ปี 2015 ได้เสร็จสิ้นลงด้วยผลสำเร็จที่น่ายินดีในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม นั่นคืออัตราการขยายตัวจีดีพีบรรลุร้อยละ 6.68 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้คือร้อยละ 6.2 และเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ควบคู่กันนั้น ภาวะเงินเฟ้อถูกควบคุม เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพในขั้นพื้นฐาน ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลงเหลือเพียงร้อยละ 0.6 ซึ่งก็ต่ำที่สุดในรอบ 15 ปีเช่นกัน ส่วนการขยายตัวของเป้าหมายอื่นๆก็อยู่ในระดับสูง เช่น การผลิตอุตสาหกรรม คุณภาพสินเชื่อ อัตราการแลกเปลี่ยนของระบบธนาคารได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสม ตลาดเงินตราต่างประเทศมีเสถียรภาพ การส่งออกอยู่ในระดับสูง การสำรองเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติกาล ส่วนงานด้านวัฒนธรรมสังคมมีก้าวพัฒนาใหม่ ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ปี 2015 ยังเป็นปีแห่งความสำเร็จในด้านการต่างประเทศ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ที่โดดเด่นคือเวียดนามได้ผลักดันการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ถือผลประโยชน์ของประเทศและประชาชาติเป็นเป้าหมายสูงสุดและสร้างบรรยากาศที่อำนวยความสะดวกให้แก่การสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามได้ร่วมมือกับบรรดาประเทศอาเซียนจัดตั้งประชาคมอาเซียน ซึ่งเป็นการเปิดอนาคตที่สดใสและความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ภูมิภาค เวียดนามยังเสร็จสิ้นการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย – ยุโรป ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีกับสาธารณรัฐเกาหลีและเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีกับ 11 หุ้นส่วนภายในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกอันเป็นการเปิดโอกาสที่สดใสให้แก่เศรษฐกิจและการค้าของประเทศ

จากผลสำเร็จดังกล่าว ชาวเวียดนามได้ต้อนรับปีวอก 2016 ที่มีทั้งโอกาสและความท้าทายบนเส้นทางแห่งการผสมผสานและพัฒนา ซึ่งจากจุดนี้ เวียดนามจะมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเศรษฐกิจทั่วโลกผ่านการพัฒนาการผลิต ขยายตลาดส่งออก ดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและสร้างงานทำใหม่อีกหลายตำแหน่ง ทุกวันนี้ ชาวเวียดนามมีความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อสร้างพื้นฐานทางวัตถุให้แก่การเผยแพร่คุณค่าอันดีงามของเวียดนามต่อไป นั่นคือผสมผสานเพื่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืนมากขึ้น ผสมผสานเพื่อสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามที่สันติสุขและเจริญรุ่งเรือง

โอกาสแห่งการผสมผสานและพัฒนาประเทศในวสัตฤดูนี้มีจุดเริ่มต้นเมื่อ 30 ปีก่อนหลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเริ่มภารกิจ “โด๋ยเม๊ย” หรือการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศเมื่อปี 1986 ส่วนในปีนี้ การเปลี่ยนแปลงใหม่จะมีแรงผลักดันใหม่เมื่อการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 ได้มีการตัดสินใจนโยบายใหม่ๆที่วางแนวทางและเร่งเร้าให้ทั้งประชาชาติเวียดนามก้าวเดินบนเส้นทางนี้ต่อไป ควบคู่กันนั้น ข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆจะเปิดโอกาสให้แก่การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเศรษฐกิจเวียดนาม

ฤดูใบไม้ผลินี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นปีแรกของการปฏิบัติมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 และเป็นปีแรกในการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2016-2020 ด้วยเป้าหมายทำการเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัวและเข้าร่วมห่วงโซ่การผลิตของโลกอย่างกว้างลึกมากขึ้น ด้วยพลังแห่งวสันต์จากภารกิจ “โด๋ยเม๊ย” เป็นเวลา 30 ปี เวียดนามกำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งในภารกิจการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและเวียดนามจะเปลี่ยนแปลงใหม่และผสมผสานเข้ากับกระแสโลกมากขึ้นนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลินี้.