของตำบลที่ยากจนในเขตชนกลุ่มน้อยและมีส่วนร่วมช่วยให้ประชาชนที่นี่หลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน./.