เบื้องหลังของการสั่งยุติหน้าที่การตรวจสอบของAL ในซีเรีย
Doan Trung -  
วันที่ 28มกราคมที่ผ่านมา เลขาธิการสันนิบาตอาหรับหรือALได้ประกาศยุติภารกิจของคณะเจ้าหน้าที่ผู้สังเกตุการณ์ประจำในซีเรียด้วยสาเหตุที่ว่า สถานการณ์การใช้ความรุนแรงในซีเรียได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของประชามตินั้นก็เริ่มมีความสงสัยตั้งแต่แรกเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของALเนื่องจากความแตกแยกภายในและจนถึงขณะนี้ประชามติก็ได้ตั้งคำถามอีกว่า มีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังของการตัดสินใจดังกล่าว
วันที่ 28มกราคมที่ผ่านมา เลขาธิการสันนิบาตอาหรับหรือALได้ประกาศยุติภารกิจของคณะเจ้าหน้าที่ผู้สังเกตุการณ์ประจำในซีเรียด้วยสาเหตุที่ว่า สถานการณ์การใช้ความรุนแรงในซีเรียได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของประชามตินั้นก็เริ่มมีความสงสัยตั้งแต่แรกเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของALเนื่องจากความแตกแยกภายในและจนถึงขณะนี้ประชามติก็ได้ตั้งคำถามอีกว่า มีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังของการตัดสินใจดังกล่าว
http://www.tinmoi.vn การเดินขบวนประท้วงในประเทศซีเรีย |
ตามความตกลงระหว่างซีเรียและสันนิบาตอาหรับ เพื่อพยายามยุติการปะทะในซีเรียตั้งแต่วันที่26ธันวาคมปี2011 ALได้ส่งคณะผู้สังเกตุการณ์รวม163คนไปยังประเทศนี้และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น300คน แต่อย่างไรก็ดีเมื่อสัปดาห์ก่อน สภาความร่วมมือเขตอ่าวหรือ จีซีซี ได้ประกาศถอนเจ้าหน้าที่ในซีเรียกลับประเทศแต่เพียงฝ่ายเดียวและต่อจากนั้น ALก็ประกาศยุติการเคลื่อนไหวของคณะเจ้าหน้าที่ประจำในซีเรียเพื่อความปลอดภัยเนื่องจากสถานการณ์ในซีเรียได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งการตัดสินใจนี้ได้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ซีเรียได้อนุมัติการขยายเวลาการปฏิบัติงานของคณะผู้สังเกตุการณ์ALเพิ่มอีก1เดือนถือเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน โดยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียแซกเกลาฟ์รอฟได้ประกาศว่าอยากทราบสาเหตุของการตัดสินใจดังกล่าวและแสดงการสนับสนุนการเพิ่มจำนวนผู้สังเกตุการณ์ ส่วนเกี่ยวกับการวิเคราะห์ของฝ่ายตะวันตกที่ว่าหน้าที่ของ ALในซีเรียไม่มีความหมายและความพยายามทำการสนทนากับทางการของประธานาธิบดีซีเรีย บาซาร์ อัล อาสซาด เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ และคำประกาศที่ขาดความรับผิดชอบต่างๆพร้อมด้วยการแสวงหาวิธีการทำลายความพยายามปรับเสถียรภาพให้แก่สถานการณ์ในซีเรียเป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้ ทั้งนี้ดูเหมือนว่า คำประกาศต่างๆของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียก็สามารถอธิบายสาเหตุส่วนหนึ่งของการตัดสินใจยุติหน้าที่ของALในซีเรียแล้ว นั่นคือความขัดแย้งภายในALและหน้าที่การตรวจสอบนี้มิได้อยู่ในแผนการโค่นล้มทางการดามัสกัสของฝ่ายตะวันตก โดยในตลอดเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่ได้รับการก่อตั้งเมื่อปี1945 ALก็ประสบปัญหาความขัดแย้งภายในมาโดยตลอดเนื่องจากเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศต่างๆ อย่างเช่นเมื่อสหรัฐเปิดสงครามอิรัก มีสมาชิกบางกลุ่มของAlได้แสดงท่าทีคัดค้านสงครามแต่มีบางกลุ่มกลับให้การสนับสนุนด้วยการอนุญาตให้สหรัฐใช้ฐานทัพทหาร สำหรับปัญหาลิเบียนั้น เป็นครั้งแรกที่Alได้เปิดไฟเขียวให้แก่การปฏิบัติมติกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าลิเบียและถึงแม้จะเป็นเพียงพิธีการเท่านั้นแต่การสนับสนุนมตินี้ก็ได้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่ AL แต่ในปัญหาซีเรีย การเข้าแทรกแซงของALกลับสร้างกระแสประชามติที่แตกต่างกันทั้งภายในกลุ่มและระหว่างฝ่ายตะวันตกกับรัสเซียและจีน ซึ่งภายหลังที่ALได้ประกาศระงับการเป็นสมาชิกภาพของซีเรียเมื่อวันที่12พฤศจิกายนปี2011พร้อมทั้งใช้มาตรการคว่ำบาตรต่างๆ แล้ว ก็มีหลายประเทศสมาชิกเช่น เลบานอน จอร์แดนหรืออิรักขอยืนอยู่นอกปัญหานี้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจกับดามัสกัส ในขณะที่อัลจีเรียยืนยันการคัดค้านการแทรกแซงทุกรูปแบบต่อซีเรีย ส่วนระหว่างรัสเซีย จีนและฝ่ายตะวันตกก็ไม่สามารถแสวงหาเสียงพูดเดียวกันรอบๆปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่การตรวจสอบของALในซีเรียได้ เพราะรัสเซียและจีนให้การสนับสนุนภารกิจของALในซีเรียและถือเป็นแนวทางแก้ไขการปะทะอย่างสันติส่วนสหรัฐ ฝรั่งเศสและประเทศพันธมิตรอื่นๆกลับแสดงความไม่เชื่อมั่นต่อความสามารถของALและถือว่านี่เป็นมาตรการถ่วงเวลาให้แก่ประธานาธิบดีบาซา อัล อาสซาด ฉนั้นจะต้องอาศัยมาตรการระหว่างประเทศผ่านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ดังนั้นฝ่ายตะวันตกจึงไม่เคยให้การสนับสนุนมาตรการที่ALเสนอที่ย้ำถึงการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติระหว่างประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีซีเรียเพื่อเปิดทางให้แก่การจัดการเลือกตั้ง จากสถานการณ์ที่ยุ่งยากโดยที่ไม่สามารถสร้างความพอใจให้แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ และหน้าที่การตรวจสอบที่ALกำลังปฏิบัตินั้นก็ได้กลายเป็นภาระอันหนักหน่วงที่ตนไม่อยากแบกรับอีกต่อไปและเหตุผลที่ถือว่าเหมาะสมที่สุดเพื่อยุติภารกิจนี้ก็คือ สถานการณ์ความรุนแรงที่ทวีขึ้นและการรักษาความปลอดภัยของคณะเจ้าหน้าที่ผู้สังเกตการณ์
ส่วนทางด้านประชามติได้แสดงความเห็นว่า การยุติปฏิบัติการตรวจสอบของALก่อนการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่31มกราคมนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับมติว่าด้วยปัญหาซีเรียนั้นถือเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้แก่ประชาคมระหว่างประเทศและเป็นการเปิดทางให้ตะวันตกเข้าแทรกแซงปัญหาซีเรีย./.
Doan Trung