เวทีการเมืองญี่ปุ่นกลับสู่ภาวะมรสุม

(VOVworld) –  มรสุมการเมืองแห่งแดนอาทิตย์อุทัยได้ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง  ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจซบเซา ความตึงเครียดด้านการพิพาทดินแดนที่ยังไม่มีสัญญาณคลี่คลายลง รวมไปถึงการตัดสินใจยุบรัฐสภาโดยเร็วที่สุดในวันที่๑๖เดือนนี้และอาจจะจัดการเลือกตั้งในเดือนธันวาคมตามการตัดสินใจของนายโยชิฮิโกะ โนดะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกำลังทำให้ประเทศนี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากใหม่ๆซึ่งประชามติเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับคลื่นใต้น้ำบนเวทีการเมืองญี่ปุ่นที่อาจกดดันจนทำให้นายโนดะต้องลาออกจากตำแหน่ง

(VOVworld) –  มรสุมการเมืองแห่งแดนอาทิตย์อุทัยได้ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง  ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจซบเซา ความตึงเครียดด้านการพิพาทดินแดนที่ยังไม่มีสัญญาณคลี่คลายลง รวมไปถึงการตัดสินใจยุบรัฐสภาโดยเร็วที่สุดในวันที่๑๖เดือนนี้และอาจจะจัดการเลือกตั้งในเดือนธันวาคมตามการตัดสินใจของนายโยชิฮิโกะ โนดะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกำลังทำให้ประเทศนี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากใหม่ๆซึ่งประชามติเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับคลื่นใต้น้ำบนเวทีการเมืองญี่ปุ่นที่อาจกดดันจนทำให้นายโนดะต้องลาออกจากตำแหน่ง 

เวทีการเมืองญี่ปุ่นกลับสู่ภาวะมรสุม - ảnh 1
นายโยชิฮิโกะ โนดะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ตัดสินใจยุบสภาในวันที่๑๖เดือนนี้(Photo:Internet)

เมื่อวันที่๑๓เดือนนี้ นายโยชิฮิโกะ โนดะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ตัดสินใจยุบสภาในวันที่๑๖เดือนนี้และการเลือกตั้งคาดว่า จะมีขึ้นในเดือนธันวาคม สื่อใหญ่ๆของญี่ปุ่นได้รายงานข่าวว่า นายกรัฐมนตรีโนดะจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่๑๖ธันวาคมหรืออย่างช้าที่สุดในวันที่๒๐มกราคมปี๒๐๑๓ ก่อนหน้านั้น นายโยชิฮิโกะ โนดะได้ปฏิเสธอภิปรายเกี่ยวกับกำหนดเวลาจัดการเลือกตั้งในการประชุมรัฐสภาซึ่งหมายความว่า นาย โนดะจะไม่รอจนถึงเดือนกันยายนปี๒๐๑๓ซึ่งเป็นกำหนดการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรวาระปี๒๐๐๙ถึงปี๒๐๑๓  บรรดาผู้สันทัดกรณีเห็นว่า จากการตัดสินใจนี้ นายโยชิฮิโกะ โนดะจะต้องเผชิญกับอุปสรรคในการนำพรรคประชาธิปไตยหรือDPJประสบชัยชนะในการเลือกตั้งเร็วๆนี้ เพราะประชาชนญี่ปุ่นกำลังมีความผิดหวังต่อผลงานของพรรคDPJ ในตลอด๓ปีที่บริหารประเทศ หลังจากที่พรรคเสรีประชาธิปไตยหรือLDPทำหน้าที่ดังกล่าวมาอย่างยาวนาน   ภายหลังการตัดสินใจนี้ สส.หลายนายของพรรคDPJได้คัดค้านแผนการยุบสภาผู้แทนราษฎร ล่าสุดคือ จากทัศนะที่ว่า  เมื่อสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ พรรคDPJจะไม่สามารถรักษาอำนาจการบริหารประเทศได้เพราะคะแนนนิยมในคณะรัฐมนตีกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ นายYoshikatsu Nakayama ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศแห่งสภาผู้แทนราษฎรได้เรียกร้องให้นายโยชิฮิโกะ โนดะ ลาออกจากตำแหน่ง ถ้าต้องการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด และเมื่อบ่ายวันที่๑๓เดือนนี้ นายAzuma Koshiishi เลขาธิการพรรคDPJได้ส่งมติคัดค้านของคณะกรรมการพรรคถึงนายโยชิฮิโกะ โนดะ การตัดสินใจดังกล่าวของนายโนดะทำให้เขาต้องพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเขาเคยกล่าวว่า จะมีการตัดสินใจที่เหมาะสมเมื่อโอกาสอำนวย ดังนั้น การออกมาประกาศยุบสภาในเวลานี้จึงมีหลายเหตุผลซึ่งบรรดาผู้สันทัดกรณีเห็นว่า ในสภาวการณ์ปัจจุบัน การที่นายโยชิฮิโกะ โนดะประกาศว่า จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลี่ยงการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีของฝ่ายค้านเพราะมีความกังวลว่า ถ้าไม่สามารถผ่านการลงมติได้ คณะรัฐมนตรีของเขาจะต้องลาออกจากตำแหน่งและไม่สามารถอนุมัติร่างกฏหมายเกี่ยวกับการเพิ่มภาษีการบริโภคเป็น๒เท่าคือที่ร้อยละ๑๐ได้   ก่อนหน้านั้น ในการตอบกระทู้ถามในวุฒิสภาโดยฝ่ายค้านควบคุม นายโยชิฮิโกะ โนดะเห็นว่า ถ้าคณะรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ก็หมายความว่า เขาจะต้องละทิ้งความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี  และเขาได้เรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาร่วมมือเพื่ออนุมัติร่างกฏหมายฉบับสำคัญๆในการประชุมรัฐสภาวิสามัญปัจจุบัน ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นลงในวันที่๓๐พฤศจิกายนนี้พร้อมทั้งย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังมีสัญญาณชะลอตัวเนื่องจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นบวกกับเศรษฐกิจโลกซบเซาเนื่องจากวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรป อย่างไรก็ดี ภายหลังการตัดสินใจดังกล่าว อุปสรรคที่นายกรัฐมนตรีผู้นี้ต้องเผชิญกลับมีไม่น้อยโดยสส.พรรคDPJหลายนายยังคงคัดค้านการจัดการเลือตั้งก่อนกำหนดและคะแนนนิยมรัฐบาลปัจจุบันก็ลดลงต่ำกว่าร้อยละ๒๐ซึ่งส่วนหนึ่งเนื่องจากข้อเสนอเพิ่มภาษีของนายโยชิฮิโกะ โนดะ ผลการสำรวจล่าสุดของหนังสือพิมพ์อาซาฮิ ชิมบุน ซึ่งประกาศเมื่อวันที่๑๓เดือนนี้ปรากฏว่า คะแนนความไม่พอใจต่อรัฐบาลโนดะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ๖๔เมื่อเทียบกับเดือนก่อนคือร้อยละ๕๙ ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดนับตั้งแต่นายโยชิฮิโกะ โนดะขึ้นปริหารประเทศในขณะที่คะแนนนิยมมีเพียงร้อยละ๑๘เท่านั้น เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า มีความเป็นไปได้ที่นายโยชิฮิโกะ โนดะ จะไม่ได้รับคะแนนสนับสนุนเพียงพอในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ซึ่งนี่มิใช่ครั้งแรกที่เวทีการเมืองญี่ปุ่นสั่นคลอนเพราะ ในรอบ๕ปีที่ผ่านมา ปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงภาษีหรือการเพิ่มงบประมาณเสริมเพื่อฟื้นฟูบูรณะประเทศเป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นต้องลาออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็วซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคมปี๒๐๑๑ นายนาโอโตะ คังอดีตนายกรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้รัฐสภาอนุมัติร่างกฏหมายสำคัญ๓ฉบับที่เขาได้ให้การสนับสนุน ถ้าหากนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ไม่สามารถก้าวข้ามระยะลำบากนี้ไปได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ญี่ปุ่นจะมีนายกรัฐมนตรีใหม่คนที่๗ในรอบ๕ปีและถ้าหากเป็นเช่นนี้ ชาวญี่ปุ่นจะมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานะและอิทธิพลของญี่ปุ่นบนเวทีการเมืองและเศรษฐกิจโลกมากขึ้น เพราะ การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้นำสูงสุดนี้ได้ทำให้อิทธิพลของญี่ปุ่นในโลกลดลงโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ./.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด