เปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยี ปรับเปลี่ยนสู่ยุดดิจิทัลและสร้างความหลากหลายให้แก่ห่วงโซ่อุปทานเพื่อยกระดับความสามารถในการปรับตัว

(VOVWORLD) -การเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานคือกุญแจสำหรับการยกระดับความสามารถในการปรับตัวของเศรษฐกิจเวียดนามท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค ค้ำประกันความมีเสถียรภาพของการผลิตและการเข้าร่วมห่วงโซ่มูลค่าโลกอย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือข้อสังเกตของผู้เชี่ยวชาญหลายคนในการสัมมนาเชิงวิชาการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานในกรอบฟอรั่มเศรษฐกิจเวียดนามที่จัดโดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจส่วนกลางและรัฐบาลเวียดนามเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา ณ นครโฮจิมินห์
เปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยี ปรับเปลี่ยนสู่ยุดดิจิทัลและสร้างความหลากหลายให้แก่ห่วงโซ่อุปทานเพื่อยกระดับความสามารถในการปรับตัว - ảnh 1ภาพการสัมมนา (congthuong.vn)

เวียดนามกำลังย่างเข้าสู่ระยะแห่งการพัฒนาใหม่ในสภาวการณ์ที่โลกมีความผันผวนเป็นอย่างมากและยากที่จะคาดเดาได้ รวมไปถึงการแข่งขันระหว่างบรรดาประเทศมหาอำนาจ ผลกระทบจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ผลกระทบจากการปะทะด้านอาวุธและสงครามการค้า ได้ทำให้การพึ่งตนเองในการพัฒนากลายเป็นปัญหาที่เร่งด่วนอย่างมาก จากการเป็นเศรษฐกิจที่เปิดกว้าง ความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 5 ปีตั้งแต่ปี 2021-2025 และยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะปี 2021-2030 ของเวียดนามเป็นอย่างมากและยากที่จะคาดเดาได้ ในสภาวการณ์ดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานของเวียดนามก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่ายินดี โดยโครงการเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยีแห่งชาติถึงปี 2030 ได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2021 โดยมีวัตถุประสงค์เพิ่มจำนวนสถานประกอบการที่เปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยีตั้งแต่ร้อยละ 15-20 ต่อปี สำหรับการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล ถึงปลายไตรมาสแรกของปี 2022 มีกระทรวงและหน่วยงานทุกแห่งในทั้งหมด 63 จังหวัดและนครได้จัดตั้งคณะกรรมการชี้นนำ มี 55 จังหวัดและนครจากจำนวนทั้งหมด 63 จังหวัดและนครได้ประกาศมติ คำสั่งและเอกสารของพรรคสาขาในจังหวัดและนครเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล มี 59 จังหวัดและนครและ 19 กระทรวงและหน่วยงานจากจำนวนทั้งหมด 22 กระทรวงและหน่วยงานได้ประกาศแผนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในระยะ 5 ปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยีและการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลได้มีส่วนร่วมต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพในด้านธรรมาภิบาลของรัฐและสถานประกอบการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นาย เหงียนนามหาย อธิบดีกรมวางแผนการเงินสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้แสดงความคิดเห็นว่า

“เวียดนามได้สร้างนิมิตหมายต่างๆ โดยยอดเงินลงทุนสำหรับสถานประกอบการที่ประกอบการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม ระบบนิเวศการทำธุรกิจสตาร์ทอัพกว่า 3,000 แห่งในช่วงสองสามปีมานี้บรรลุกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2017 อันเป็นผลจาก”

สำหรับความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทาน เวียดนามได้เข้าร่วมและลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี 17 ฉบับกับหุ้นส่วนสำคัญชั้นนำของโลก ซึ่งในนั้นมีหลายฉบับเป็นข้อตกลงการค้ารุ่นใหม่ เช่น CPTPP  RCEP และ EVFTA นอกจากนี้ สถานประกอบการเวียดนามยังเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่การผลิตในระดับภูมิภาคและโลกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งขยายตลาดนำเข้าและส่งออกให้แก่สินค้าเวียดนามอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ดร. เจิ่นถิห่งมิงห์ อธิบดีสถาบันวิจัยการบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางกล่าวว่า

“การที่เวียดนามเป็นสมาชิกขององค์กรพหุภาคีต่างๆ และข้อตกลงการค้าเสรีได้เอื้อให้เราผลักดันการนำเข้าและส่งออก ดิฉันขอย้ำว่า เวียดนามจะมีโอกาสเข้าร่วมการสนทนา ซึ่งช่วยให้สถานประกอบการเวียดนามได้รับความสะดวกและเป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานมากขึ้น”

การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 กำลังมีขึ้นอย่างรวดเร็วและเข้มแข็ง ซึ่งส่งผลอย่างเข้มแข็ง รอบด้านและลึกซึ้งต่อทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม ส่งผลให้เกือบทุกประเทศต้องปรับปรุงและกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาอีกครั้ง โดยเน้นลงทุนในการเปลี่ยนแปลงใหม่วิทยาศาสตร์และเทคโนโยลี ในสภาวการณ์ดังกล่าว รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศและผลักดันการปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงนวัตกรรม พร้อมทั้งส่งเสริมกิจกรรมการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและสร้างความหลากหลายด้านห่วงโซ่อุปทาน เน้นพัฒนาอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานและอุตสาหกรรมประกอบเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถของเศรษฐกิจภายในประเทศและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและพร้อมที่จะรับกระแสการลงทุนใหม่ในสภาวการณ์ที่กลุ่มบริษัทข้ามชาติต่างๆพยายามสร้างความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทาน

การเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและการสร้างความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานไม่เพียงแต่เป็นโอกาสเท่านั้น หากยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายและความคาดหวังเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ดังนั้น เวียดนามกำลังปรับปรุงระบบนโยบายและกฎหมายให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น กำหนดแนวทาง มาตรการและนโยบายเชิงก้าวกระโดดต่างๆเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการในด้านอุตสาหกรรมของเวียดนามเพิ่มทักษะความสามารถในด้านธรรมาภิบาล เทคนิคและปฏิรูปโครงสร้างการผลิตโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ รัฐและสถานประกอบการยังเพิ่มการเชื่อมโยงเพื่อสามารถเข้าร่วมห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทานโลกอย่างกว้างลึกมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด