นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง (VGP)

ในจดหมายที่ส่งถึงที่ประชุมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 1955 ประธานโฮจิมินห์ได้กำชับให้สร้างสรรค์ระบบสาธารณสุขเวียดนาม โดยย้ำว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแต่ละคนต้องให้การช่วยเหลือประชาชนและรัฐบาลสร้างสรรค์ระบบสาธารณสุขที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ในการปฏิบัติตามโอวาทดังกล่าวของประธานโฮจิมินห์ แพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเวียดนามได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคและสามารถหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือดูแลและยกระดับสุขภาพให้แก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี

ปฏิบัติหน้าที่ดูแลและยกระดับสุขภาพให้แก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิผล

ในประวัติศาสตร์แต่ละระยะของเวียดนาม หน่วยงานสาธารณสุขต้องรับมือความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างสำเร็จ โดยในหลายปีที่ผ่านมา หน่วยงานสาธารณสุขเวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการรับมือโรคระบาดต่างๆ เช่น โรคฝีดาษลิงเมื่อปี 1978 กาฬโรคเมื่อปี 2002 และบาดทะยักในทารกแรกเกิดเมื่อปี 2005 เวียดนามยังเป็นประเทศแรก ๆ ที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส อีโบลาและ MERS – Cov ในตลอดกว่า 3 ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้ต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโดวิด – 19 ที่มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและแพทย์นับแสนนายได้ร่วมกับประชาชนต่อสู้กับการระบาดจนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด – 19 ให้ครอบคคลุมประชากรมากที่สุดจนเวียดนามเป็น 1 ใน 6 ประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด – 19 มากที่สุดในโลก นอกจากนั้น หน่วยงานสาธารณสุขก็ยังควบคุมโรคระบาดอื่นๆ ในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับส่วนร่วมของหน่วยงานสาธารณสุข นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ย้ำว่า            “ผมขอยกย่องสดุดีจิตใจเมตรตาอารีและความสามารถด้านวิชาการของแพทย์เวียดนามและผลสำเร็จที่หน่วยงานสาธารณสุขได้บรรลุในเวลาที่ผ่านมา ในนามของรัฐบาล ผมขอกล่าวขอบคุณ “นักรบเสื้อขาว”ทุกคนที่ได้พยายามและอุทิศเพื่อมีส่วนร่วมสร้างผลสำเร็จที่สำคัญๆ และพัฒนาประเทศ”

ไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมต่อภารกิจการดูแลสุขภาพของประชาชนเท่านั้น แต่แพทย์เวียดนามยังปฏิบัติหน้าที่ระหว่างประเทศอันสูงส่งในกองกำลังรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติอีกด้วย โดยได้ให้การรักษาพยาบาล มอบยาและสิ่งของต่างๆให้แก่ประชาชนในซูดานใต้ รวมทั้งมอบเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล Bentiu ในซูดานใต้

สร้างสรรค์ระบบสาธารณสุขเวียดนาม

ควบคู่กับการปฏิบัติภารกิจดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชน ในหลายปีที่ผ่านมา หน่วยงานสาธารณสุขเวียดนามยังสร้างความเข้มแข็งในการผลิตวัคซีน โดยสามารถผลิตวัคซีนป้องกันโรคระบาดต่างๆ 11 ชนิดในจำนวนวัคซีนที่ใช้รวม 12 ชนิด พัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการผลิตเวชภัณฑ์ ในระยะปี 2015- 2022 หน่วยงานฯ ได้ทำการวิจัยพัฒนายารักษาโรคชนิดใหม่ๆ ทำการปลูกถ่ายอวัยวะ ทำการผ่าตัดหัวใจและหลอดเลือดด้วยการส่องกล้องในราคา คิดเป็นแค่1/3 เมื่อเทียบกับการผ่าตัดในต่างประเทศ

การปฏิบัติเป้าหมายยกระดับสุขภาพให้แก่ชาวเวียดนาม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และยกระดับคุณภาพชีวิต หน่วยงานสาธารณสุขเวียดนามกำลังสร้างสรรค์ระบบสาธารณสุขที่เท่าเทียม มีคุณภาพ ประสิทธิภาพและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กำชับว่า            “ต้องพัฒนาหน่วยงานสาธารณสุขอย่างรอบด้าน ทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน แพทย์แผนโบราณและแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่มีการเลือกปฏิบัติในการรักษาไม่ว่าจะเป็นในสถานพยาบาลของรัฐหรือของเอกชน โดยต้องผลักดันความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนเพื่อระดมพลังทุกแหล่งมาพัฒนาหน่วยงานสาธารณสุขโดยเร็ว ยั่งยืน ทันสมัยและผสมผสาน หน่วยงานสาธารณสุขต้องผลักดันขบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมและการวิจัยวิทยาศาสตร์เชิงลึกมากขึ้น”

จากการมีประวัติศาสตร์อันยาวนานพร้อมกับความกระตือรือร้น แถวขบวนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะร่วมแรงร่วมใจมุ่งมั่นสร้างความสำเร็จอื่นๆ ในภารกิจการดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนต่อไป.